เปิดโผหุ้นอสังหาฯ ตัวเต็ง! แนวโน้มกำไรแจ่มพ่วงปันผลสูง-P/E ต่ำ

เปิด 3 หุ้นอสังหาฯ ตัวเต็ง โบรกฯเชียร์ซื้อ มอง P/E ยังต่ำ พร้อมผลตอบแทนปันผลสูงปรี๊ด! ด้านผลประกอบการ Q2-Q4 ยังโตต่อเนื่อง


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์ ได้ทำการสำรวจข้อมูลของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้น (บจ.) ผู้ดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่เหล่านักวิเคราะห์แนะนำเป็นหุ้นกลุ่มเด็ด หลังจากที่พบว่าเป็นกลุ่มที่ให้ผลตอบแทนจากปันผลสูง อีกทั้ง P/E ยังต่ำ

นอกจากนี้ยังมองว่าเป็นกลุ่มที่ไม่ได้รับผลกระทบจากพ.ร.ก.แรงงานต่างด้าวอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากผู้พัฒนาโครงการคอนโดฯ มีการว่าจ้างผู้รับเหมารายใหญ่ในการก่อสร้าง ซึ่งส่วนใหญ่มีระบบบริหารจัดการแรงงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยได้ทำการคัดเลือกมา 3 บจ. ดังนี้ SPALI, LH , PSH

 

โดย บล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ (11 ก.ค.) ดอกเบี้ยยังต่ำหนุนหุ้นอสังหาฯ PE ต่ำ ปันผลสูง ชอบ SPALI, LH โดยมองว่าในภาวะตลาดแกว่งตัวกรอบแคบ การเลือกลงทุนในหุ้นที่สามารถคาดหวังผลตอบแทนจากเงินปันผลได้ในรับสูง แต่ยังไม่แพง คือมี P/E ต่ำ น่าจะเป็นทางเลือกที่ดี

ทั้งนี้หุ้นในกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เป็นหนึ่งในตัวเลือก ในส่วนของผลประกอบการของธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อขาย คาดว่าจะเห็นการกลับมาฟื้นตัวของยอดรับรู้รายได้ในงวดไตรมาส 2/60

ทั้งนี้ประเมินจากธุรกรรมการขายที่กลับมาดีขึ้นนับตั้งแต่ปลายเดือน มี.ค. 2560 เฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของโครงการแนวราบ ทำให้คาดว่าจะเห็นการเพิ่มขึ้นของยอดโอนฯ จากงวดไตรมาส 1/60

อย่างไรก็ตามหากเทียบกับไตรมาส 2/59 ก็ยังน่าจะเห็นการอ่อนตัว เนื่องจากในงวดไตรมาส 2/59 มีมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์จากภาครัฐ ซึ่งครอบคลุมอยู่จนถึงปลายเดือน เม.ย.2559 ทำให้ฐานรายได้และกำไรในงวดไตรมาส 2/60  ต่ำกว่าปกติ ทั้งนี้ ณ สิ้นไตรมาส 1/60 มี Backlog (ไม่รวม JV) พร้อมรับรู้รายได้ในช่วงไตรมาส 2-4/60 ประมาณ 9.1 หมื่นล้านบาท

โดยจะทยอยรับรู้ตั้งแต่ไตรมาส 2/60 เป็นต้นไป และจะค่อยๆ สูงขึ้น โดยไตรมาส 4/60 จะเป็นจุดสูงสุดเหมือนปกติทุกปี คาดผลักดันกำไรปกติกลุ่มฯ ปีนี้เติบโต 17.5% จากปีก่อน

ขณะที่ผลกระทบจาก พ.ร.ก. แรงงานต่างด้าว คาดไม่กระทบต่อกลุ่มฯ อย่างมีนัยฯ เนื่องจากผู้พัฒนาโครงการคอนโดฯ มีการว่าจ้างผู้รับเหมารายใหญ่ในการก่อสร้าง ซึ่งส่วนใหญ่มีระบบบริหารจัดการแรงงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ขณะที่ผู้พัฒนาโครงการแนวราบ ก็มีว่าจ้างผู้รับเหมางานก่อสร้างรายย่อยรายหลาย ซึ่งสามารถสับเปลี่ยนหมุนเวียนในงานก่อสร้าง หากผู้รับเหมารายใดรายหนึ่งมีปัญหา ขณะเดียวกันการใช้ระบบเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในงานก่อสร้าง เช่น Precast ช่วยลดแรงงานคนได้พอสมควร

ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยแนะนำ Selective Buy เลือกหุ้นที่มีฐานธุรกิจแข็งแกร่ง, Backlog สูง ปันผลจูงใจ และมี PER ต่ำ ได้แก่ LH ([email protected]) เนื่องจากมีโครงสร้างธุรกิจครบทุกมิติ ทั้งอสังหาฯเพื่อขายและเพื่อเช่า รวมถึงมีความสมดุลในพอร์ตสินค้าครบทุกประเภท และลูกค้าเป้าหมายทุกกลุ่ม ช่วยผลักดันให้การสร้างรายได้มีความยั่งยืน โดย LH คาดหวัง Div Yield สูงเกือบ 7% ต่อปี และมี Expected P/E เพียง 12.8 เท่า

อีกทั้ง SPALI ([email protected]) คาดแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2-4/60 เติบโตเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากกำหนดการส่งมอบโครงการคอนโดฯ ใหม่ใน 3 ไตรมาสที่เหลือของปี โดยทั้งปี 2560 คาดกำไรปกติเติบโต 14% จากปีก่อน ขณะที่ราคาหุ้นมี Expectd P/E เพียง 8 เท่า และคาดหมาย Div Yield 4.6%

 

ด้าน บล.กสิกรไทย ระบุในบทวิเคราะห์ (11 ก.ค.60) กลยุทธ์การลงทุน ยังคงมองว่าการประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/60 จะไม่เป็นตัวช่วยตลาดในทางตรงกันข้ามผลประกอบการของภาค Real Sector จะเป็นปัจจัยลบที่คอยมากดดันตลาด

กลยุทธ์วันนี้เลือกเก็งผลประกอบการฯใน กลุ่มธนาคารฯ กลุ่มการเงิน กลุ่มค้าปลีก นอกนั้นยังคงเป็น กลุ่ม Low PER & High Dividend Yield และผลประกอบการงวดไตรมาส 2/60 ทรงตัวหรือฟื้นตัว อย่างกลุ่ม อสังหาฯ เลือก LH และPSH

 

*ทั้งนี้ข้อมูลที่มีการนำเสนอข้างต้น เป็นเพียงข้อแนะนำจากข้อมูลพื้นฐานเพื่อประกอบการตัดสินใจของนักลงทุนเท่านั้น และมิได้เป็นการชี้นำ หรือเสนอแนะให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆการตัดสินใจซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ ของผู้อ่าน ไม่ว่าจะเกิดจากการอ่านบทความในเอกสารนี้หรือไม่ก็ตาม ล้วนเป็นผลจากการใช้วิจารณญาณของผู้อ่าน

Back to top button