เซียนอยู่รู!

*สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา ทำให้เซียนหุ้นหลายรายถึงกับร้องจ๊าก! เพราะผลตอบแทนผิดไปจากที่คาดการณ์ค่อนข้างเยอะ แถมเซียนบางคนยังไม่ทันเทขายหุ้นออกไปบางส่วน ก็โดนซ้ำด้วยดาบสองดาบสามแบบนี้กระมั่ง! พวกแมงเม่าถึงแซวกันสนุกสนานว่า ไม่ค่อยเจอหน้าเซียนหุ้นขาประจำเลย หลังแต่ละรายพบกับภาวะ “ทุนหาย กำไรหด” กันถ้วนหน้าน่ะสิ


เจาะกระดานหุ้น : โมนิก้าและทีมงาน

 

*สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา ทำให้เซียนหุ้นหลายรายถึงกับร้องจ๊าก! เพราะผลตอบแทนผิดไปจากที่คาดการณ์ค่อนข้างเยอะ แถมเซียนบางคนยังไม่ทันเทขายหุ้นออกไปบางส่วน ก็โดนซ้ำด้วยดาบสองดาบสามแบบนี้กระมั่ง! พวกแมงเม่าถึงแซวกันสนุกสนานว่า ไม่ค่อยเจอหน้าเซียนหุ้นขาประจำเลย หลังแต่ละรายพบกับภาวะ “ทุนหาย กำไรหด” กันถ้วนหน้าน่ะสิ

*ประจวบกับตัวแปรหลายอย่างไม่เอื้อประโยชน์ต่อการลงทุน จึงทำให้หุ้นที่ทะยานขึ้นอย่างร้อนแรงในเที่ยวนี้ กลายเป็นฝนห่าเดียวที่ตกลงบนพื้นดินที่แตกระแหง ซึ่งไม่ช่วยให้การลงทุนในระยะยาวเป็นอย่างราบเรียบ “โมนิก้า” ถึงต้องออกมาสื่อสารให้นักเล่นได้รู้ถึงแนวความคิดของผู้เล่นในตลาดหุ้นไม่ค่อยจะสู้ดีสักเท่าไหร่ จึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษนะจะบอกให้

*เม้าท์ถึงตรงนี้ขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ขอเล่าถึงบทบาทของผู้เล่นหลักอย่าง กลต. กับ ตลท. เริ่มมีเสียงบ่นรอบใหม่เกิดขึ้นอีกครั้งว่า ไม่ค่อยมีส่วนร่วมในการบิ้วด์อารมณ์ตลาด แถมยังชอบทำตัวเป็นไอ้เข้ขวางคลอง มันเป็นช็อตที่จี้ใจดำแบบซึ่งหน้าก็จริง แต่พวกเขาเหล่านั้นคงไม่สะทกสะท้านอะไรมากนักหรอก เพราะของมันเคยโดนกันมาตั้งหลายครั้งหลายครา สุดท้ายก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมเจ้าค่ะ

*เหมือนกับเรื่องที่พวกแมงลือป้องปากเม้าท์ว่า ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีหุ้น IPO ที่เคยยื่นไฟล์ลิ่งกับสำนักงานไว้ 5 บริษัท ได้ขอถอนตัวจากระบบดังกล่าวกะทันหัน ซึ่งสร้างความมึนงงให้กับบรรดาที่ปรึกษาทางการเงินว่า เกิดอะไรขึ้น?  “โมนิก้า” ถึงมองเรื่องนี้ไม่ปกติอย่างแน่นอน ขนาดเดี๊ยนเป็นคนชอบเผือกยังรู้สึกตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น จึงน่าจะมีคนออกมารับผิดชอบหน่อย แถมพวกเกรียนคีย์บอร์ดชี้เป้าไปที่หน่วยงานดังกล่าวมีการปรับหลักเกณฑ์ที่ยากขึ้น ก็เลยทำให้พวกเอสเอ็มอีที่กำลังจะเข้าตลาดหุ้นหง๊อยรับประทานไงล่ะค่ะ

*ไหนๆ ก็มาถึงช็อตเรื่องเล่า ในแบบเขาเล่าว่า หรือเขาพูดว่า  หลังมีการเอ่ยถึงยุทธวิธีที่ ตลท. ขึ้นเครื่องหมาย Alert บนหุ้น NEWS ทั้งที่เรื่องนี้เป็นแค่การแตกพาร์ กับการเพิ่มทุนธรรมดาๆ ไม่ได้มีอะไรมากกว่าที่เป็นอยู่ จนเกิดข้อถกเถียงกันขึ้นมาว่า ตลาดทำเกินกว่าเหตุ? เพราะถ้ามองกันลึกๆ จะเห็นว่า นี่เป็นวิธีเดียวจูงใจให้ผู้ถือหุ้นเพิ่มทุนแบบสบายใจ(มันนี่เกม) บวกกับสถานการณ์ของทีวีดิจิตอลก็ไม่ค่อยสู้ดีสักเท่าไหร่ จึงต้องหาเงินมาเติมสภาพคล่องให้ได้เร็วที่สุด แถมมีการตบท้ายอีกช็อตว่า หากเป็นคนดังเจ้าอื่น คงไม่โดนแบบนี้ใช่ไหม!..จริงเท็จอย่างไร ลองคิดกันดูนะจ๊ะ

