สังคมข่าวหุ้น

ดัชนีหุ้นไทยวานนี้เปิดตลาดมาในช่วงภาคเช้ากระโดดขึ้นมาสูงสุด +22 จุด ดัชนีมาอยู่ที่ 1,297.45 จุด ก่อนจะอ่อนแรงลงมาช่วงปิดตลาด ทำให้ลดช่วงบวกมาเหลือ 9.64 จุด ปิดที่ 1,281.81 จุด


ดัชนีหุ้นไทยวานนี้เปิดตลาดมาในช่วงภาคเช้ากระโดดขึ้นมาสูงสุด +22 จุด ดัชนีมาอยู่ที่ 1,297.45 จุด ก่อนจะอ่อนแรงลงมาช่วงปิดตลาด ทำให้ลดช่วงบวกมาเหลือ 9.64 จุด ปิดที่ 1,281.81 จุด ส่วนมูลค่าการซื้อขายยังเท่าหางอึ่ง เพียง 33,440 ล้านบาท

หุ้นในกลุ่มโรงพยาบาล ลดลงต่อเนื่อง เหมือนกับว่าเขาจะมีการปิดกิจการกันซะอย่างนั้น ทั้ง ๆ ที่ผลประกอบการที่ออกมาของงวดไตรมาส 3/2568 ต่างออกมาดีทั้ง BH BDMS PR9 แถมยังมีจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลอีก แต่ราคาหุ้นกลับไม่ตอบสนอง ถูกสาดเทขายออกมาไม่รู้จักจบสิ้น ส่วนปัจจัยกดดัน เท่าที่สำรวจตรวจสอบมา หากเป็นภาพรวม เช่นเรื่องของ Co-payment หรือ การร่วมจ่ายค่ารักษาพยาบาล, เรื่องการต้องแจ้งราคาค่ายา และรวมถึงกลุ่มผู้ป่วยจากตะวันออกกลาง แต่ทั้งหมดยังเป็นแค่เซนติเมนต์ และนักวิเคราะห์ต่างมองว่า ไม่น่าจะกระทบกับผลประกอบการมากนัก

แบงก์ทหารไทยธนชาต หรือ TTB ราคาขึ้นมาชนและปิดที่แนวต้านพอดี 1.89-1.90 บาท หากวันนี้ ราคาหุ้นไม่ได้ย่อลง และไปต่อได้ จะทำให้ที่ระดับราคาแนวต้านดังกล่าวพลิกเป็น “แนวรับ” ทันที หากเป็นแบบนี้ตามต่อได้ เพราะราคามีโอกาสขึ้นมาเล่นกันที่บริเวณ 1.95 บาท (+/-) แต่ต้องเข้าแบบทีละไม้ เพราะหุ้นมีความเสี่ยงจากการถูกขายทำกำไรจากไม้แรก ๆ ที่เข้าไปเก็บตอนราคาลงมาที่ 1.81-1.82 บาท

ส่วนกรุงไทย KTB หลัง “สารัชถ์ รัตนาวะดี” เข้ามาถือหุ้นแบบส่วนตัวกว่า 130 ล้านหุ้น ทำให้ราคาหุ้นยากที่จะปรับลง แนวรับ 27.00 บาท ขณะที่วานนี้ราคาขึ้นมาที่ 27.50 บาท ยังเป็นระดับแนวต้านอยู่ (27.75-28.00 บาท) ส่วนระดับราคาที่พอเล่นได้คือ ต้องเข้าที่ 27.25 บาท ส่วน 27.50 บาท อาจจะได้เพียงแค่ช่องเดียว เพราะราคาอาจพอมาขายได้ที่ 27.75 บาท แต่ต้องเข้าแบบเยอะ ๆ เช่น 1 หมื่นหุ้น 1 แสนหุ้นไปเลย ถือจะพอได้เป็นเนื้อเป็นหนัง แต่จะมาตั้งขายที่ 28.00 บาท น่าจะยังผ่านยาก

เรื่องของภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ แวต ที่จะปรับขึ้น หรือไม่ขึ้น พูดกันมาทุกคนที่เป็น รมว.คลัง แต่ไม่มีใคร (กล้า) ปรับขึ้นหรอก ทั้งที่ข้อเท็จจริงแล้ว ควรจะปรับขึ้นมาตั้งนานแล้ว ยิ่งโดยเฉพาะฐานะการคลังปัจจุบันค่อนข้างอยู่ในฐานะปริ่ม ๆ น้ำอยู่ จนสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือบางแห่งเริ่มปรับมุมมอง “เชิงลบ” ซึ่งก็ถือเป็นอีกการบ้านของรัฐบาลทุกชุด ว่าจะแก้ไขอย่างไร

บมจ.ท่าอากาศยานไทย หรือ AOT วานนี้บวกแรงมาก 2.00 บาท ปิด 42.25 บาท เปลี่ยนแปลง +5.63% ใครเข้าไปเก็บในวันก่อนหน้านี้คงกระเป๋าตุงไปแล้ว ส่วนปัจจัยบวก หากตอบแบบหาเหตุไปใส่ผลก็คือ เป็นผลจากจีนกับญี่ปุ่นเริ่มหึ่ม ๆ ใส่กัน จนทางการจีนขอความร่วมมือนักท่องเที่ยวไม่ให้คนจีนเดินทางไปญี่ปุ่น ส่งให้ต่างหันหัวเรือมายังประเทศไทยกันจำนวนมาก ขณะที่วานนี้ ข่าวว่า จะมีการแจ้งผลประกอบการงวดไตรมาส 4/2568 หรืองวดปีงบประมาณของ AOT หากออกมาดีกว่าคาดต้องดูว่าราคาจะไปต่อหรือถูกขายทำกำไร แต่หากต่ำกว่าคาด ก็ตัวใครตัวมันกันล่ะ

นฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) กล่าวว่า ระหว่างวันที่ 27-29 พ.ย. 2568 เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังจะนำคณะเดินทางไปเยือนประเทศญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการ เพื่อโรดโชว์ส่งเสริมการลงทุนกับผู้ลงทุนรายใหญ่เป็นประเทศแรก โดย BOI ร่วมกับ ธนาคาร ซูมิโตโม มิตซุย แบงกิ้ง คอร์ปอเรชั่น (SMBC) และพันธมิตรภาคธุรกิจญี่ปุ่นจัดสัมมนา “Thailand-Japan Investment Forum 2025 Tokyo Kaikan กรุงโตเกียว

คาเฟอีน

Back to top button