BAM กำไรเด่น

ธุรกรรมในการกำจัดขยะทางการเงินหรือหนี้สงสัยจะสูญนั้น ต่างจากการกำจัดขยะอุตสาหกรรมหรือกำจัดขยะโดยทั่วไป อย่างไร


ธุรกรรมในการกำจัดขยะทางการเงินหรือหนี้สงสัยจะสูญนั้น ต่างจากการกำจัดขยะอุตสาหกรรมหรือกำจัดขยะโดยทั่วไป อย่างไร

คำตอบคือในหลักการไม่ต่างกัน และในทางปฏิบัตินั้นมีรายละเอียดที่ต่างกันมากมาย ทั้งการแยกขยะดีออกจากเสีย และแยกกรรมวิธีในการกำจัดรวมทั้งทำให้หนี้เน่ามีขีดความสามารถกลายเป็น “หนี้ดี”

บริษัทที่เติบโตขึ้นมาจาก ซากหนี้เสียบริษัทอื่นและบุคคลที่ขาดความสามารถในการชำระหนี้ในช่วงวิกฤตต้มยำกุ้ง ด้วยการใช้กองทุนสร้างตนเองขึ้นมา มีกำไรมหาศาลจากการซื้อ NPLs มีรายได้และกำไรหลังจากเข้าจดทะเบียนในการทวงหนี้ที่ตนเองไม่ได้ก่อ เอามาบริหารจนเข้าระดมทุนในตลาดเมื่อ 3 ปีก่อน บริษัท บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAM ล่าสุดประกาศงบการเงินไตรมาสแรกออกมาสวยงามมาก กำไรสุทธิโดดเด่น แม้รายได้จะลดต่ำลง

ในไตรมาส 1/2565 BAM มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น โดยคิดเป็นกำไรสุทธิ 311.84 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 247.05 ล้านบาท ทั้งที่รายได้มีแค่เพียง 2,150 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 16.8 เมื่อเทียบกับ ไตรมาสที่ผ่านมา และเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.7 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

รายได้ที่เพิ่มขึ้นนิดเดียว สาเหตุหลักมาจาก

– รายได้จากดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อจากการซื้อลูกหนี้–ส่วนที่รับเงินแล้ว ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งมี แนวโน้มดีขึ้นเพียงเล็กน้อยในปี 2564-65

– การรับรู้รายได้จากดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อจากการซื้อลูกหนี้ตามเกณฑ์คงค้าง (Accrual Basis) เพิ่มขึ้น

– มีสัดส่วนการตัดชําระรายได้ ดอกเบี้ยและต้นทุนเพิ่มขึ้น

– กําไรจากการขายทรัพย์สำรองการขายแบบขายสดลดลง ร้อยละ 30.2 จากปีก่อน แต่กำไรจากการขายทรัพย์สินรอการขายแบบขายผ่อนชําระเพิ่มขึ้นอย่างมากร้อยละ 116.7 ของปีก่อน ตามกลยุทธ์และโปรโมชั่น ส่งเสริมการขาย

กำไรที่เพิ่มขึ้น มากกว่ารายได้ที่ปรับเปลี่ยนไม่มากนักสะท้อนให้เห็นถึงความยืดหยุ่นของการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ ที่ทำให้สามารถบันทึกกำไรเพิ่มขึ้น ถือเป็นความสามารถของผู้บริหารที่โดดเด่น

ความสามารถของผู้บริหาร BAM ในการทวงหนี้ NPLs หรือขยะทางการเงินจากลูกค้าที่ค้างชำระถือเป็นความสามารถที่กำจัดขยะทางการเงินได้อย่างมีประสิทธิผลมากขึ้น

การกำจัดขยะทางการเงินที่มีคุณภาพและปริมาณถือเป็นภารกิจที่ไม่ง่ายดาย แต่การทำกำไรจากหนี้เน่านั้น ทำให้เกิดความช่ำชองมากขึ้นต่อเนื่อง

อัตรากำไรสุทธิที่กลับมาเหนือ 24% แม้ว่าจะไม่อาจเทียบกับช่วงเหนือ 30% ของตอนที่เข้ามาจดทะเบียนในตลาดได้ ก็ถือว่าเป็นการรักษาคุณภาพของการกำจัดขยะทางการเงินที่โดดเด่นอย่างแท้จริงภายใต้สถานการณ์ที่กำลังความสามารถชำระเงินของลูกหนี้ยังคงย่ำแย่

ค่าพี/อี ที่ต่ำสุดในรอบ 4 ปี ที่ 23 เท่าเศษ ทำให้ราคาหุ้นที่ระดับใต้ 19.00 บาท น่าสนใจมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นการซื้อเก็งกำไรหรือถือยาว ๆ

Back to top button