สังคมข่าวหุ้นนิวส์เวฟ

ตลาดหุ้นไทยล่าสุดปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,492.88 จุด ปรับลดลง 13.11 จุด พ่วงด้วยมูลค่าการซื้อขายรวมเฉียด 5 หมื่นล้านบาท

* ปิดตลาดส่งท้ายสัปดาห์ที่แล้ว พี่ SET ถอยกลับมาอยู่ในแดนลบกันไป หลังจากช่วงกลางสัปดาห์กลับมาฟื้นตัว จึงเลยโดนแรงขายทำกำไรกดดันตามระเบียบ

* ขณะที่มูลค่าการซื้อขายสุทธิ เริ่มจากทางฝั่งเข้าซื้อสุทธิ บัญชีบริษัทหลักทรัพย์เก็บไป 1,206 ล้านบาท ตามด้วยสถาบัน 72 ล้านบาท ส่วนกลุ่มเทขายพี่รายย่อยสาดออก 655 ล้านบาท และต่างชาติที่ร่วมขาย 624 ล้านบาท

* ช่วงนี้ภาวะตลาดหุ้นดูขาดแคลนปัจจัยชี้นำ โดยเฉพาะปัจจัยภายในประเทศที่ยังหาข่าวดีมาช่วยอัดฉีดไม่ได้เลยสักชิ้น * ดังนั้น การลงทุนจึงยังควรต้องมุ่งเน้นไปกลุ่มหุ้นที่มีปัจจัยหนุนชัดเจน หรืออาจจะเป็นหุ้นพื้นฐานดีที่ราคาถอยลงมาหนักจนอยู่ในเกณฑ์น่าสนใจ

* ว่าแล้วเลยขอเลือกแนะนำหุ้น INTUCH ซึ่งล่าสุดถอยลงมาซื้อขายด้วยราคาเพียง 54.25 บาท เทรดด้วย P/E ต่ำแค่ 9 เท่า!!

* ช่วงที่ผ่านมาหุ้น INTUCH ถูกมองว่ามีความเสี่ยงกดดันจากกรณี ADVANC อาจจ่ายปันผลออกมาในระดับต่ำกว่าอดีต

* เนื่องจาก ADVANC ในฐานะลูกคนโตมีภาระต้นทุนใบอนุญาต 4G จนอาจจะส่งผลกระทบต่อปันผลไปสู่ตัวแม่ในอนาคตลดลง

* บอกตรงๆ อันนี้ต่อให้ ADVANC จ่ายปันผลลดลง ไม่น่ากระเทือนต่อ INTUCH แบบมีนัยสำคัญขนาดนั้น * โดยปกติแล้ว INTUCH เป็นบริษัทมีดิวิเดนด์ยีลด์เฉลี่ย 6-7% เป็นประจำ ถ้าเลวร้ายสุด ADVANC ปันผลลดลงจริง * ดิวิเดนด์ยีลด์ INTUCH น่าจะลดลงมาเหลือแถว 5-6% ดูยังไงๆ สูงกว่าหุ้นบลูชิพตัวอื่นอยู่มากโข

* ล่าสุดหุ้นปิด 54.25 บาท โบรกฯ คาดจ่ายปันผลทั้งปีงวดต่อไปแถว 4.60 บาท ดีดออกมาเป็นดิวิเดนด์ยีลด์ท่วมเกิน 8% * นี่ยังไม่รวมกรณี “สิงเทล” รอปิดดีลซื้อหุ้นด้วยราคา 60 บาทช่วงสิ้นปีอีกนะ เชื่อได้เลยว่า ยิ่งใกล้ทำดีลเท่าไหร่ราคาจ่อวิ่งไล่ขึ้นอีกทันที ไม่เก็บตอนนี้แล้วจะไปรอซื้อตอนไหน

* ต่อกันด้วยหุ้น ANAN เป็นหุ้นอสังหาริมทรัพย์ ที่งบครึ่งปีหลังเด็ดดวงกว่าใครเพื่อน

* เนื่องจากมีโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ 5 โครงการ มูลค่ารวม 14,000 ล้านบาท

* ขณะที่แบ็กล็อกในมือมีอยู่ประมาณ 38,000 ล้านบาท และจะทยอยรับรู้ครึ่งปีหลังร่วมประมาณหมื่นล้าน

* ดังนั้น จะส่งผลให้งบของ ANAN ช่วงครึ่งปีหลังเติบโตแบบโดดเด่น เลยอยากฝากไว้ให้พิจารณากันหน่อย

* หุ้น TACC เนื้อหอมไม่เบา ล่าสุด “ชนิต สุวรรณพรินทร์” เอ็มดีบริษัท ออกปากว่า ช่วงนี้มีนักลงทุนสถาบันมารุมจีบขอซื้อหุ้นบริษัทเพียบ * โดยเป็นผลมาจากที่ผ่านมาบริษัทได้ไปโรดโชว์และนำเสนอข้อมูลทิศทางธุรกิจได้อย่างน่าสนใจ

* แถมล่าสุด ปิดสมุดทะเบียนงวดเดือนส.ค. เจอกองทุนโดดเข้าถือหุ้นไปแล้วร่วม 8% ทีเดียว

* ขณะที่แนวโน้มผลการดำเนินงานครึ่งปีหลังสดใสไม่เบา โดยเฉพาะช่วงไตรมาส 4 ที่เป็นไฮซีซั่นของธุรกิจ

* เนื่องจากบริษัทมีแผนปล่อยสินค้าใหม่ป้อนเข้าสู่ตลาด และจะยิ่งช่วยเพิ่มรายได้สูงขึ้นกว่าเดิม

* ดังนั้น เป้าหมายปี 59 มีรายได้เติบโต 15% จึงถือว่าไม่ใช่เรื่องยากเกินไปแน่นอน

* หุ้น EPG ล่าสุดหุ้นถอยลงมาปิดลบตามแรงขายทำกำไรมาอยู่ที่ระดับ 13.80 บาท * หากวันนี้ราคาย่อตัวลงมาอีกเตรียมเข้าเก็บเพื่อเล่นรอบใหม่ได้เลย

* ปิดท้ายด้วยกลุ่มหุ้นร้อนโดนตลาดสั่งคุมหุ้นร้อนเกณฑ์ระดับ 1 Cash Balance มีทั้งหมด 3 หุ้น ได้แก่ITEL-NETBAY-QTC

* โดย NETBAY-QTC ถูกสั่งขยายช่วงดำเนินการ เริ่มตั้งแต่ 26 ก.ย.-14 ต.ค.นี้ * ส่วนหุ้น ITEL เริ่มมีผลตั้งแต่ 26 ก.ย.-4 พ.ย. ขอให้อย่าลืมกันด้วย*