จัดธีม 10 กลุ่มหุ้นเด็ด เน้นมีประเด็นบวกล้วนๆ!

จัดธีม 10 กลุ่มหุ้นเด็ด เน้นมีประเด็นบวกล้วนๆ!


บล.ไอร่า ระบุในบทวิเคราะห์ (6 มิ.ย.) ว่าตลาดวันนี้ผันผวนภายใต้ประเด็นต่างประเทศที่มีมุมมองต่อตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ล่าสุดที่ปรับลดลงมากกว่าคาด พร้อมกับมีการปรับลดตัวเลขการจ้างงานในเดือนมี.ค. และเม.ย. ทำให้เกิดความกังวลต่อทิศทางการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ อย่างไรก็ตามลดน้ำหนักคาดการณที่เฟดจะพิจารณาขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ลง โดยเฟดจะประชุม 14 – 15 มิ.ย.59

ด้านราคาน้ำมันปรับลดลงเล็กน้อย แต่คาดยังอยู่ในระดับใกล้เคียง 50 USD/bbl ซึ่งอาจเป็นแรงเข้าเก็งกำไรหุ้นในกลุ่มพลังงานทั้ง PTT และ PTTEP โดยเฉพาะในช่วงราคาอ่อนตัว

ส่วนทางด้านประเด็นในประเทศ คาดได้รับปัจจัยบวกจาก Fund Flow ภายใต้แรงซื้อสุทธิต่างชาติต่อเนื่อง ซึ่งล่าสุดสูงกว่า 5,500 ล้านบาท และทำให้ YTD ยอดซื้อสุทธิสะสมปรับขึ้นเป็นกว่า 24,000 ล้านบาท แนะจับตาหุ้นขนาดใหญ่ที่เป็นเป้าหมายของนักลงทุนต่างชาติ

พร้อมแนะติดตามค่าเงินสหรัฐฯ ซึ่งล่าสุดอ่อนค่าลงเทียบกับเงินสกุลอื่นๆ ซึ่งส่งผลดีต่อราคาทองคำและสินค้าโภคภัณฑ์ ขณะที่ค่าเงินบาทล่าสุด อยู่ที่ 35.37 – 35.41 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นจากช่วงก่อนหน้านี้

ขณะที่แนวโน้มเศรษฐกิจไทย คาดดีขึ้นตามลำดับ ล่าสุดกระทรวงการคลังคาด GDP ไตรมาส 2/59 เติบโตมากกว่า 3.2% และคาดสูงสุดในไตรมาส 3/59 ที่ 4% จากการลงทุนภาครัฐ และคาดทั้งปี59 เติบโตสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 3.3% ซึ่งคาดยังเป็นปัจจัยหนุนภาพรวมตลาดบ้าง แนะติดตามหุ้นกลุ่ม Domestic Play เช่น ค้าปลีก และรับเหมาก่อสร้าง เป็นต้น

ทั้งนี้ยังแนะนำจับตา

(1) กลุ่มอาหาร การส่งออกได้รับประโยชน์จากแนวโน้มค่าเงินบาทอ่อน เช่น CPF ,TKN

(2) กลุ่มปิโตรเคมี ได้รับประโยชน์จากปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้น เช่น IVL

(3) กลุ่มวัสดุก่อสร้าง ที่คาดได้รับประโยชน์ต่อเนื่องจากส่วนต่างผลิตภัณฑ์ที่สูงขึ้น เช่น EPG, SCC และ VNG

(4) กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ เช่น ANAN, AP และ SPALI

(5) กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ที่ได้รับประโยชน์จากงานภาครัฐ เช่น CK, STEC, SEAFCO และ SYNTEC  

(6) กลุ่มพลังงาน ที่ได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของค่าการกลั่น เช่น IRPC และ TOP ในขณะที่หุ้นหลักอย่างเช่น PTT ได้รับประโยชน์จากธุรกิจก๊าซที่แนวโน้มกำไรเติบโตดี

(7) กลุ่มค้าปลีก เช่น CPALL, HMPRO และ ROBINS ที่คาดได้รับประโยชน์หลังรัฐบาลอัดฉีดกำลังซื้อรากหญ้าอย่างต่อเนื่อง จากโครงการที่เกี่ยวข้องกับการดูแลเกษตรกร 3 โครงการวงเงิน 93,000 ล้านบาท

(8) กลุ่มการแพทย์ ที่มีการขยายกิจการอย่างต่อเนื่อง เช่น BDMS

(9) กลุ่มท่องเที่ยว เช่น โรงแรม (MINT, CENTEL, ERW) ที่คาดได้รับประโยชน์จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยล่าสุดสภาพัฒน์ฯ ปรับเพิ่มคาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวปี59 อยู่ที่ 33 ล้านคน จากเดิมที่ 32.5 ล้านคน และคาดรายได้จากการท่องเที่ยว 1.69 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.6% 

(10) กลุ่มขนส่ง ในส่วนของธุรกิจการบินและสนามบิน เช่น AAV, AOT, BA

Back to top button