อาการน่าเป็นห่วง!

*หากดูจากสภาพของตลาดหุ้นไทยในช่วงนี้ “โมนิก้า” ยังยืนยันคำเดิมว่า สถานการณ์ยังน่าเป็นห่วงเหมือนเดิม เพราะตัวแปรที่จะทำให้ดัชนีดีดกลับขึ้นไปยืนเฉียด 1,600 จุด ไม่สามารถจับต้องได้เลยสักเรื่อง บวกกับแพทเทิร์นของหุ้นมาทรงเดียวกับในช่วงเดือน เม.ย-พ.ค. เดี๊ยนถึงกล้ายืนยันว่า ดัชนีจะโค้งตัวลงในลักษณะ sideway down อีกรอบไงล่ะค่ะ


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*หากดูจากสภาพของตลาดหุ้นไทยในช่วงนี้ “โมนิก้า” ยังยืนยันคำเดิมว่า สถานการณ์ยังน่าเป็นห่วงเหมือนเดิม เพราะตัวแปรที่จะทำให้ดัชนีดีดกลับขึ้นไปยืนเฉียด 1,600 จุด ไม่สามารถจับต้องได้เลยสักเรื่อง บวกกับแพทเทิร์นของหุ้นมาทรงเดียวกับในช่วงเดือน เม.ย-พ.ค. เดี๊ยนถึงกล้ายืนยันว่า ดัชนีจะโค้งตัวลงในลักษณะ sideway down อีกรอบไงล่ะค่ะ

*งานนี้ไม่ต้องไปศึกษาค้นคว้าอะไรมากมาย เพราะมันเป็นเรื่องที่เห็นกันท่นโท่อยู่แล้ว ยิ่งเห็นดัชนีอ่อนตัวลงไปกว่า 10 จุด หลังจากนั้นเด้งขึ้นมาปิดที่ 1,569.64 จุด ลบไป 5.38 จุด ด้วยมูลค่า 4.76 หมื่นล้านบาท ยิ่งทำให้รู้ว่า ทุกคนหันมาเล่นเกมตั้งรับ ไม่มีใครอยากไล่ราคาแรงๆ ซึ่งจะทำให้ดัชนีแกว่งตัวลงอีกอย่างแน่นอนแบบนี้ “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องที่ไม่สบายใจอย่างแรงนะคะ

*ประเด็นตรงนี้ทำให้ “โมนิก้า” เกิดอาการหงุดหงิดใจเป็นประจำ เพราะสภาพของตลาดหุ้นเป็นแบบ “ขึ้นไม่สุด ลงไม่ลึก” กรอบการเล่นยังอยู่ที่ระดับ 1,530-1,590 จุด ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ปรากฏให้เห็นมาแล้ว 2 ครั้งตั้งแต่ต้นปี หากรวมกับเหตุการณ์ในครั้งนี้อีกครั้ง ก็จะรวมเป็นครั้งที่ 3 จึงไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับตัวอีฉัน แต่อาจปัญหาตรงที่ รอบนี้ดัชนีจะยืนเหนือระดับดังกล่าวได้อะป่าว?

*เนื่องจากผลประกอบการอาจไม่เป็นเหมือนกับที่มองไว้ แถมเกจิอาจารย์หลายรายเม้าท์ตรงกันว่า ผลงานไตรมาส 2 ไม่เข้าตาสักเท่าไหร่? จึงมีแรงเทขายออกมาเป็นจำนวนมาก และหลังจากนี้คงมีออกมาเรื่อยๆ ซึ่งเหมือนกับสถานการณ์ของ BANPU ถูกถล่มอย่างหนัก จนหุ้นไหลลงมาอยู่ที่ 15.50 บาท ลบไป 0.40 บาท หรือลงไป 2.50% ด้วยมูลค่า 3 พันล้านบาท ทั้งหมดเป็นผลมาจากพวกกองทุนไม่เชื่อใจ จึงสาดหุ้นออกมาไม่ยั้งอย่างที่เห็น หุ้นเลยอยู่ในอาการโคม่าไงล่ะค่ะ

*อีกหนึ่งรายที่ “โมนิก้า” รู้สึกเป็นกังวลอย่างบอกไม่ถูก คงโฟกัสไปที่พี่เทพ PTTEP มากกว่าเจ้าอื่นๆ เพราะทันทีที่มีข่าวเกี่ยวกับราคาพลังงานลดลง หุ้นตัวนี้มีอาการเป๋อย่างรวดเร็วเป็นประจำ แถมวานนี้หุ้นไหลลงกองอยู่ที่ 84.25 บาท ลบไป 2.75 บาท หรือลงไป 3.15% ด้วยมูลค่า 2.31 พันล้านบาท มันสะท้อนถึงแรงซื้อมีน้อยกว่าแรงขาย หุ้นถึงอยู่ในช่วงแกว่งตัวลงเจ้าค่ะ

*สำหรับในรายของ BEM อาจไม่มีตัวแปรทางธุรกิจมากระทบการทำกำไร แต่ทิศทางของหุ้นกลับอยู่ในลักษณะ W-Shape “โมนิก้า” ถึงเชื่อว่า หุ้นจะไหลกลับลงไปยืนแถว 7 บาทอีกรอบ หลังจากหุ้นเทกตัวขึ้นไปหายอด 7.70 บาทเป็นที่เรียบร้อย แถมวานี้หุ้นทรุดตัวลงมาปิดจุดต่ำสุดของวันที่ 7.40 บาท ลบไป 0.20 บาท หรือลงไป 2.60% ด้วยมูลค่า 650 ล้านบาท มันเป็นช็อตที่นักเล่นต้องไปคิดต่อว่า จริงไหม?

