ลงเร็ว ขึ้นช้า

เคยตั้งคำถามกันไหม

เหตุใดตลาดหุ้นไทย เมื่อเวลาปรับลงแรง แต่พอรีบาวด์ กลับดีดกลับอย่างเชื่องช้า

ล่าสุดสัปดาห์ก่อนที่ดัชนีปรับลงแรง -28.94 จุด เมื่อวันศุกร์ที่ 19 เม.ย.ที่ผ่านมา

พอมาถึงวันนี้ หุ้นเอเชีย ยุโรป ต่างดีดกลับ หลังประเมินสถานการณ์ตะวันออกกลาง ไม่น่านำไปสู่ความรุนแรง หรือขยายวงกว้างออกไป

หุ้นไทยเราแม้จะดีดกลับตามตลาดหุ้นต่างประเทศ

แต่กลับขึ้น ๆ ได้ช้ามาก

เมื่อวานนี้บวกกลับมาได้เพียง 17.44 จุด

ขณะที่สัปดาห์ก่อนหุ้นไทยปรับลงไป (รวม 3 วัน)  64.3 จุด

นี่ยังไม่รู้ว่า วันนี้ดัชนีไปบวกต่อได้หรือไม่

ลองหันไปถามนักวิเคราะห์

คำตอบที่ได้ไปคนละทิศทาง เข้าใจว่า ขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละคน แต่ละสำนักโบรกฯ

โดยบางคำตอบบอกว่า แม้ปัจจัยต่างประเทศจะคลี่คลาย

ทว่าในประเทศกลับยังมีปัจจัยลบกดดันทั้ง การเมือง เศรษฐกิจในประเทศที่ฟื้นตัวช้า รัฐบาลยังไร้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่แน่ชัด ฯลฯ

ฟังเหตุผลแบบนี้แล้วก็เกิดอาการงุนงงเล็กน้อย

เพราะตอนที่หุ้นร่วง หลัก ๆ มาจากปัจจัยต่างประเทศไม่ใช่เหรอ?

แล้วเมื่อปัจจัยต่างประเทศดีขึ้น กลับไปดึงสารพัดปัจจัยลบเท่าที่จะนึกกันได้มาเป็นตัวดึงรั้งดัชนีไว้

นักวิเคราะห์อีกคนบอกว่า หุ้นขนาดใหญ่ที่ดีดกลับ จะเผชิญกับแรงขายทำกำไร หรือนักลงทุนที่ติดหุ้นได้ขายเพื่อตัดขาดทุน (ให้น้อยสุด) ตลอดทาง

อาจเพราะไม่มั่นใจว่า ดัชนีหรือหุ้นนั้น ๆ จะดีดกลับไปยังจุดที่ปรับตัวลงมา

เลยมีทั้งขายทำกำไร และปรับลดความเสี่ยงที่จะขาดทุนเยอะ

ดัชนีเลยไม่สามารถดีดกลับได้เหมือนกับตอนที่ปรับลง

อีกเหตุผลคือ สัปดาห์ก่อนที่หุ้นถูกชอร์ตเซลเยอะ และอาจรวมถึงการถูกบังคับขาย

ส่วนสัปดาห์นี้แม้จะมี Cover short แต่อาจจะยังเล็กน้อย

ทำให้ดัชนีไม่ได้ปรับขึ้นแรง

หรืออีกกรณีคือ มาจากปัญหาเรื่องของ “โปรแกรมเทรด” หรือ “โรบอทเทรด” ที่มีตั้งขายทำกำไรกันไว้ เมื่อหุ้นปรับราคาขึ้นมาในระดับหนึ่ง จึงทำให้เกิดแรงขายทำกำไรระยะสั้นมาตลอดทาง

ปัญหาหุ้นไทยลงเร็วและขึ้นช้า ไม่ได้เพิ่งจะเกิดขึ้น

แต่เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมาพอสมควรแล้วล่ะ

อีกปัญหาหนึ่งคือ วันที่ดัชนีปรับลงหนัก จะพบว่า ต่างชาติขายออกมาเป็นหลักหลายพันล้านบาท

ส่วนวันที่ดัชนีฟื้นตัว จะพบว่า ต่างชาติซื้อเพียงหลักร้อยล้านบาท

อย่างเช่นเมื่อวานนี้ต่างชาติซื้อเพียง 372 ล้านบาท

ส่วนเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาขาย 3,767 ล้านบาท

เดี๋ยวคงต้องมาลุ้นมาติดตามกันว่า มาตรการของตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ร่วมกับสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อที่จะเรียกความเชื่อมั่นนักลงทุนกลับมา

เมื่อถึงเวลาที่ต้องบังคับใช้หรือมีผลในทางปฏิบัติ

จะช่วยเข้ามาบรรเทาสถานการณ์หุ้นไทยได้มากน้อยเพียงใด

ธนะชัย ณ นคร