IVL วิ่ง 3% รับข่าวซื้อหุ้น EPL รุกตลาดอินเดีย ลุ้นปีนี้พลิกกำไร 8 พันล้าน ชูเป้า 31 บ.

IVL วิ่ง 3% บุกหนักตลาดอินเดีย เข้าซื้อหุ้น EPL Limited บริษัทผู้ผลิตหลอดลามิเนตใหญ่ที่สุดของโลก 24.9% ด้านโบรกฯ มองโอกาสขยายธุรกิจในอินเดียมีสูง ปีนี้พลิกทำกำไร 7-8 พันล้านบาท พร้อมปรับราคาเป้าหมายเพิ่มเป็น 31 บาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (29 พ.ค.68) ราคาหุ้น บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ IVL ณ เวลา 10:44 น. อยู่ที่ระดับ 21.50 บาท บวก 0.60 บาท หรือ 2.87% สูงสุดที่ระดับ 22.00 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 21.40 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 166.10 ล้านบาท

สำหรับราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมา ตอบรับข่าว นายอาลก โลเฮีย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม IVL เปิดเผยว่า บริษัทเดินหน้ากลยุทธ์การลงทุนในตลาดอินเดีย เป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง ด้วยการเข้าซื้อหุ้น 24.9% ในบริษัท EPL Limited ซึ่งเป็นบริษัทบรรจุภัณฑ์เฉพาะทางที่ใหญ่ที่สุดของโลก จาก Blackstone ได้เสร็จสมบูรณ์แล้ว การลงทุนครั้งนี้ช่วยให้ IVL สามารถใช้ประโยชน์จากโอกาสการเติบโตในกลุ่มประเทศเกิดใหม่ และต่อยอดการดำเนินธุรกิจที่มีอยู่ของบริษัท

โดย EPL เป็นแพลตฟอร์มที่น่าดึงดูดสำหรับการเจาะเข้าสู่การลงทุนของอินเดีย และได้รับใช้ประโยชน์จากแนว โน้มของผู้ผลิตระดับโลก ที่กำลังมองหาการกระจายความเสี่ยงในห่วงโซ่อุปทาน ด้วยเศรษฐกิจของอินเดียที่เติบโตอย่างรวดเร็วและกำลังมีบทบาทเป็นผู้นำในเวทีเศรษฐกิจโลกมากขึ้น รัฐบาลอินเดียจึงเดินหน้าส่งเสริมภาคอุตสาหกรรมภายใน ประเทศผ่านนโยบายที่เอื้อต่อการลงทุน

สำหรับ EPL เป็นบริษัทบรรจุภัณฑ์เฉพาะทางที่ใหญ่ที่สุดของโลก ซึ่งเป็นผู้ผลิตหลอดลามิเนตสำหรับธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคและเภสัชกรรม บริษัทมีพนักงานกว่า 3,500 คน จาก 25 สัญชาติ โดย EPL ดำเนินธุรกิจใน 11 ประเทศ ผ่านโรงงานผลิตที่ล้ำสมัย 21 แห่งและมีการเติบโตเพิ่มขึ้นทุกปี

อินเดียเป็นหนึ่งในโอกาสที่น่าตื่นเต้นที่สุดในตลาดเคมีภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ระดับโลกปัจจุบัน โดยที่ IVL มีข้อได้เปรียบตามธรรมชาติ ทั้งจากการมีฐานการดำเนินธุรกิจที่หลากหลายอยู่แล้วในประเทศรวมถึงความเป็นมาจากวัฒนธรรมอินเดียของครอบครัวผม

“จึงเป็นจุดแข็งสำคัญในการสร้างความร่วมมือกับบริษัทพันธมิตรในอินเดีย โดยเฉพาะบริษัทครอบครัวจำนวนมากที่สามารถใช้ศักยภาพร่วมกันทั้งในด้านขนาดและความเชี่ยวชาญ เพื่อขับเคลื่อนการลงทุนหนึ่งในเศรษฐกิจที่พลวัตที่สุดของโลก ซึ่งการเข้าถือหุ้นใน EPL สอดคล้องกับกลยุทธ์ดังกล่าว ด้วยเครือข่ายธุรกิจระดับโลก ผลิตภัณฑ์ที่มีนวัตกรรมและคุณภาพสูง ความมุ่งมั่นด้านความยั่งยืน และทีมผู้บริหารที่มากประสบการณ์ ล้วนทำให้ EPL เป็นพันธมิตรที่เหมาะสมอย่างยิ่งและด้วยประสบการณ์เชิงลึกของเราทั้ง 2 ฝ่ายในธุรกิจของตน จะทำให้สามารถสร้างคุณค่าได้อย่างเป็นรูปธรรมในทันที” นายอาลก โลเฮีย กล่าว

