SSP ลุ้นกำไร Q2 โตโดดเด่น

SSP มีโอกาสทำกำไรในช่วงไตรมาส 2 ปี 62 เติบโตอย่างโดดเด่น ซึ่งกำไรปกติประมาณ 165 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 27% จากไตรมาสก่อน


คุณค่าบริษัท

มีการวิเคราะห์กันว่า บริษัท เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SSP จะสามารถทำกำไรในช่วงไตรมาส 2 ปี 2562 เติบโตอย่างโดดเด่น ซึ่งกำไรปกติประมาณ 165 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 27% จากไตรมาสก่อน

การเติบโตจากกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น 54 เมกะวัตต์ จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยเริ่มรับรู้รายได้จากโครงการ Solar farm Binh Nguyen (เวียดนาม) ขนาดกำลังการผลิตตามสัดส่วน 39.7 เมกะวัตต์ ซึ่งเป็นโครงการหลักในปีนี้เมื่อเดือนพฤษภาคม 2562 ในขณะที่เทียบกับจากไตรมาสก่อน กำไรเติบโตจากการเข้าสู่ช่วง High season ของ Solar farm ทั้งในไทยและญี่ปุ่น

หลังจากผลการดำเนินงานช่วงไตรมาส 1 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2562 บริษัทสามารถมีรายได้รวมขยับขึ้นมาอยู่ที่ 313.93 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 222.39 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 124.03 ล้านบาท หรือ 0.135 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อน 106.55 ล้านบาท หรือ 0.116 บาทต่อหุ้น สาเหตุหลังจากการรับรู้รายได้จากโครงการใหม่ที่เริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ และการเพิ่มขึ้นของปริมาณพลังงานไฟฟ้าที่จำหน่ายได้ของโครงการ SPN

ขณะเดียวกันทางนักวิเคราะห์ บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ประมาณการกำไรปกติปี 2562 ที่ 692 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 39% จากงวดเดียวกันของปีก่อน) แม้ประมาณการครึ่งแรกของปี 2562 คิดเป็น 43% ของประมาณการทั้งปี แต่ Key driver ในครึ่งหลังของปี 2562 จะมาจากการรับรู้รายได้เต็มจากโครงการ Solar farm Binh Nguyen (เวียดนาม) ซึ่ง COD ในไตรมาส 2/2562 และเริ่มรับรู้รายได้จากโครงการ Solar farm Khonshign (มองโกเลีย) 11 เมกะวัตต์ ซึ่ง COD เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2562 ที่ผ่านมา และส่งผลให้กำลังการผลิตตามสัดส่วนรวม ณ สิ้นปี 2562 อยู่ที่ 121 เมกะวัตต์ (เพิ่มขึ้น 73% จากงวดเดียวกันของปีก่อน)

นอกจากนี้ โดย Key catalyst ในช่วง 1-2 ปีข้างหน้าอยู่ที่การ COD โครงการ Solar farm ที่ญี่ปุ่น (Yamaga 1-2, Leo) ขนาดกำลังการผลิตตามสัดส่วนฯ รวม 67 เมกะวัตต์ ในปี 2563 ซึ่งเป็น 3 โครงการสุดท้ายที่บริษัทได้รับ PPA แล้วในปัจจุบัน และการเจรจาโครงการลมในเวียดนาม (คาดเจรจาอยู่ราว 100 MW) หากสำเร็จจะเป็นอีก Potential upside

ดังนั้นแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 12 บาท/หุ้น

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่

  1. บริษัท ไพรมารี่ เอนเนอจี้ จำกัด 150,950,000 หุ้น 16.37%
  2. บริษัท ไพรมารี่ เอนเนอร์จี้ จำกัด 125,700,000 หุ้น 13.63%
  3. UNITY I. CAPITAL LIMITED 72,070,000 หุ้น   7.82%
  4. นายวิวรรธน์ ไกรพิสิทธิ์กุล 70,174,600 หุ้น    7.61%
  5. CGS-CIMB SECURITIES (SINGAPORE) PTE.LTD. 56,000,000 หุ้น 6.07%

รายชื่อกรรมการ

  1. นายกำธร วังอุดม ประธานกรรมการบริษัท, กรรมการอิสระ, กรรมการตรวจสอบ
  2. นายวิวรรธน์ ไกรพิสิทธิ์กุล ประธานกรรมการบริหาร,  กรรมการ
  3. นายวรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร, กรรมการ
  4. น.ส.ธัณฐภรณ์ ไกรพิสิทธิ์กุล กรรมการ
  5. นายธนวรรธน์ ไกรพิสิทธิ์กุล กรรมการ

Back to top button