เคาะ 10 หุ้นร้อน SET Sideways Up ระหว่างรอผลประชุมเฟด-อีซีบี

ดัชนีหุ้นไทย (SET) วันนี้ Sideways Up ระหว่างรอผลประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯและยุโรป รวมถึงความคืบหน้าของการรวมร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของสหรัฐฯ จึงมองว่ากรอบการบวกในระยะนี้จะยังไม่กว้างนัก การลงทุนเน้นกลุ่มที่แนวโน้มกำไรไตรมาส 4 และปีนี้ออกมาดีเป็นหลัก


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์ รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.35 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 32.61 บาทต่อเหรียญ ด้านตลาดหุ้นเอเชียเคลื่อนไหวทั้งแดนบวกและลบ ขณะที่นักลงทุนต่างจับตาการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 12 – 13 ธ.ค. รวมถึงการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันที่ 14 ธ.ค.นี้

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทย (SET) วันนี้ Sideways Up ระหว่างรอผลประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯและยุโรป รวมถึงความคืบหน้าของการรวมร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของสหรัฐฯ จึงมองว่ากรอบการบวกในระยะนี้จะยังไม่กว้างนัก การลงทุนเน้นกลุ่มที่แนวโน้มกำไรไตรมาส 4 และปีนี้ออกมาดีเป็นหลัก หุ้นเด่นเลือก BBL, CMO, EPG, MINT, ROBINS, PTT, PTTEP, PTTGC, TOP และ IRPC

 

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) เปิดเผยถึงแนวโน้มตลาดหุ้นไทยในเช้านี้ (12 ธ.ค.) ว่ามีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อ โดยมีปัจจัยหนุนในประเทศจากแรงซื้อของกองทุน LTF และ RMF ที่ยังเป็นปัจจัยหลักที่หนุนดัชนีตลาดหุ้นไทยให้ปรับตัวขึ้น

ขณะที่ปัจจัยจากต่างประเทศยังคงมาจากปัจจัยของสหรัฐฯ โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาได้ประกาศตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯ ออกมาดี และส่งผลหนุนต่อตลาดหุ้นสหรัฐนปรับตัวขึ้น และส่งผลมาสุ่ตลาดหุ้นอื่นทั่วโลก อีกทั้งการประชุมเฟด ในวันนี้และพรุ่งนี้มองว่าจะปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 0.25% ตามการคาดการณ์ รวมถึงร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของสหรัฐฯที่ตลาดคาดว่าจะผ่านความเห็นชอบก่อน 22 ธ.ค.นี้ ซึ่งส่งผลบวกต่อภาพรวมการลงทุนในตลาดหุ้น

ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่เปิดทำการแล้วในช่วงเช้านี้การเคลื่อนไหวของดัชนีมีทั้งบวกและลบในแต่ละประเทศ โดยตลาดหุ้นที่ดัชนีเป็นลบเช้านี้ ได้แก่ เกาหลีใต้ มาเลแซีย และสิงคโปร์ ส่วนตลาดหุ้นญี่ปุ่น ไต้หวั่น และฮ่องกง ดัชนีเป็นบวก พร้อมให้แนวต้านที่ 1,715-1,720 จุด แนวรับ 1,700 จุด

บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ (12 ธ.ค.) คาด SET จะแกว่งตัว Sideways Up โดยราคาน้ำมันดิบเริ่มฟื้นตัวขึ้น 2 วันติดต่อกันรวมกว่า 2% ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯที่ออกมาคืนวันศุกร์ค่อนข้างแข็งแกร่ง ขณะที่ตลาดไม่ได้ให้น้ำหนักเชิงลบต่อเหตุระเบิดในนิวยอร์กนัก สังเกตได้จากการดีดตัวกลับของตลาดหุ้นสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม ปัจจัยสำคัญที่นักลงทุนติดตามคือการประชุม FOMC ในช่วง 12-13 ธ.ค. นี้ และความคืบหน้าของการรวมร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของสหรัฐฯ จึงมองว่ากรอบการบวกในระยะนี้จะยังไม่กว้างนัก

กลยุทธ์ : ยังเน้น Trading ในกรอบโดยเน้นหุ้นขนาดกลาง-เล็ก หุ้นเด่นเดือน ธ.ค. : BBL, CMO, EPG, MINT, ROBINS

บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (12 ธ.ค.) ประเมินดัชนี SET เคลื่อนไหวในกรอบ 1,695 – 1,720 จุด ระหว่างรอการประชุมนโยบายการเงินของ FOMC, ECB และ BOE  แนะนำซื้อหุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี เช่น PTT, PTTEP, PTTGC, TOP, IRPC (+ Q4 นี้อาจมีกำไรจากสต็อคราว 5 ดอลลาร์/บาร์เรล)

Back to top button