ทั้งนี้ธุรกิจหลักทั้งหมดของ IVL ในประเทศอินเดีย ได้แก่ Combined PET, Fibers และ Indovinya ต่างมีสถานะที่แข็งแกร่งในตลาด และมีแผนที่จะขยายการดำเนินงานเพื่อสร้างพอร์ตธุรกิจที่มีความหลากหลายและยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น IVL มีประสบการณ์ความสำเร็จตลอดระยะเวลากว่า 35 ปี ในการระบุโอกาสทางธุรกิจในกลุ่มที่เกี่ยวเนื่อง โดยร่วมงานกับทีมผู้นำที่มีประสบการณ์สูง มีวัฒนธรรมการบริหารที่สอดประสานกันอย่างดี และมีแนวทางการเติบโตที่เสริมสร้างซึ่งกันและกัน

นายสุวัฒน์ สินสาฎก กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด กล่าวว่า ประเทศอินเดียเป็นตลาดที่มีอัตราเติบโตสูงมาก กรณีที่ IVL เพิ่มสัดส่วนการลงทุนในตลาดนี้ ถือว่าเป็นการเพิ่มโอกาสการเติบโตของกำไรของบริษัทในอนาคต เนื่องจากปัจจุบันการลงทุนในอินเดียของบริษัทยังมีสัดส่วน EBITDA ต่ำกว่า 10% ดังนั้นจึงมีโอกาสขยายธุรกิจอีกมาก

“ตลาดอินเดีย แม้บางคนจะมองว่าเป็นตลาดปราบเซียน แต่ IVL มีต้นกำเนิดมาจากอินเดีย จึงไม่ใช่เรื่องยากในตลาดนี้ นอกเหนือจากตลาดสหรัฐฯ ที่ IVL มีสัดส่วนการลงทุนที่สูงกว่า 60%”

ทั้งนี้ประเมินว่ากำไรของ IVL ปีนี้จะอยู่ที่ 7-8 พันล้านบาท จากปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 1.9 หมื่นล้านบาท   จากการฟื้นตัวของธุรกิจปิโตรเคมี ขณะที่ราคาหุ้นยังอยู่ในระดับต่ำในปัจจุบัน โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 31 บาท

นายมงคล พ่วงเภตรา รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า มองเชิงบวกหลัง IVL เข้าซื้อหุ้น 24.9% ในบริษัท EPL ซึ่งเป็นบริษัทบรรจุภัณฑ์เฉพาะทางที่ใหญ่ที่สุดของโลก เนื่องจากเป็นการต่อยอดธุรกิจของ IVL ในอินเดีย รวมทั้งด้วยภาพรวมเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมา คาดว่าเม็ดเงินลงทุนในการเข้าถือหุ้นในครั้งนี้ไม่สูงมากนัก จึงมีโอกาสที่ IVL จะซื้อของถูกคุณภาพดี ที่จะเข้ามาต่อยอดธุรกิจได้ อย่างไรก็ตาม ต้องรอทางบริษัทประกาศตัวเลขออกมาก่อน

ขณะที่ราคาหุ้น IVL วานนี้ (28 พ.ค. 2568) ปรับเพิ่มขึ้น คาดว่าจะมาจากสถานการณ์ปิโตรเคมีที่เริ่มฟื้นตัวชัดเจนมากขึ้น ทำให้กลุ่มต้นน้ำรับผลดีจากสเปรดปิโตรเคมีที่ดีขึ้นมาก เมื่อเทียบกับปีที่ผ่าน ๆ มา ซึ่งในปีนี้ยังมองผลประกอบการของ IVL มีโอกาสพลิกเป็นกำไรที่ประมาณ 3,500 ล้านบาท เทียบกับขาดทุนสุทธิ 19,262 ล้านบาทในปี 2567

นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ปรับคำแนะนำ IVL ขึ้นเป็น “ซื้อ” ราคาเป้าหมายที่ 24 บาทต่อหุ้น คาดเห็นการฟื้นตัวในไตรมาส 2/2568 ที่ผลิตภัณฑ์หลักอย่างสาย PET เข้าสู่ high season และไม่ได้มีแรงกดดันจาก supply ใหม่มากเท่าปี 2567 รวมถึงแรงกดดันจากสงครามการค้าลดลง

สำหรับผลการดำเนินงาน IVL ในไตรมาส 2/2568 เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ 1) ปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นตามฤดูกาล 2) การเดินเครื่องโรงงานเต็มที่หลังปิดซ่อมในไตรมาส 1/2568 ไปแล้ว 3) Spread ที่ดีขึ้นจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งและไม่มีซัพพลายใหม่กดดัน 4) การฟื้นตัวของกำไรจากการประเมินมูลค่าสินทรัพย์

Back to top button