ITD งานใหญ่..กำไรน้อย.!?
ไม่รู้ใครนั่งทางในหรือมีญาณทิพย์ หรือมีอะไรมาดลจิตดลใจให้นักลงทุนเข้ามาเก็งกำไรหุ้น ITD ถึงได้วิ่งคึกเป็นเสือดำ จนราคาชนซิลลิ่ง
ไม่รู้ใครนั่งทางในหรือมีญาณทิพย์ หรือมีอะไรมาดลจิตดลใจให้นักลงทุนเข้ามาเก็งกำไรหุ้นบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD ถึงได้วิ่งคึกเป็นเสือดำ จนราคาชนซิลลิ่ง พุ่งไป 30.43% ในวันที่ 9 ก.ย. 2568 ถัดมาในวันที่ 10 ก.ย. 2568 หุ้นเสือดำกระโจนต่ออีก 20%…
เอาเป็นว่า ในรอบ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา หุ้น ITD ปรับเพิ่มขึ้นแล้วกว่า 78% ส่วนในรอบ 1 เดือน ราคาปรับเพิ่มขึ้นไป 70%
กระทั่งในวันศุกร์ที่ 12 ก.ย. 2568 ความจริงก็ปรากฏ เมื่อ ITD แจ้งได้งานใหม่ โครงการก่อสร้างทางวิ่งที่ 2 และทางขับ สนามบินนานาชาติอู่ตะเภา จากกองทัพเรือ มูลค่าสัญญา 13,142.87 ล้านบาท ลักษณะงานก่อสร้างครอบคลุมตั้งแต่งานโยธา งานไฟฟ้าสนามบินและระบบควบคุม งานระบบระบายน้ำ และงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง สำหรับทางวิ่งที่ 2 และทางขับ ระยะเวลางานก่อสร้าง 1,095 วัน
โอเค…ราคาหุ้น ITD ไปได้ต่อ โดยวานนี้ (15 ก.ย. 2568) ราคาวิ่งอีก 2.50% ปิดตลาดที่ 0.41 บาท
เป็นปรากฏการณ์ที่ราคามาเป็นรอบ ๆ ตามสตอรี่ที่ถูกหยิบยกมาเก็งกำไรกัน ซึ่งเมื่อหมดรอบเล่น…หุ้น ITD ก็จะไปนอนแอ้งแม้งในก้นเหวลึกอีกครั้ง รอการปั่น…อุ๊ย การเข้ามาเก็งกำไรรอบใหม่ต่อไป…
จะว่าไปแล้วในบรรดากลุ่ม 3 บิ๊กรับเหมาก่อสร้าง ซึ่งประกอบด้วย ITD, บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK, บริษัท สเตคอน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ STECON ต้องบอกว่าในช่วงที่ผ่านมา ITD ดูมีภาษีน้อยกว่ารับเหมาฯ ค่ายอื่นนะ
ไหนจะมีปัญหาเรื่องสภาพคล่อง จนทำให้งบการเงินเละเทะตามหลอกหลอนถึงทุกวันนี้ แล้วไหนจะมีคดีติดตัว ไม่ว่าจะเป็นคดีฉาวกรณีเกิดอุบัติเหตุโครงสร้างนั่งร้านสำหรับก่อสร้างคานขวาง (Cross Beam) ถล่มลงมาในระหว่างก่อสร้างของโครงการก่อสร้างทางพิเศษสายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านทิศตะวันตก (สัญญาที่ 3) ทำให้โครงสร้างทางพิเศษเฉลิมมหานคร พังลงมา 1 ช่วงสะพาน จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ
รวมทั้งกรณีตึกของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่ม จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มี.ค. 2568 ซึ่งมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ซ้ำเติมภาพลักษณ์และชื่อเสียงให้ย่อยยับไปอีก…
ก็ต้องดูว่า การได้งานใหญ่ขนาดนี้…กำไรที่ได้จะขนาดไหน..??
ต้องไม่ลืมว่า ด้วย ITD ไซส์ใหญ่ แต่ที่ผ่านมาไม่ว่างานไซส์เล็กแค่ไหน ก็กวาดเรียบ จนมีเสียงซุบซิบนินทากันว่า ITD ไม่ต่างจากสิงโตกินหนอน ซึ่งการได้หนอนมาแต่ละตัวนั้น ITD ต้องแลกมาด้วยการดั๊มราคา เพื่อให้ได้งานมา ทำให้มาร์จิ้นบางเฉียบ…
พิสูจน์ทราบได้จากงบการเงินในช่วงหลายปีที่ขาดทุนซ้ำซาก โดยปี 2564 มีรายได้รวม 59,698.10 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 155.62 ล้านบาท อัตรากำไรสุทธิ 0.16% ปี 2565 มีรายได้รวม 67,833.32 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 4,758.85 ล้านบาท อัตรากำไรสุทธิติดลบ 6.60% ปี 2566 มีรายได้รวม 64,530.26 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 1,072.37 ล้านบาท อัตรากำไรสุทธิติดลบ 0.65% และปี 2567 มีรายได้รวม 72,453.98 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 5,775.85 ล้านบาท อัตรากำไรสุทธิติดลบ 6.83%
อ้อ…ที่เห็นงวด 6 เดือนแรกของปี 2568 มีรายได้รวม 28,169.69 ล้านบาท กำไรสุทธิ 8,845.61 ล้านบาท อัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 31.33%…อย่าเพิ่งดีใจไปล่ะ เพราะกำไรที่เห็นมาจากการบุ๊กรายการพิเศษก้อนใหญ่เข้ามา นั่นคือ กำไรจากการเปลี่ยนประเภทเงินลงทุนจำนวน 11,930 ล้านบาท เนื่องจากมีกำไรจากการเปลี่ยนประเภทเงินลงทุนในธุรกิจเหมืองแร่โปแตชนั่นเอง
ส่วนผลการดำเนินการปกติ อย่าให้ said ไม่ได้ดีเด่อะไร…
แถมงานใหญ่ที่ได้มาก็ไม่รู้ว่า จะช่วยหนุนผลประกอบการได้มากน้อยแค่ไหน..??
เกรงว่าเห็นตัวเลข (มูลค่างาน) เยอะ…แต่กำไรแค่หางอึ่งนะสิ..??
คงต้องให้งบการเงินเป็นเครื่องพิสูจน์แล้วล่ะ…
…อิ อิ อิ…