BIZ แบ็กล็อกพุ่ง

BIZ ล่าสุดได้ลงนามในสัญญาซื้อขายครุภัณฑ์การแพทย์กับบริษัท กรุงเทพดุสิตเวช การ จำกัด (มหาชน) มีมูลค่าสัญญา 169 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%) กำหนดระยะเวลาของสัญญาจำนวน 300 วัน


–คุณค่าบริษัท–

 

บริษัท บิสซิเนสอะไลเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ BIZ ล่าสุดได้ลงนามในสัญญาซื้อขายครุภัณฑ์การแพทย์กับบริษัท กรุงเทพดุสิตเวช การ จำกัด (มหาชน) มีมูลค่าสัญญา 169 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%) กำหนดระยะเวลาของสัญญาจำนวน 300 วัน

ลักษณะงาน แบ่งเป็นดังนี้ (1) เครื่องเร่งอนุภาคฉายรังสีระบบคอมพิวเตอร์วางแผนการรักษาและระบบบันทึกและตรวจสอบข้อมูล (2) อุปกรณ์ประกอบการฉายรังสี การวางแผนและควบคุมคุณภาพ (3) Immobilization Device ต่างๆ และ (4) ปรับปรุงและตกแต่งห้องให้เหมาะสมสำหรับติดตั้งเครื่อง

ด้วยการลงนามสัญญาใหม่ส่งผลให้ปัจจุบันบริษัทมีแบ็กล็อกปรับเพิ่มขึ้นเกินระดับ 700 ล้านบาท จากเดิมที่มีแบ็กล็อกอยู่ประมาณ 566 ล้านบาท

อีกทั้งบริษัทยังคงเป้ารายได้ปี 2559 เติบโต 50-60% จากปี 2558 ที่มีรายได้อยู่ที่ 311 ล้านบาท เนื่องจากมีมูลค่างานในมือมากกว่า 700 ล้านบาท โดยจะรับรู้รายได้ปี 2559 ประมาณ 60-70% ประกอบกับเครื่องฉายรังสียังมีความต้องการอีกมาก เพราะจำนวนผู้ป่วยโรคมะเร็งมีเพิ่มมากขึ้นทุกปี มีสัดส่วนรายได้จากการขายเครื่องฉายรังสี 75% และรายได้จากบริการหลังการขาย 20-25%

นอกจากนี้ยังคาดรายได้ปี 2560 จะมีการเติบโตมากกว่าในปี 2559 เนื่องจากเครื่องฉายรังสียังมีความต้องการอีกมาก เพราะผู้ป่วยที่เป็นโรคมะเร็งทั่วโลกมีจำนวนเพิ่มขึ้นทุกปี ประกอบกับยังมีมูลค่างานในมือที่จะรับรู้รายได้อีก และเศรษฐกิจในประเทศเริ่มมีการฟื้นตัว

ขณะที่ผลการดำเนินงานไตรมาส 2 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2559 บริษัทมีรายได้รวมขยับขึ้นมาอยู่ที่ 106.59 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 17.69 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 8.10 ล้านบาท หรือ 0.0270 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุน 0.80 ล้านบาท หรือ 0.0795 บาทต่อหุ้น เนื่องจากบริษัทมีการรับรู้รายได้จากการส่งมอบงานโครงการให้แก่ลูกค้าวิจัยและรักษามะเร็งกรุงเทพ ประกอบกับมีรายได้จากการขายอุปกรณ์ประกอบทางการแพทย์อื่นๆ ที่เพิ่มมากขึ้น

นอกจากนี้มีการรับรู้รายได้จากงานให้บริการอัพเกรดระบบซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในการฉายรังสีให้กับโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องวางแผนการรักษาและระบบซอฟต์แวร์ที่มีอยู่ให้ทันสมัยและเป็นปัจจุบันมากยิ่งขึ้น อีกทั้งมีรายได้จากการบริการที่เพิ่มมากขึ้นเกิดจากการที่บริษัทมีจำนวนสัญญาให้บริการบำรุงรักษาเพิ่มมากขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า

ส่วนผลการดำเนินงานงวดหกเดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2559 บริษัทมีรายได้รวมขยับขึ้นมาอยู่ที่ 149.70 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 41.02 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 8.48 ล้านบาท หรือ 0.0372 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุน 2.89 ล้านบาท หรือ 0.2893 บาทต่อหุ้น แสดงให้เห็นว่า บริษัทมีการเติบโตมากขึ้น

โดย BIZ มีโอกาสส่งมอบงานมากขึ้น ซึ่งช่วยผลักดันให้ผลการดำเนินงานบริษัทเติบโตในอนาคต จึงเป็นอีกตัวที่น่าจับตา!!

 

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่

1.นายสมพงษ์ ชื่นกิติญานนท์ 128,250,000 หุ้น 32.06%

2.นายวรวิทย์ สีลภูสิทธิ์ 125,250,000 หุ้น 31.31%

3.นายนพดล สันธนะพานิช 24,000,000 หุ้น 6.00%

4.นางศริน ชินอุดมทรัพย์ 15,000,000 หุ้น 3.75%

5.นายเชวง สุวรรณรัตน์ 4,500,000 หุ้น 1.13%

 

รายชื่อกรรมการ

1.นาย วุฒิพงษ์ โมฬีชาติ ประธานกรรมการ

2.นาย วุฒิพงษ์ โมฬีชาติ กรรมการอิสระ

3.นาย สมพงษ์ ชื่นกิติญานนท์ ประธานกรรมการบริหาร

4.นาย สมพงษ์ ชื่นกิติญานนท์ กรรมการ

5.นาย วรวิทย์ สีลภูสิทธิ์ กรรมการ

Back to top button