SET รูดหนักเกือบ 30 จุด หลังตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงแรงสุดรอบ 1 ปี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดัชนีหุ้นไทยเปิดตลาดวันนี้ที่ระดับ 1,799.02 จุด ปรับตัวลดลงหนัก 28.33 จุด หรือคิดเป็น 1.55% สูงสุดที่ระดับ 1,799.44 จุด ต่ำสุดที่ระดับ 1,797.68 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 8,839.42 ล้านบาท

ทั้งนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงอย่างหนักตามตลาดหุ้นภูมิภาค สำหรับปัจจัยที่ทำให้ดัชนีปรับตัวลงมาจากแรงกดดันหลังดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงหนักสุดในรอบกว่า 1 ปีเมื่อวันศุกร์

โดยดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,520.96 จุด ร่วงลง 665.75 จุด หรือ -2.54% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,240.95 จุด ลดลง 144.92 จุด หรือ -1.96% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,762.13 จุด ลดลง 59.85 จุด หรือ -2.12% หลังจากได้รับแรงกดดันจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนม.ค.ที่แข็งแกร่งเกินคาด

อีกทั้งการพุ่งขึ้นของตัวเลขจ้างงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวเลขรายได้ต่อชั่วโมงซึ่งเป็นข้อมูลที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญเนื่องจากเป็นสัญญาณบ่งชี้เงินเฟ้อนั้น ยังกระตุ้นให้เกิดการคาดการณ์ว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้ในปีนี้

ขณะที่ตลาดหุ้นไทยมีแรงขายออกมาอย่างหนักในกลุ่มพลังงาน และปิโตรเคมี อาทิ PTT, PTTGC, IVL, PTTEP

10 หุ้นกดดัชนีเช้านี้

ด้าน นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นออนไลน์” ว่า การที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงเกือบ 30 จุด ในวันนี้ (5 ก.พ.2561) เป็นไปตามภาวะการลงทุนของตลาดต่างประเทศ หลังจากที่ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลดลงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (2 ก.พ.2561)

ทั้งนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยนับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวขึ้นมาแล้วกว่า 48 จุด หรือคิดเป็นเกือบ 3% ส่งผลให้ดัชนีฯมีแรงเหวี่ยงค่อนข้างสูง เมื่อมีปัจจัยลบจากต่างประเทศเข้ามาจึงเป็นตัวกดดันให้ดัชนีปรับตัวลดลงอย่างหนัก

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่พบปัจจัยในประเทศที่เป็นตัวกดดันดัชนีตลาดหุ้นไทย แนะนักลงทุน wait & see ไปก่อน จนกว่าจะมีความชัดเจนในหลายๆด้าน