THANI Q4/64 ฟื้นตัวสูง

ข่าวดีสำหรับการคลายล็อก มีการประเมินว่าจะเป็นผลดีต่อบริษัท THANI เพราะเชื่อว่าน่าจะส่งให้ฟื้นตัวดีขึ้นใน Q4/64 จนถึง Q1/65


คุณค่าบริษัท 

ข่าวดีสำหรับการคลายล็อกนับตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. 2564 เป็นต้นไป มีการประเมินว่าจะเป็นผลดีต่อบริษัท ราชธานีลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ THANI ได้บ้าง เพราะเชื่อว่าน่าจะส่งให้ฟื้นตัวดีขึ้นในไตรมาส 4 ปี 2564 จนถึงไตรมาส 1 ปี 2565

โดยหลังจากผู้บริหารระบุภาพรวมช่วงไตรมาส 3 ปี 2564 ไม่ค่อยดีนัก หลังรัฐมีมาตรการล็อกดาวน์ ซึ่งภาคก่อสร้างกระทบหนักลูกค้าชะลอการซื้อรถบรรทุก ทำให้ยอดปล่อยสินเชื่อรถบรรทุกหายไปราว 5-6% จากปกติ อย่างไรก็ดี เริ่มมีข่าวดี 1 ก.ย. 2564 คลายล็อกดาวน์

ล่าสุดเริ่มมีลูกค้าภาคธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค และ E-commerce เริ่มกลับมาจองซื้อรถในปริมาณที่มาก ซึ่งจะดีกับรถบรรทุก 6 ล้อ รถตู้ทึบ รถตู้เย็น คาดยอดขายบรรทุกน่าจะเริ่มดีขึ้นในไตรมาส 4 ปี 2564 จนถึงไตรมาส 1 ปี 2565 โดยรวมคาดยอดปล่อยสินเชื่อต่อเดือนจะเหลือ 2 พันล้านบาทต่อเดือน ในไตรมาส 3 ปี 2564 และเพิ่มขึ้นเป็น 2.4-2.5 พันล้านบาทต่อเดือนในไตรมาส 4 ปี 2564 หลังเศรษฐกิจฟื้นตัวจากการเปิดประเทศเต็มรูปแบบ

ส่วนมาตรการลดค่าทวงถามหนี้หาทางออกได้ ทำให้กระทบจำกัด ไม่มากอย่างที่คาดไว้ก่อนหน้า สำหรับพ.ร.ก.ทวงถามหนี้ที่ให้คิดค่าติดตามทวงถามหนี้แค่ 50 บาท สำหรับงวด 1 และ 2 และเก็บค่าติดตามนอกสถานที่ 2 พันบาทนั้น เนื่องจากเกณฑ์ดังกล่าวยังไม่มีรายละเอียดมากนัก อยู่ระหว่างการประชุมกับสมาคมเช่าซื้ออีกครั้ง แต่หาทางออกและลดผลกรทบให้น้อยลงได้แล้ว

สำหรับการที่ THANI ยังคิดดอกเบี้ยไม่ถึงเพดานดอกเบี้ย จึงน่าจะปรับขึ้นเพื่อชดเชยผลกระทบดังกล่าวได้ ประกอบกับพ.ร.ก.ดังกล่าวใช้กับลูกค้ารายย่อย ไม่ได้ครอบคลุมถึงลูกค้าบริษัท (corporate) ทำให้ยัง charge ค่าใช้จ่ายได้สำหรับลูกค้าบริษัท ซึ่งคาดว่าจะทำให้ผลกระทบต่อการลดลงของรายได้ดังกล่าวจากหลักร้อยล้านบาทเหลือเพียงหลัก 10 ล้านบาทได้

ขณะที่ ผลการดำเนินงานไตรมาส 2 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2564 บริษัทมีรายได้รวมทรงตัวอยู่ที่ 1,033.71 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 1,046.19 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทมีกำไรสุทธิ 427.61 ล้านบาท หรือ 0.08 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิลดลงเหลือ 443.49 ล้านบาท หรือ 0.12 บาทต่อหุ้น เหตุค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร และในส่วนของผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น

ส่วนผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรก สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2564 บริษัทมีรายได้รวมลดลงเหลือ 2,065.69 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 2,155.96 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทมีกำไรสุทธิลดลงเหลือ 854.48 ล้านบาท หรือ 0.15 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 908.15 ล้านบาท หรือ 0.24 บาทต่อหุ้น ชะลอตัวจากผลกระทบของการระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ และมาตรการควบคุมการระบาดที่เข้มขึ้น

อย่างไรก็ตาม บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ แนะนำ “ซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว” ราคาเป้าหมาย 4.80 บาท เชื่อว่า THANI ยังเผชิญกับสถานการณ์ที่ไม่ดีนักในไตรมาส 3 ปี 2564 จากผลการ lock down โดยเฉพาะภาคการก่อสร้างที่กระทบหนัก ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวก็ยังรับผลกระทบหนักเช่นกัน แต่เริ่มมีมุมมองในแง่ดีขึ้น หลังการคลาย lock down 1 ก.ย.นี้ ผู้ติดเชื้อที่เริ่มลดลงจากจุดสูงสุด วัคซีนที่คาดว่าจะเข้ามาเพียงพอและฉีดให้ประชากรหมู่มากได้ น่าจะทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้ในปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้า และจะทำให้กำไรของ THANI กลับมาโตโดดเด่นได้ในระยะยาว

….

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่

  1. บริษัท ธนชาต เอสพีวี 1 จำกัด 3,155,950,533 หุ้น 55.73%
  2. RAFFLES NOMINEES (PTE) LIMITED 317,233,091 หุ้น 5.60%
  3. บริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) 199,552,188 หุ้น 3.52%
  4. นายเจริญสุข กิจอิทธิ 154,821,837 หุ้น 2.73%
  5. บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด 143,373,326 หุ้น 2.53%

รายชื่อกรรมการ

  1. นายวิรัตน์ ชินประพินพร ประธานกรรมการ
  2. นายโกวิท รุ่งวัฒนโสภณ ประธานกรรมการบริหาร, กรรมการผู้จัดการ, กรรมการ
  3. นายเจริญสุข กิจอิทธิ กรรมการ
  4. นายสมเจตน์ หมู่ศิริเลิศ กรรมการ
  5. น.ส.สุวรรณภา สุวรรณประทีป กรรมการ

Back to top button