NAT ดีดบวก 8% เก็งงบ Q1 แจ่ม มั่นใจรายได้ปีนี้โตเข้าเป้า 30%

NAT ดีดบวก 8% ลุ้นงบไตรมาส 1 แจ่ม ลุยประมูลงานรัฐ-เอกชน 2.2 พันล้าน มั่นใจดันรายได้ปีนี้โตเข้าเป้า 30% ด้านผู้ถือหุ้นไฟเขียวแจกปันผล 0.025 บาท/หุ้น XD วันที่ 29 เม.ย.67


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(22 เม.ย.67) ราคาหุ้นบริษัท แนท แอบโซลูท เทคโนโลยีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ NAT ณ เวลา 15:31 อยู่ที่ระดับ 5.10 บาท บวก 0.40 บาท หรือ 8.51% ราคาสูงสุด 5.20 บาท ราคาต่ำสุด 4.70 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 24.09 ล้านบาท

ด้านนายสุธี อภิชนรัตนกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร NAT ผู้เชี่ยวชาญด้าน Infratech ส่วนงานโครงสร้างระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และการให้บริการด้านเทคโนโลยีครบวงจรแก่องค์กรชั้นนำของประเทศ เปิดเผยว่า ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลเพิ่มเติมจากงวดผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม – 31 ธันวาคม 2566 ในอัตรา 0.025 บาท/หุ้น คิดเป็นจำนวนเงิน 8.2 ล้านบาท หรือ คิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผลประจำปี 2566 อยู่ที่ 7.38% ของกำไรสุทธิของบริษัทหลังหักสำรองตามกฎหมาย โดยกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 29 เมษายน 2567 กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผล (Record Date) วันที่ 30 เมษายน 2567 และ กำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 17 พฤษภาคม 2567

สำหรับแนวโน้มธุรกิจช่วงไตรมาส 2/2567 บริษัทมีความมั่นใจว่าจะสามารถดำเนินงานได้ตามแผนที่วางไว้ โดยมุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพการเข้ารับงานที่มีขนาดใหญ่และให้บริการแก่กลุ่มลูกค้าที่มีหลากหลายมากขึ้น ซึ่งบริษัทสามารถสร้างการรับรู้รายได้จากการเข้ารับงานใหม่ในช่วงไตรมาส 1/2567 ครอบคลุมกลุ่มงานต่าง ๆ อาทิ กลุ่มงานระบบโครงสร้างพื้นฐานไอที, งานด้านระบบคลาวด์ และ งานระบบการติดต่อสื่อสารแบบครบวงจร

นอกจากนี้ บริษัทเริ่มดำเนินงานการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการร่วมกับเทคโนโลยีขั้นสูงของ เดลล์ เทคโนโลยีส์ โดยมุ่งมั่นนำเสนอบริการโซลูชันทางเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ที่แก้ไขปัญหาให้กับลูกค้าได้อย่างตรงจุด ตอบรับเทรนด์การใช้เทคโนโลยีขององค์กรในปัจจุบัน เช่น Cybersecurities, AI, Software Application และ Data Analytic จากแผนการดำเนินงานดังกล่าว คาดว่าจะส่งผลให้บริษัทสามารถสร้างการเติบโตของรายได้ในปี 2567 ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ไม่ต่ำกว่า 30% และ เพิ่มความสามารถในการทำกำไรของบริษัทให้อยู่ในระดับที่ดี

อนึ่งก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 27 มี.ค.67 นายสุธี อภิชนรัตนกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร NAT เปิดเผยว่า แนวโน้มผลประกอบการในช่วงไตรมาส 1/67 จะเติบโตดีต่อเนื่อง จากการรับรู้รายได้งานโครงการพัฒนาระบบเทคโนโลยีของทั้งภาครัฐและเอกชน โดยปัจจุบันบริษัทมีโครงการในมือที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) มูลค่ารวม 665.81 ล้านบาท โดยคาดว่าจะทยอยรับในปีนี้ราว 650 ล้านบาทในครึ่งปีแรก โดยประกอบด้วยงานในกลุ่มการจำหน่ายและติดตั้งอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร และกลุ่มการให้บริการอื่น ๆ

