UAC คาดได้เงินจากการใช้สิทธิ UAC-W1 ราว 600 ลบ.รองรับขยายงาน

UAC คาดได้เงินจากการใช้สิทธิแปลงวอร์แรนต์ในม.ค. 600 ลบ.รองรับขยายงานซึ่งมีแผนที่จะซื้อกิจการใหม่ 1-2 แห่ง รวมทั้งลงทุนในธุรกิจพลังงานทดแทน สำหรับผลการดำเนินงานในปีนี้ คาดว่ารายได้จะเติบโต 15-20% มาแตะระดับ 1,800 ลบ.


นายชัชพล ประสพโชค กรรมการผู้จัดการ  บริษัท ยูเอซี โกลบอล จำกัด (มหาชน) หรือ UAC เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าจะได้รับเงินจากการใช้สิทธิแปลงสภาพใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ(วอร์แรนต์) ชุดที่ 1 (UAC-W1) ครั้งสุดท้ายในเดือนม.ค.นี้  โดยหากนักลงทุนใช้สิทธิครบทั้งจำนวนจะทำให้มีเงินทุนเข้ามาประมาณ 600 ล้านบาท ซึ่งบริษัทจะนำไปใช้เพื่อการขยายการลงทุนตามนโยบายการลงทุน ซึ่งมีแผนที่จะซื้อกิจการใหม่ 1-2 แห่ง รวมทั้งลงทุนในธุรกิจพลังงานทดแทน โดยบริษัทตั้งงบลงทุนเฉลี่ยปีละ 1,000 ล้านบาท

“การ exercise  UAC-W1 ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย โดยในวันที่ 14 มกราคมนี้ จะเปิดให้นักลงทุนแจ้งความจำนง เพื่อใช้สิทธิแปลงสภาพหุ้นวอร์แรนต์เป็นหุ้นสามัญ โดยมีราคาใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญ 5.5555 บาท/หุ้น และมีอัตราการใช้สิทธิ 1 วอร์แรนต์ ต่อ  1.35 หุ้นสามัญ ทั้งนี้ในวันที่ 30 มกราคม 2559  UAC -W1 จะพ้นสภาพการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai  โดยเงินที่ได้นี้จะช่วยรองรับแผนการขยายธุรกิจในอนาคตให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่บริษัทและส่งผลดีต่อผู้ถือหุ้นด้วย”นายชัชพล กล่าว

ขณะที่ในปีนี้บริษัทยังคงเน้นนโยบายเชิงรุกในส่วนของธุรกิจเคมีภัณฑ์ ภายใต้บริษัท ยูเอซี แอดวานซ์ โพลีเมอร์ แอนด์ เคมิคัลส์ จำกัด (UAPC) ซึ่งจะมีการขายสินค้าเข้าสู่ตลาดใหม่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะประเทศกัมพูชา ลาว เมียนมาร์ เวียดนาม ซึ่งอยู่ในกลุ่มประเทศ CLMV

โดยบริษัทเห็นว่ากลุ่มประเทศ CLMV  เป็นประเทศในกลุ่มอาเซียนที่มีแนวโน้มเศรษฐกิจโตต่อเนื่องและยังมีแร่ธาตุทรัพยากรอุดมสมบูรณ์ รวมทั้งยังมีค่าจ้างแรงงานไม่สูงนัก กลุ่มประเทศ CLMV จึงเป็นประเทศที่มีคนสนใจเข้าไปลงทุนการผลิตและการตลาด ขณะที่กลุ่มประเทศ CLMV นั้นมีพรมแดนติดกับประเทศไทยจึงเหมาะมากที่ผู้ประกอบการไทยจะเข้าไปลงทุนหรือหาลู่ทางทำธุรกิจ

สำหรับผลการดำเนินงานในปีนี้ คาดว่ารายได้จะเติบโต 15-20% มาแตะระดับ 1,800 ล้านบาท ซึ่งนอกเหนือจากการรุกตลาดในกลุ่ม CLMV แล้ว ในด้านของธุรกิจพลังงานทดแทน โดยเฉพาะโครงการไบโอดีเซล จะสามารถเดินเครื่องผลิต เพื่อเชิงพาณิชย์ได้ในไตรมาส 2/59 ส่งผลให้มีกำลังผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 8.1 แสนลิตร/วัน จากเดิม 3.5 แสนลิตร/วัน และยังจะรับรู้รายได้จากธุรกิจโซลาร์เซลล์อย่างต่อเนื่อง ส่งผลบวกให้กับผลการดำเนินงานในปีนี้ด้วย

         

 

Back to top button