*ส่วนที่ไม่ต้องคิดกันเลยก็คือ BA ราคาหุ้นเซถลาลงมายิ่งกว่านกปีกหัก แถมแรงรับก็หดหายไปดื้อๆ จนมองไม่เห็นจุดดีดกลับอยู่ตรงไหน? บวกกับหุ้นลงทำ new low ที่ระดับ 18.90 บาท ลบไป 0.50 บาท หรือลงไป 2.60%  ด้วยมูลค่า 418 ล้านบาท ซึ่งต่ำสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่เข้าตลาดหุ้นเมื่อ 3 พ.ย. 57 “โมนิก้า” ถือเป็นช็อตที่ทำให้คนที่ถือหุ้นจุกอกไปตามกัน เพราะมีสิทธิ์ได้เห็นราคาที่ต่ำกว่าวานนี้น่ะสิ

*ประเด็นดังกล่าวคล้ายคลึงหุ้น SAMART ซึ่งหลายคนรู้สึกแฮปปี้จนออกนอกหน้านั้น “โมนิก้า” ถือเป็นความคิดที่ผิดมหันต์ เพราะภาพใหญ่ที่ดูเป็นรายปี..ยังอยู่ในช่วงของขาลง ส่วนภาพของรายวัน..ยังอยู่ในช่วงหาฐาน ขณะที่ภาพของรายวัน..ยังอยู่ในลักษณะ w-shape แถมยอดเก่าที่แตะปุ๊บ..ลงปั๊บ ก็อยู่แถว 16 บาท มันคุ้มกับที่เอาตัวเข้าไปเล่นเกมเสี่ยงไหม หลังหุ้นขึ้นมาปิด 15.60 บาท บวกไป 0.80 บาท หรือขึ้นไป 5.40% ด้วยมูลค่า 224 ล้านบาทแล้วจ้า!

*พูดถึงความเสี่ยงขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” คิดว่า ต้องหันกลับมามองหุ้นฟอร์มร้อนแรงอย่าง ASIAN ซึ่งทะยานจากราคา 5.20 บาท ขึ้นไปถึง 11 บาท ภายในระยะเวลา 1 เดือน แต่ในช่วง 2 วันที่ผ่านมาถูกเทขายตลอดเวลา จนสุดท้ายลงมายืนอยู่ที่ 9.50           บาท ลบไป 0.90 บาท หรือลงไป 8.65% ด้วยมูลค่า 235 ล้านบาท  เดี๊ยนบอกได้แค่ว่า วันนี้หุ้นต้องเด้งสถานเดียว หากไม่เป็นดังที่ว่า จบเกมนะจะบอกให้

*เม้าท์เรื่องซีเรียสมาเยอะแล้ว “โมนิก้า” ขอย้อนกลับมาดูเรื่องจรรโลงจิตใจอย่างเช่นหุ้น BCPG หลังได้รับการคัดเลือกเข้ากองประกวดหุ้นอนาคตแจ่ม แรงซื้อก็ไหลเข้ามาไม่ขาดสาย จนหุ้นขึ้นมาปิดที่ 14.70         บาท บวกไป 0.40 บาท หรือขึ้นไป 2.80% ด้วยมูลค่า 515 ล้านบาท เดี๊ยนถือเป็นสถานการณ์ที่ทำให้เชื่อว่า หุ้นจะขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 16 บาทอีกครั้งเจ้าค่ะ

*เช่นเดียวกับในรายของ ECF ทะยานขึ้นมาปิดที่  4.02 บาท บวกไป 0.18 บาท หรือขึ้นไป 4.70%  ด้วยมูลค่า 127 ล้านบาท ล้วนมาจากสตอรี่ของธุรกิจยังไปได้สวย แรงซื้อถึงหนุนเข้ามาอย่างต่อเนื่อง “โมนิก้า” มองเป็นทางเลือกที่นักเล่นต้องโหนกระแสให้เป็น เพราะการขึ้นของหุ้นในเที่ยวนี้อาจมา “เร็วกว่า แรงกว่า” จึงไม่เหมาะสำหรับพวกทำอะไรชักช้านะคะ

Back to top button