นอกจากนี้บริษัทยังเข้ารับงานพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสารของทั้งภาครัฐและเอกชนเพิ่มเติมในช่วงไตรมาส 1/67 ประมาณ 30 งาน และเดินหน้าเข้าประมูลงานทั้งภาครัฐและเอกชนในปีนี้มูลค่ารวมประมาณ 2,200 ล้านบาท เพื่อสร้างการรับรู้รายได้ให้เติบโตต่อเนื่อง

โดยล่าสุดบริษัทเข้ารับงานจ้างเหมาขยายโครงข่ายอุปกรณ์สื่อสัญญาณขนาดใหญ่ระดับ Backbone Network รองรับการให้บริการ ISP-POP และ บริการ IIG มูลค่ารวม 89.45 ล้านบาท ซึ่งมีบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT เป็นเจ้าของโครงการ ระยะเวลาสัญญา 150 วัน ระหว่างวันที่ 12 ม.ค.-11 มิ.ย.67 โดยคาดว่าโครงการดังกล่าวจะทยอยรับรู้รายได้เข้ามาทั้งหมดภายในไตรมาส 3/67

สำหรับงานโครงการดังกล่าวอยู่ในกลุ่มงานประเภทระบบโครงข่ายโครงสร้างพื้นฐาน โดยเป็นการขยายโครงข่ายหลัก (Backbone Network) ที่ใช้ในการเชื่อมต่อระหว่างภูมิภาค จาก จ.กรุงเทพฯ ไปยังระบบการสื่อสารทางอินเทอร์เน็ต หรือ International Internet Gateway (IIG) ที่มีจุดเชื่อมต่อไปยังต่างประเทศจากทางพื้นที่ภาคใต้ของประเทศ ซึ่งเป็นการขยายขนาดการ รับ-ส่ง ข้อมูลที่มีขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อรองรับการให้บริการอินเทอร์เน็ตของทั้งประเทศ ที่ปัจจุบันมีความต้องการใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนมุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพการเข้ารับงานที่มีขนาดใหญ่ และให้บริการแก่กลุ่มลูกค้าที่มีหลากหลายมากขึ้น โดยปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนงานภาครัฐ 85.30% และงานภาคเอกชน 15% โดยบริษัทมีแผนจะเพิ่มสัดส่วนรายได้งานภาคเอกชนเป็น 20% เนื่องจากกลุ่มลูกค้าเอกชนให้มาร์จิ้นสูงราว 20% ในขณะที่กลุ่มภาครัฐอยู่ที่ระดับ 13%

อีกทั้งมีแผนขยายไปในกลุ่มโรงพยาบาล โดยขณะนี้บริษัทได้มีการเพิ่มบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ เพื่อรองรับการดำเนินงานส่วนต่าง ๆ โดยจะสามารถนำเสนอบริการโซลูชันทางเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ที่แก้ไขปัญหาให้กับลูกค้าได้อย่างตรงจุด เพื่อให้ก้าวทันต่อดีมานด์การใช้เทคโนโลยีที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น รวมทั้งบริษัทเริ่มดำเนินงานการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการร่วมกับเทคโนโลยีขั้นสูงของ เดลล์ เทคโนโลยีส์ เพื่อตอบรับเทรนด์การใช้เทคโนโลยีขององค์กรในปัจจุบัน เช่น Cybersecurity, AI และ Software Development เป็นต้น

ทั้งนี้จากแผนงานดังกล่าวแนวโน้มผลการดำเนินงานปี 2567 บริษัทมั่นใจว่ารายได้ปีนี้จะเติบโตเข้าเป้าไม่ต่ำกว่า 30% และทำนิวไฮต่อเนื่องจากปีก่อน และคาดเพิ่มความสามารถในการทำกำไรของบริษัทให้อยู่ในระดับที่ดีจากการเข้ารับงานที่มีศักยภาพ

Back to top button