เช็คด่วน! 10 หุ้น mai ราคาถูก พร้อมเลี่ยง 10 หุ้น P/E สูงเกินพิกัด

แนวโน้มตลาดหุ้นสัปดาห์นี้คาดผันผวน-เชิงบวกกรอบ 1,560-1,590/1,600 จุด จากแรงซื้อคืน (cover short) หุ้นใหญ่หลายตัวที่รอขึ้น XD ต้นเดือนพ.ค. อีกทั้งลุ้นหุ้นไทยเข้า-เพิ่มน้ำหนักใน MSCI รอบใหม่กลางเดือนพ.ค.


แนวโน้มตลาดหุ้นสัปดาห์นี้คาดผันผวน-เชิงบวกกรอบ 1,560-1,590/1,600 จุด จากแรงซื้อคืน (cover short) หุ้นใหญ่หลายตัวที่รอขึ้น XD ต้นเดือนพ.ค. อีกทั้งลุ้นหุ้นไทยเข้า-เพิ่มน้ำหนักใน MSCI รอบใหม่กลางเดือนพ.ค.

ส่วนปัจจัยต่างประเทศคาดไม่มี Negative shock ใหม่ๆ อาทิ ผลเลือกตั้งฝรั่งเศสที่ไม่พลิกโผ, ตัวเลข ISM PMI ดัชนีฯ ภาคการผลิตโลกต้นเดือนพ.ค.ฟื้นตัวช้าๆ และผลการประชุม FOMC คาดคงดอกเบี้ยและยังไม่ลดขนาด Balance sheet ลงเพราะตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่โตต่ำกว่าคาด

จากปัจจัยดังกล่าวคาดเป็นแรงหนุนให้หุ้นในตลาดหลักทรัพย์ mai จะได้รับอานิสงค์ตามไปด้วย ดังนั้น “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์”จึงทำการรวบรวมหุ้นในตลาดฯ mai ที่มีค่า P/E  Ratio(อัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรต่อหุ้น)ต่ำไม่เกิน 15 เท่า มานำเสนอ เนื่องจากเห็นว่าหุ้นกลุ่มดังกล่าวปรับตัวลงแรงเกินพื้นฐาน จึงน่าจะเป็นโอกาสในการเข้าลงทุนอีกครั้ง

ขณะเดียวกันการรวบรวมข้อมูลครั้งนี้ยังได้รวบรวมหุ้นที่มีค่า P/E สูงเกิน 90 เท่า มานำเสนออีกด้วย เพื่อให้นักลงทุนได้ประกอบและตัดสินใจก่อนเข้าลงทุน โดยการคัดเลือกเทียบจากหุ้นที่มีค่า P/E สูงกว่าระดับตลาดฯ mai ซึ่งอยู่เพียง 94.13 เท่า ณ วันที่ 28 เม.ย.59

สำหรับหุ้นที่เข้าเกณฑ์ดังกล่าวมีทั้งหมด 20 ตัว แบ่งเป็น  หุ้น P/E ไม่เกิน 15 เท่า ประกอบด้วย BROOK,2S,TMW,SWC, UKEM,UBIS,PDG,PJW,MBAX,MOONG และ KIAT ส่วนหุ้นที่ค่า P/E เกิน 90 เท่า ประกอบด้วย FOCUS,OCEAN, CCN,TMI,ARIP,CHOW,UAC,TVD,FVC และ RWI ตามตารางประกอบดังนี้

อนึ่งโดยทั่วไปหุ้นที่มี P/E ratio สูงหมายถึงว่าเรายอมจ่ายแพงกว่าเพื่อซื้อหุ้นตัวนี้เมื่อเปรียบเทียบกับหุ้นอีกตัวนึงที่มี P/E ต่ำกว่า ดังนั้นหลายคนมักจะบอกว่า หุ้นที่มี P/E ratio สูงๆ คือหุ้นที่แพง และหุ้นที่มี P/E ratio ต่ำๆ คือหุ้นที่ถูก ดังนั้น การซื้อหุ้นที่มีราคาถูก น่าจะมีโอกาสกำไรมากกว่าซื้อหุ้นที่แพง

 

*ทั้งนี้ข้อมูลที่มีการนำเสนอข้างต้น เป็นเพียงข้อแนะนำจากข้อมูลพื้นฐานเพื่อประกอบการตัดสินใจของนักลงทุนเท่านั้น และมิได้เป็นการชี้นำ หรือเสนอแนะให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ การตัดสินใจซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ ของผู้อ่าน ไม่ว่าจะเกิดจากการอ่านบทความในเอกสารนี้หรือไม่ก็ตาม ล้วนเป็นผลจากการใช้วิจารณญาณของผู้อ่าน

Back to top button