ท่องเที่ยวหนุนโรงแรมพลิกฟื้น

การฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยวส่งผลให้ธุรกิจโรงแรมกลับมาลืมตาอ้าปากได้ บางโรงแรมสามารถพลิกจากขาดทุนมามีกำไร ขณะที่โรงแรมบางแห่งมีผลขาดทุนลดลง


เส้นทางนักลงทุน

ต้องยอมรับว่ายุคนี้เป็นยุค “ทิม พิธา” ฟีเวอร์ กระทั่งมีคนผุดแนวคิดจะยกให้ “ว่าที่นายกรัฐมนตรี” คนที่ 30 ของประเทศไทย รับตำแหน่งเป็นแอมบาสเดอร์เพื่อบูมภาคการท่องเที่ยวไทยเลยทีเดียว

แน่นอนว่าภาคการท่องเที่ยวมีความสำคัญ เพราะหากย้อนไปดูในไตรมาส 1 ปี 2566 ที่ผ่านมา จะเห็นว่าภาคท่องเที่ยวเป็นเครื่องยนต์สำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้ขยายตัวได้ 2.7% มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยรวม 6.5 ล้านคน เติบโต 19% จากไตรมาส 4 ปี 2565 และพุ่งถึง 1,202% จากไตรมาส 1 ปี 2565 สามารถสร้างรายได้เข้าประเทศได้ 2.56 แสนล้านบาท

การฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยวส่งผลให้ธุรกิจโรงแรมกลับมาลืมตาอ้าปากได้ บางโรงแรมสามารถพลิกจากขาดทุนมามีกำไร ขณะที่โรงแรมบางแห่งมีผลขาดทุนลดลง

ดูได้จากพัฒนาการของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในกลุ่มโรงแรม ที่มีผลการดำเนินงานในไตรมาส 1 ปี 2566 ดีกว่าคาดการณ์ 3 บริษัทโรงแรมชั้นนำ เช่น บมจ.ดิ เอราวัณ กรุ๊ป (ERW) มีกำไรสุทธิ 238.56 ล้านบาท พลิกจากขาดทุน 313.10 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันปีก่อน

ERW มีภาพรวมผลการดำเนินงานของทั้งกลุ่มโรงแรมในประเทศไทยและฟิลิปปินส์เติบโตต่อเนื่อง โดยรายได้เฉลี่ยต่อห้องพักเติบโต 4% จากไตรมาสก่อน จากการเติบโตทั้งอัตราการเข้าพักและค่าห้องพักเฉลี่ย

ซึ่งผลกำไรที่เกิดขึ้นในไตรมาส 1 ปีนี้ เป็นการบันทึกกำไรสุทธิติดต่อกัน 2 ไตรมาส และสูงกว่าในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2562 ซึ่งเป็นช่วงเวลาก่อนเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

ขณะที่ บมจ.โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา (CENTEL) มีกำไรสุทธิ 629 ล้านบาท หรือเติบโต 1,530% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุน 43.69 ล้านบาท ส่วนหนึ่งมาจากกำไรอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 90 ล้านบาท

CENTEL มีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจโรงแรม 48% และธุรกิจอาหาร 52% โดยในงวดนี้มีกำไรขั้นต้นรวม 3,287 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 54% คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้น 59% ของรายได้ที่เพิ่มขึ้น เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 58% เป็นผลจากการฟื้นตัวของธุรกิจโรงแรม แม้ธุรกิจอาหารยังคงเผชิญกับแรงกดดันทางด้านต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น

ส่วนบมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT) ขาดทุนสุทธิลดลงเหลือ 975.90 ล้านบาท ดีขึ้น 82% จากเคยขาดทุนกว่า 3,793.73 ล้านบาท ในงวดเดียวกันปีก่อน

ในไตรมาสนี้ ทั้งกลุ่ม MINT มีรายได้จากการดำเนินงานโดยรวมเติบโต 57% เป็นจำนวน 32,478 ล้านบาท รับอานิสงส์ความต้องการในการเดินทางและจำนวนลูกค้าในร้านอาหารที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการขึ้นราคาค่าที่พักโรงแรม

ในมุมของผู้ที่คร่ำหวอดในธุรกิจโรงแรม ผู้บริหาร ERW มองว่าอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยในช่วงที่เหลือของปีนี้ยังมีแนวโน้มการฟื้นตัวโดดเด่น ทั้งจากตลาดนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ ความเชื่อมั่นนี้สนับสนุนโดยข้อมูลภาครัฐที่คาดว่านักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้าไทยในปี 2566 จะอยู่ที่ 25-30 ล้านคน คิดเป็นการฟื้นตัว 63% จากนักท่องเที่ยวในปี 2562 และเติบโตจากปี 2565 ซึ่งมีนักท่องเที่ยว 11.2 ล้านคน โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีน

ด้วยข้อมูลนี้ ทำให้ทีมบริหารของ ERW ตั้งเป้าจะเห็นการเติบโตของรายได้ในปีนี้ที่ 45% จากการสนับสนุนของอัตราเข้าพักเฉลี่ยที่คาดว่าจะอยู่ในระดับสูงที่ 75-80% และการเติบโตของราคาห้องพักเฉลี่ยมากกว่า 20% จากปี 2565

สำหรับในช่วงไตรมาส 2 ซึ่งถือเป็นช่วงโลว์ซีซั่นของกลุ่มธุรกิจโรงแรม ต้องยอมรับว่ารายได้อาจจะลดลงบ้าง แต่เมื่อกลับเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นอีกครั้ง คือในช่วงไตรมาสที่ 3 และ 4 กลุ่มโรงแรมน่าจะโชว์ผลการดำเนินงานที่ดีจนทำให้ภาพรวมการดำเนินงานทั้งปี 2566 นี้โดดเด่นขึ้นมาก

ทั้งปี 2566 น่าจะเป็นปีทองของธุรกิจโรงแรม เพราะบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส มองว่าทั้งปี สำหรับ ERW แล้ว จะมีกำไรสุทธิ 350 ล้านบาท เติบโต 56% จากปีก่อน ขณะที่ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ประเมินว่าน่าจะมีกำไร 533 ล้านบาท เติบโต 138%

ส่วน CENTEL ทั้ง 2 โบรกเกอร์คาดว่าจะมีกำไรที่ 1,503 ล้านบาท เติบโต 278% และ 2,138 ล้านบาท เติบโต 437% ตามลำดับ ขณะที่ MINT จะมีกำไร 4,800 ล้านบาท เติบโต 12% และ 5,494 ล้านบาท เติบโต 28% ตามลำดับ

จากเป้าหมายนักท่องเที่ยวที่ระดับ 30 ล้านคน จึงมีโอกาสเป็นไปได้สูงที่ปีนี้จะเป็นปีที่ดีของธุรกิจโรงแรม

Back to top button