*คล้ายคลึงกับกรณีของ ASIAN พยายามเทกตัวขึ้นเป็นระยะ แต่ก็ทำไม่สำเร็จสักที จนจุดสูงของการเด้งต่ำกว่าครั้งก่อน ส่งผลให้ภาพของหุ้นดูไม่ดีเอาเสียเลย เพราะกลายเป็นลักษณะบันไดขาลง “โมนิก้า” ถึงอยากให้นักเล่นมองเรื่องดังกล่าวบนความเป็นจริงว่า หุ้นลงมายืนอยู่ที่ 13.40 บาท ลบไป 0.90 บาท หรือลงไป 6.30% ด้วยมูลค่า 232 ล้านบาท มันตรงกับสิ่งที่เล่าให้ฟังไหมล่ะค่ะ

*หากต้องการเห็นภาพชัดขึ้นมานิดหนึ่ง “โมนิก้า” ขอแนะนำให้ทุกท่านหันมาดูกรอบการเคลื่อนตัวของหุ้น SAMART ซึ่งอยู่ในรูปแบบภูเขา 3 ลูก เรียงในระนาบเดียวกัน ล้วนเป็นช็อตที่ทำให้เดี๊ยนมั่นใจว่า การเคลื่อนตัวของหุ้นหลังจากนี้จะอยู่ในกรอบ 13-17 บาทเหมือนเช่นที่ผ่านมา บวกกับวานนี้หุ้นอ่อนตัวลงมาปิดที่ 13.90 บาท ลบไป 0.50 บาท หรือลงไป 3.50% ด้วยมูลค่า 99 ล้านบาท เท่ากับเป็นการส่งสัญญาณให้รู้ว่า รอให้สะเด็ดน้ำแล้วค่อยเล่นดีกว่าค่ะ

*ตรงนี้เหมือนเหตุการณ์ ITD ถูกถล่มอย่างหนักหน่วงอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ก็มาจากความไม่มั่นใจในตัวบริษัท ผสมผสานกับแผนงานต่างๆ ก็หลุดโลกไปมาก หุ้นถึงทรุดตัวทำนิวโลว์ตลอดเวลา “โมนิก้า” ถึงไม่แปลกใจที่วานนี้โดนเทขายอีกรอบ จนหุ้นลงมากองอยู่ที่ 4.16 บาท ลบไป 0.14 บาท หรือลงไป 3.26% ด้วยมูลค่า 208 ล้านบาท พ่วงด้วยทำสถิติต่ำสุดในรอบ 3 ปี 3 เดือน บอกตามตรงว่า ไม่น่าสนใจเอาเสียเลยจ้า

*ส่วนเรื่องที่เดี๊ยนอยากเผือกเป็นพิเศษในเที่ยวนี้กลายเป็นเซียน น. กำลังทำตัวเป็นบ่างช่างยุ พ่วงด้วยลูกอีช่างฟ้องแบบหน้าด้านๆ “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องที่เกินไปสักหน่อยสำหรับคนที่มีนิสัย “กินบนเรือน..ขี้บนหลังคา” แถมเรื่องดังกล่าวไม่ได้เกี่ยวข้องกับตัวเองสักเท่าไหร่? จู่ๆ คุณพี่ดันออกตัวแทนคู่กรณีที่เขาวิวาทะกันอยู่ เดี๊ยนมองว่า งานนี้ต้องมีคนเสียสุนัขแน่นอน..ส่วนรายละเอียดจะเป็นเช่นไร? วันอังคารจะมาเล่าต่อนะคะ

*สำหรับเรื่องที่เม้าท์ได้ทันทีในเที่ยวนี้ “โมนิก้า” ขอพุ่งเป้าไปที่อาการหงายเงิบของหมอจอมแสบ “วิชัย” ซึ่งกุมอำนาจบริหารงาน IFEC แต่เพียงผู้เดียวนั้น ล่าสุดมีข่าวกระทรวงพาณิชย์ทำหนังสือถึง ก.ล.ต.  พร้อมกับชี้แจงรายละเอียดว่า ให้ฝั่งคุณหมอจอมแสบรีบดำเนินการเลือกตั้งกรรมการใหม่ เนื่องจากเลือกตั้งรอบก่อนไม่ชอบด้วยกฎหมาย เดี๊ยนถึงหวังว่า คงไม่มีการหงายการ์ดรู้เท่าไม่ถึงการณ์อีกแล้วนะ..เพราะมันเป็นมุกของเด็ก ป.4 นะจะบอกให้

Back to top button