เรื่องเล่าหุ้นร้อน ?

เริ่มต้นสัปดาห์ใหม่ “โมนิก้า” ขอมาในบรรยากาศสบาย ๆ เพื่อบอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับหุ้นต่าง ๆ ในมิติที่ทุกอย่างเดินหน้าอย่างเป็นรูปธรรม ขณะเดียวกันก็เป็นการเปิดช่องให้นักลงทุนมีเวลากลับไปคิดทบทวนเรื่องราวดังกล่าว เพื่อจะได้ตกผลึกอีกครั้งว่า หุ้นตัวนั้น “ดี” หรือ “ไม่ดี” อย่างไร? เพราะเรื่อง “เกมหุ้น” กับ “เกมธุรกิจ” มันเริ่มไม่ไปในทางเดียวกันเหมือนเมื่อก่อนน่ะซี

ประเด็นดังกล่าวเทียบเคียงได้กับการแกว่งตัวของดัชนีในช่วงที่ผ่านมา มันทำให้กระบวนการทางความคิดของ “โมนิก้า” สับสนเป็นอย่างมาก แต่พอเจาะดูเนื้อในจะเห็นว่า การที่ดัชนีขึ้นมายืนเหนือระดับ 1,550 จุดได้ร่วมสัปดาห์นั้น ล้วนเป็นผลมาจากยักษ์ใหญ่ DELTA ซึ่งเป็นตัวโอบอุ้มดัชนีมาโดยตลอด และเหตุผลที่ทำหุ้นตัวนี้ได้รับความนิยมอย่างมาก ก็มาจากแนวความคิดของนักลงทุนสถาบันที่พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “ของมันต้องมี” (วันไหนหมดรัก เละแน่นอน) นะออเจ้า

ฉะนั้นไม่ต้องถามว่า เดี๊ยนรู้สึกอย่างไร? เมื่อเห็นดัชนียืนปิดที่ระดับ 1,559.39 จุด บวกไป 1.68 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.84 หมื่นล้านบาท เพราะคำตอบที่ได้คงหนีไม่พ้นคำว่า “สุขปนเศร้า” เพราะเที่ยวก่อนดัชนีก็มาจอดป้ายแถว ๆ 1,580 จุด จึงเชื่อว่า ในอนาคตดัชนียังมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้อีกก็จริง แต่อาจมาพร้อมแรงขายชุดใหญ่ ซึ่งจะทำให้นักเล่นบางรายต้องยอมเฉือนเนื้อ เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจลุกลามเจ้าค่ะ

สถานการณ์ดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” นึกถึงหุ้นที่เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟู และกำลังจะคัมแบ็คอย่างเต็มรูปแบบอย่าง PACE ขึ้นมาทันที หลังมีข่าวแว่ว ๆ ให้ได้ยินเป็นระลอกว่า “เฮียยิ่ง” กำลังปลุกปั้นบริษัทกลับมาอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการฟื้นคืนชีพโครงการมหาสมุทร เพื่อเป็นการต่อยอดกับธุรกิจสนามกอล์ฟ และดูเหมือนสตอรี่เหล่านี้จะมีมามี้ให้การสนับสนุนแบบสุดลิ่มทิ่มประตูนะคะ

ประเด็นดังกล่าวช่างตรงข้ามกับสถานการณ์ของหุ้น STARK เพราะเรื่องราวที่เกิดขึ้นในเที่ยวนี้ มันทำให้เห็นว่า คนในตระกูล “ตั้งคารวคุณ” ไม่มีใครอยากเข้าไปยุ่งกับเผือกร้อน ส่งผลให้บอร์ดชุดใหม่ต้องลุยแก้ปัญหากันเอาเอง แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีข่าวป๊ะป๋ายังคอยทำหน้าที่ซือแป๋แบบห่าง ๆ อย่างห่วง ๆ จึงกลายเป็นหนังเรื่องยาวที่มีจุดไคลแม็กซ์อยู่ที่ตอนฟื้นฟูกิจการ..โปรดอย่ากระพริบตาเป็นอันขาดนะจ๊ะ

อีกรายที่พยายามประกาศให้โลกรู้ “พูดจริง ทำจริง” คงต้องมองไปที่หุ้น SABUY หลังดำเนินการตามแผนซื้อหุ้นคืนจนครบจำนวน 5% ก็เรียกเสียงเม้าท์ถึงได้อย่างเกรียวกราว เพราะที่ผ่านมา “เฮียชู” ดันสวมบทเป็นนักร้องเรื่องต่าง ๆ มากมาย แต่สุดท้ายก็ทำเรื่องของตัวเองเสร็จเสียทีแบบนี้ มันกลายเป็นเรื่องที่ขาเผือกอยากรู้ขึ้นมาทันทีว่า เฮียจะทำเรื่องไหนต่อพะย่ะค่ะ

ส่วนรายที่ร่อแร่เป็นเวลานาน แต่สุดท้ายผู้ถือหุ้นกู้ก็ยกมือผ่านให้ CHO ไปทำแผนชำระเงินหุ้นกู้ใหม่ เพราะเชื่อมั่นในแผนธุรกิจที่จะทำให้บริษัทกลับมาผงาดอีกครั้ง ซึ่งเป็นข่าวดีสำหรับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง (ระยะสั้น) และคงต้องดูกันต่อไปว่า “เสี่ยจิง” จะสามารถทำได้ตามแผนธุรกิจขนาดไหน? เพราะตรงนี้จะเป็นตัวบอกให้รู้ว่า ราคาหุ้นในกระดานควร “ขึ้นใหม่” หรือ “พอแค่นี้” ไงล่ะคะ

สถานการณ์ข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” ต้องเอ่ยถึงหุ้น SGC เพื่อชี้ให้เห็นสิ่งที่ผู้คนบอกเล่ากันว่า ปัญหาทุกอย่างที่เกิดขึ้นน่าจะเคลียร์จบภายในไตรมาส 2 มันเป็นข้อมูลที่นักลงทุนต้องกลับไปพิจารณากันเอาเอง ซึ่งเหมือนกับเหตุการณ์ของบริษัทต่าง ๆ ที่ต้องล้างบ้านให้สะอาดหมดจด ก็ใช้เวลาประมาณนี้เหมือนกันทั้งนั้น หรือถ้าช้าสุดก็คงต้องเพิ่มไปอีกหนึ่งไตรมาสก็เท่านั้นเอง!

ตบท้ายกันที่เสียงร้องสะอื้นโอดโอยในหุ้น TH กันดีกว่า เพราะข่าวที่ได้ยินมากับสายลมในเที่ยวนี้ มันเป็นช็อตต่อเนื่องที่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับหุ้นดาร์ก ซึ่งเกิดทั้งในนาม “บุคคล” และของตัว “บริษัท” จึงกลายเป็นเรื่องที่ตัดจบยากในแง่ของความรู้สึกของผู้ถือหุ้น “โมนิก้า” เลยไม่แปลกใจที่ทุกอย่างมีแต่แย่ลงเรื่อย ๆ เพราะตราบใดที่ยังไม่สามารถกู้ศรัทธากลับมาได้ ก็อย่าหวังว่า ทุกอย่างจะดีขึ้นเลยพ่อคุณ..แมงเม้าท์กล่าวไว้!