คืนชีพการบินไทย

ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ ปีที่ 17 ประสบผลสำเร็จอย่างงดงาม ทั้งจำนวนผู้ชมในสนามที่แน่นขนัดกว่าทุกปี เกมกอล์ฟที่ดุเดือดเร้าใจได้รับการถ่ายทอดสดไปทั่วโลกกว่า 540 ล้านครัวเรือน สร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศไทย โดยรัฐไม่ต้องควักกระเป๋าจ่ายสักแดงเดียว

“แพตตี้” ปภังกร ธวัชธนกิจ ก็เป็นสาวไทยคนที่ 2 ที่ก้าวขึ้นมาคว้าแชมป์ปีนี้เสียด้วย อันเป็นอาการเครื่องร้อนต่อเนื่อง หลังจากไปคว้าแชมป์รายการใหญ่ยูโรเปี้ยนทัวร์ที่ซาอุดีอาระเบียมา ซึ่งในสัปดาห์นี้ LPGA ทัวร์ ย้ายวิกไปแข่งที่สิงคโปร์ในรายการ HSBC วูแมน เวิลด์ แชมเปี้ยนชิประหว่าง 29 ก.พ.-3 มี.ค. 

“แพตตี้” ก็มีลุ้นคว้าแชมป์ จะเป็น “Hot Hand Winning Streak” เอานะ!

เรื่องของบมจ.การบินไทย ที่ยังอยู่ในแผนฟื้นฟู ก็เริ่มจะมีข่าวดีเข้ามาเรื่อย ๆ ทั้งการฟื้นตัวจากผลดำเนินการจริง และการเข้าใกล้  สู่ความสำเร็จของแผน โดยมีหมุดหมายสำคัญ จะทำการ “แปลงหนี้เป็นทุน” และ “เพิ่มทุน” ให้เสร็จสิ้นภายในปีนี้ 

จากนั้น เริ่มทยอย “ชำระหนี้” ออกจากแผนฟื้นฟู และนำ “หลักทรัพย์ THAI” กลับเข้าซื้อขายในตลาดฯ ภายในปี 2568 คืบใกล้เข้ามาแล้วสิ วันเวลาที่การบินไทยจะหวนคืนสู่ธุรกิจการบินปกติ

ผลประกอบการปี 2566 แสดงผลกำไรสุทธิ 28,096 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10,429.4% จากปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 272 ล้านบาท มีรายได้รวม 161,067 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 53.3% ขนส่งผู้โดยสารรวม 13.76 ล้านคน เพิ่มขึ้น 52.7% และมีอัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสาร (เคบิน แฟคเตอร์) เฉลี่ย 79.7% เพิ่มขึ้น 11.8%

ปิยสวัสดิ์ อมระนันทน์ ประธานคณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ ประเมินว่า ปี 2567นี้ จะขนส่งผู้โดยสารรวม 15 ล้านคน “เคบิน แฟคเตอร์” เฉลี่ย 80% รายได้กลับไปใกล้เคียงปี 62 ก่อนเกิดการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่ THAI มีรายได้รวม 184,046 ล้านบาท

ปีนี้จะมีการรับมอบเครื่องบินเช่าดำเนินการเพิ่ม 9 ลำ ล้วนประหยัดเชื้อเพลิงและสะดวกสบายกว่าเครื่องรุ่นเก่า แบ่งเป็นแบบแอร์บัส A350 จำนวน 6 เครื่อง, A330 จำนวน 2 ลำ และแบบโบอิ้ง 787 จำนวน 1 ลำ รวมฝูงสิ้นปี 67 จะอยู่ที่ 79 ลำ

กระบวนการให้เจ้าหนี้แปลงหนี้เป็นทุนในราคาขายหุ้นละ 2.54 บาท คิดเป็นเงินประมาณ 5.5 หมื่นล้านบาท จะดำเนินการช่วงกลางปี 67 และเสนอขายให้ผู้ถือหุ้นเดิมในราคาเดียวกัน ช่วงครึ่งปีหลัง 67 เพื่อระดมเม็ดเงินใหม่ 2.5 หมื่นล้านบาท

การแปลงหนี้เป็นทุนและเพิ่มทุนในราคา 2.54 บาทนี้ ก็เป็นราคาที่น่าสนใจทั้งเจ้าหนี้และนักลงทุนนะ เพราะหากการบินไทยกลับมาแข็งแรง ราคาในตลาดก็มีหวังได้ลุ้นเป็น 5-10 บาทได้แน่นอน เพราะในอดีตก็เคยเคลื่อนไหวในระดับ 30-40 บาทมาแล้ว

สำหรับแผนการชำระหนี้จำนวน 120,000 ล้านบาท จะเริ่มทยอยชำระตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป ปีละ 10,000 ล้านบาท รวม 12 ปี ด้านหนี้ค่าบัตรโดยสาร 13,000 ล้านบาท ก็ชำระไปจนเหลือแค่ 400 ล้านบาทแล้ว จะชำระให้เสร็จสิ้นภายใน 31 มี.ค.นี้ 

ส่วนการจัดหาเครื่องบินจำนวน 80 ลำ วางเป้าจะมีเครื่องบินรุ่นใหม่เข้าประจำการในช่วงระหว่างปี 2570-2576 ลำ ยืนยันว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อฐานะการเงินของการบินไทย และไม่กระทบต่อการชำระหนี้ตามแผนฟื้นฟูฯ แน่นอน

ชาย เอี่ยมศิริ ดีดีการบินไทย ยังแสดงความมั่นใจด้วยว่า เครื่องบิน 45 ลำแรกที่มีการเซ็นสัญญากันไปแล้ว สามารถที่จะจ่ายเป็นเงินสดจากการดำเนินงานยังได้เลย เนื่องจากเป็นการทยอยชำระ ไม่ได้ชำระในครั้งเดียวและเครื่องบินเป็นทรัพย์สินที่พอรับมา ก็สามารถสร้างรายได้ทันทีได้เลย

ถึงแม้การบินไทยจะมีเรื่องราวอื้อฉาวมากมายในอดีต แต่ผมว่าการบินไทย “โฉมใหม่” ที่ปรับทัพใหม่ สลิมกว่าเก่า และอุดมด้วยบทเรียนมากมาย จะได้กลับมาเป็นความภาคภูมิใจคนไทยในไม่ช้า

อีก 2 ปีไม่นานเกินรอ