HMPRO โตเยี่ยม

ภาพรวมผลประกอบการยังคงสดใสอย่างต่อเนื่อง สำหรับ HMPRO โดยเฉพาะผลการดำเนินงานไตรมาส 3 และงวด 9 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2559 ที่ประการออกมา พบว่า รายได้รวมและกำไรสุทธิเติบโตอย่างแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน


–คุณค่าบริษัท–

 

ภาพรวมผลประกอบการยังคงสดใสอย่างต่อเนื่อง สำหรับ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ  HMPRO โดยเฉพาะผลการดำเนินงานไตรมาส 3 และงวด 9 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2559 ที่ประการออกมา พบว่า รายได้รวมและกำไรสุทธิเติบโตอย่างแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 

นับเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงอีกช่วงไตรมาส  ซึ่งสามารถช่วยผลักดันให้ผลกำไรสุทธิโดยรวมในปีนี้โตไม่แพ้ในช่วงปีผ่านๆ มา  

สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 3 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2559 บริษัทมีรายได้รวมขยับขึ้นมาอยู่ที่ 14,808.53 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 13,754.94 ล้านบาท เนื่องจาก 1) รายได้จากการขายเติบโตเพิ่มขึ้น เพราะมีการเปิดสาขาใหม่ 2 สาขา ได้แก่ HomePro สาขา ชลบุรี-บางเสร่ และ MegaHome สาขา หาดใหญ่ รวมถึงมีการจัดงานกระตุ้นยอดขายอย่าง “HomePro Fair” ในช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา 2) รายได้ค่าเช่าและบริการเติบโตเพิ่มขึ้นจากพื้นที่เช่าที่เพิ่มมากขึ้นจากการขยายสาขา รวมไปถึงการขยายพื้นที่เช่าของศูนย์การค้ามาร์เก็ต วิลเลจ สาขาสุวรรณภูมิ และ3) มีรายได้อื่นเพิ่มขึ้น ส่งผลให้บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 948.42 ล้านบาท หรือ 0.07 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อน 802.72 ล้านบาท หรือ 0.06 บาทต่อหุ้น

ขณะที่ผลการดำเนินงานงวดเก้าเดือน สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2559 บริษัทมีรายได้รวมขยับขึ้นมาอยู่ที่ 45,055.56 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 40,970.23 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 2,805.27 ล้านบาท หรือ 0.21 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อน 2,356.58 ล้านบาท หรือ 0.18 บาทต่อหุ้น เป็นการตอกย้ำว่าบริษัทมีการเติบโตดี

ด้วยผลการดำเนินงานที่ออกมาดีเยี่ยม ทำให้ทางนักวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป ประเมินต่อว่าผลการดำเนินงานปี 2559 จะอยู่ที่ 3,992.27 ล้านบาท หรือเติบโต 14.1% จากงวดเดียวกันของปีก่อน  โดยคาดบริษัทจะมีรายได้จากยอดขายเติบโต 16% จากงวดเดียวกันของปีก่อนมาที่ 60,926.33 ล้านบาท จากการขยายสาขาในปี 59 และจากทิศทาง SSSG ที่คาดจะโตประมาณ 2-4% ในปี 59  

เพราะปัจจุบัน 9 เดือนแรก มีสาขาเปิดดำเนินการแล้วทั้งสิ้น 88 สาขา โดยแบ่งเป็น HomePro 78 สาขา MegaHome 9 สาขา และ HomePro Malaysia 1 สาขา ในขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยจากการขายคาดว่าจะลดลงเล็กน้อยจาก 25.73% ในปี 58 เป็น 25.24% ปี 59 เนื่องจากมองว่าธุรกิจ MegaHome (มีอัตรากำไรขั้นต้นต่ำกว่าธุรกิจ HomePro) มีการเติบโตดี จึงดึงอัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยลงมาเล็กน้อย ทั้งนี้ค่าใช้จ่ายโดยรวมก็จะลดลงเช่นเดียวกัน เนื่องจากธุรกิจ MegaHome มีค่าใช้จ่ายที่ต่ำกว่า HomePro ส่งผลให้ในภาพรวม EBITDA Margin ยังคงอยู่ในค่าเฉลี่ยที่ 14.1% – 14.6%

ส่วนแนวโน้มปี 60 จะเป็นอีกปีที่คาดผลการดำเนินงานจะเติบโตได้ดีมาที่ 4,496 ล้านบาท หรือ 12.6% จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยยังคงคาดว่า SSSG จะยังคงเป็นบวกได้ราว 2-4% ตามสภาพเศรษฐกิจที่อาจจะยังไม่ฟื้นตัวดี แต่ทั้งนี้รายได้จากยอดขายและรายได้จากการให้เช่าจะมีการเติบโตจากการขยายสาขาเพิ่ม ซึ่งคาดจะแบ่งเป็น HomePro 4-5 สาขา MegaHome 3 สาขา และ HomePro Malaysia อีก 1 สาขา 

ด้วย HMPRO มีทิศทางธุรกิจยังคงไปได้ดี อีกทั้งยังมองผลการดำเนินงานจะเติบโตต่อเนื่องได้ในระยะกลาง 3-5 ปี พร้อมเดินหน้าขยายสาขา MegaHome และ HomePro Malaysia ที่มีการ Breakeven เป็นที่เรียบร้อยแล้ว คงราคาพื้นฐานเป็นปี 60 ที่ 11.40 บาท และคงคำแนะนำเป็น “ซื้อ”

 

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่

1.บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) 3,975,878,432 หุ้น 30.23%

2.บริษัท ควอลิตี้ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) 2,613,023,098 หุ้น 19.87%

3.นายนิติ โอสถานุเคราะห์ 621,415,762 หุ้น 4.73%

4.บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด 510,098,399 หุ้น 3.88%

5.นายมานิต อุดมคุณธรรม 297,991,997 หุ้น 2.27%

 

รายชื่อกรรมการ

1.นาย อนันต์ อัศวโภคิน ประธานกรรมการ

2.นาย มานิต อุดมคุณธรรม ประธานกรรมการบริหาร

3.นาย มานิต อุดมคุณธรรม กรรมการ

4.นาย คุณวุฒิ ธรรมพรหมกุล กรรมการผู้จัดการ

5.นาย นพร สุนทรจิตต์เจริญ กรรมการ

Back to top button