หุ้นเล็กครองตลาด

หากมีคนตั้งคำถาม “โมนิก้า” ให้ตอบว่า ระหว่าง “หุ้นใหญ่” กับ “หุ้นเล็ก” เดี๊ยนชอบหุ้นกลุ่มไหนมากกว่ากัน ก็ขอเรียนตามตรงว่า เดี๊ยนชอบ “หุ้นเล็ก” มากกว่า “หุ้นใหญ่” มานานแล้ว และเหตุผลที่ทำให้เดี๊ยนเปลี่ยนรสนิยมไปมาก ก็เป็นผลมาจากแรงขายจากนักลงทุน “ต่างชาติ” กับ “กองทุน” ไม่หมดสักที! ซึ่งเป็นแรงกดดันที่ทำให้หุ้นใหญ่โงหัวไม่ขึ้นสักที..ถึงแม้จะขึ้นได้จริง ๆ สุดท้ายก็โดนตบลงมาทุกทีน่ะซี

ด้วยเหตุนี้เองถึงเห็นเดี๊ยนเขียนถึงหุ้นเล็กบ่อยมากในช่วงหลัง ๆ ผสานกับบรรดาเซียนรุ่นใหม่ต่างเบนเข็มมาที่หุ้นเหล่านี้กันทั้งนั้น “โมนิก้า” ถึงชอบชำเลืองตามองหุ้นตัวสอดแทรกที่ขึ้นมาโชว์ของเป็นประจำ และเมื่อประเมินจากแวลูที่หุ้นใหญ่มี จะพบว่าหุ้นเล็กก็มีแวลูที่น่าสนใจไม่แพ้กัน แต่สิ่งที่หุ้นเล็กเหนือกว่าก็คือ จังหวะการวิ่งที่เร่าร้อนเกินคำบรรยายไงล่ะตัวเอง!

ประกอบกับตลาดหุ้นไทยกำลังอยู่ในช่วงเซตตัวเพื่อสร้างฐานที่มั่นให้มั่นคง จึงต้องเผชิญกับการทดสอบแรงขายเป็นช่วง ๆ “โมนิก้า” ถึงมองว่าหุ้นใหญ่ยังขยับตัวไปไหนไม่ได้ และการที่ดัชนีแกว่งตัวแรงในแดนลบตลอดทั้งวัน ก่อนจะยืนปิดที่ระดับ 1,427.96 จุด ลบไป 6.63 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.11 หมื่นล้านบาท เหมือนเป็นการย้ำหัวหมุดความคิดของอีฉันว่า เอาเวลาไปดูหุ้นเล็กน่ะถูกแล้วพะย่ะค่ะ

โดยเฉพาะในรายของหุ้นทรงสวยและผลงานดีเสมอต้นเสมอปลายอย่าง GABLE ถือเป็นหุ้นทีเด็ดที่เดี๊ยนชื่นชอบสุด ๆ เพราะเมื่อดูจากดีลควบรวมต่าง ๆ ที่รอจังหวะปิด “โมนิก้า” ก็เชื่ออย่างสนิทใจว่า ปีนี้น่าจะเห็นอะไรดี ๆ เพราะสถานการณ์หลายอย่างดีขึ้นเป็นลำดับ ผนวกกับการเทรดของหุ้นวันนี้อยู่บน P/E 11 เท่า ทำให้การยืนปิดที่ระดับ 4.76 บาท บวกไป 0.20 บาท หรือขึ้นไป 4.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 62 ล้านบาท ยังมีแก๊ปให้วิ่งต่ออีกเพียบนะจ๊ะ

ส่วนอีกรายที่เงียบมานาน และเพิ่งจะกลับมาหวือหวา “โมนิก้า” ขอให้มองไปที่หุ้นผลไม้อบแห้ง CH ซึ่งมีเสียงร่ำลือกันว่า ผ่านจุดต่ำสุดของธุรกิจไปแล้ว และปีนี้กำลังอยู่ในช่วงฟื้นตัว ส่งผลให้บรรดานกรู้กระโจนใส่ตั้งแต่เช้า จนราคาหุ้นพุ่งขึ้นไปทำไฮที่บริเวณ 3.08 บาท ก่อนจะโรยตัวลงมาปิดที่ระดับ 2.62 บาท บวกไป 0.16 บาท หรือขึ้นไป 6.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 57 ล้านบาท มันชวนให้เดี๊ยนอยากเข้าไปตามดูอีกวันนะคะ

เช่นเดียวกับในรายของ UBE ก็เริ่มออกสเต็ปให้เห็นอีกครั้ง หลังจากเหี่ยวแห้งมาเป็นปี “โมนิก้า” ถึงมองว่า การกลับตัวขึ้นเที่ยวนี้น่าสนใจจริง ๆ เพราะการขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 0.87 บาท บวกไป 0.05 บาท หรือขึ้นไป 6.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 34 ล้านบาท มาพร้อมกับสตอรี่หมดกังวลเรื่องต้นทุน ขณะเดียวกันก็มีโอกาสปั๊มรายได้เพิ่มขึ้น จึงเป็นจังหวะที่เหมาะต่อการโหนกระแสหากวันนี้ยังเล่นกันต่อนะจะบอกให้

อีกหนึ่งรายที่รับเต็ม ๆ ต้องยกให้กับ ITTHI หลังมีเสียงเมาท์สนั่นทั่วห้องค้าว่า งบปี 2566 โตเกิน 20% ซึ่งเป็นแรงดึงดูดให้นักลงทุนกระโจนเข้าใส่มือเป็นระวิง จนราคาหุ้นขึ้นมาปิดที่ 2.34 บาท บวกไป 0.55 บาท หรือขึ้นไป 30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 196 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเกมที่น่าจะเล่นกันต่ออย่างแน่นอน เพราะเมื่อมีลิ่งแรกเกิดขึ้น มักจะมีลิ่งสองตามมาติด ๆ เจ้าค่ะ

ส่วนในรายของ PROEN อาจไม่หวือหวาเหมือนรายข้างต้น แต่ถ้าดูไซเคิลที่เป็นลักษณะขึ้นต่อเนื่องมาทั้งหมด 10 วัน พร้อมกับยืนปิดที่ระดับ 3.68 บาท บวกไป 0.16 บาท หรือขึ้นไป 4.55% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 85 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นช็อตที่ต้องตามไปดูอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะสตอรี่ที่เมาท์ถึงเที่ยวนี้มันเกี่ยวข้องกับเทิร์นอะราวด์ ซึ่งเป็นแรงกระตุ้นให้ขาลุยเดินหน้าเล่นอีกไงล่ะคะ

คล้ายกับกรณีของหุ้น PTL ก็มีแรงซื้อเข้ามาอย่างหนาแน่น จนหุ้นขึ้นมายืนปิดที่ 1.69 บาท บวกไป 0.29 บาท หรือขึ้นไป 20.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 69 ล้านบาท แบบนี้ “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องที่นักเก็งกำไรต้องไปคิดต่อกันเอง ว่ามีดีอะไรซ่อนไว้หรือเปล่า? หรือจะเป็นแค่การโหนกระแสหุ้นเล็กหรือเปล่า? แต่สำหรับเดี๊ยนมองว่า ถ้าใครพร้อมที่จะลุย…จังหวะนี้ต้องใส่ไว้ก่อนจ้า!