เปิดกลุ่มหุ้นตัวท็อปรับออเดอร์ทะลักพร้อมปัจจัยบวก 2 เด้ง ราคาเนื้อหมูพุ่ง-ต้นทุนต่ำ

เปิดกลุ่มหุ้นตัวท็อปเตรียมรับปัจจัยบวก 2 เด้ง ราคาขายสุกรพุ่ง-ต้นทุนต่ำ


“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจบทวิเคราะห์ของบริษัทหลักทรัพย์เอเซียพลัส จำกัด (มหาชน) ซึ่งได้วิเคราะห์กลุ่มเกษตร-อาหาร โดยให้น้ำหนักการลงทุน “มากกว่าตลาด”  หลังจากราคาสุกรหน้าฟาร์มปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่ต้นทุนอาหารสัตว์ลดลง จากราคากากถั่วเหลืองที่ต่ำลงต่อเนื่อง

โดย บล.เอเซียพลัส ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ราคาสุกรหน้าฟาร์มปรับเพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า โดย ณ วันที่ 26 ต.ค. 61 เท่ากับ 62 บาท/กก. ปรับเพิ่มขึ้น 3.3% จากสัปดาห์ก่อนหน้า ทั้งนี้เนื่องจากความต้องการบริโภคเนื้อสุกรเพิ่มขึ้น หลังผ่านช่วงเทศกาลกินเจ

นอกจากนี้ ยังประเมินว่าผู้เลี้ยงสุกรรายย่อยและรายกลางที่มีปัญหาด้านสภาพคล่องเริ่มทยอยลดการเลี้ยงสุกรลงบ้างแล้ว หลังจากที่เผชิญปัญหาขาดทุนมานานราว 1 ปี โดยประเมินว่าต้นทุนการเลี้ยงสุกรของผู้ประกอบการรายย่อยจะอยู่ที่ราว 64 บาท/กก. สูงกว่าผู้ประกอบการรายใหญ่ (CPF และ TFG) ราว 10% ที่ราว 58 บาท/กก.

อีกทั้ง ยังประเมินว่าแนวโน้มการบริโภคเนื้อสัตว์จะเพิ่มขึ้นอีกครั้งในช่วงเทศกาลวันหยุดยาวช่วงปลายปี ซึ่งเป็นปกติของอุตสาหกรรมฯ ทั้งนี้ ราคาสุกรเฉลี่ยตั้งแต่ต้นปี 2561 เท่ากับ 54.65 บาท/กก. ปรับลดลง 4.9% จากราคาสุกรหน้าฟาร์มเฉลี่ยปี 2560 ต่ำกว่าสมมติฐานราคาสุกรเฉลี่ยปี 2561 ที่ฝ่ายวิจัยประเมินไว้ที่ 56 บาท/กก. เล็กน้อย

โดยหากจะให้ราคาสุกรเฉลี่ยปี 2561 เป็นไปตามสมมติฐานที่ฝ่ายวิจัยประเมินไว้ ราคาสุกรเฉลี่ยในช่วงที่เหลือของปี 2561 จะต้องอยู่ที่ 61 บาท/กก. ซึ่งมีโอกาสเป็นไปได้สูง โดยทิศทางราคาสุกรที่ฟื้นตัวเป็นผลบวกต่อ TFG และ CPF ประกอบธุรกิจสุกรในประเทศ 20% และ 14% ตามลำดับ

นอกจากนี้ ค่าเงินบาท/ดอลลาร์สหรัฐฯยังอ่อนค่าจนล่าสุดอยู่ที่ 33.08 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ ถือเป็นผลบวกต่อผู้ส่งออกด้วยเช่นกัน (บวกต่อ CPF แต่กระทบ TFG เพราะนำเข้ากากถั่วเหลืองในสัดส่วนมากกว่าส่งออกไก่) ทำให้ความสามารถในการแข่งขันกับคู่แข่งต่างประเทศดีขึ้นและแปลงเงินเป็นสกุลเงินบาทได้เพิ่มขึ้นด้วย

โดยค่าเงินบาทเฉลี่ยตั้งแต่ต้นปี 2561 เท่ากับ 32.20 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าสมมติฐานปี 2561 ที่ฝ่ายวิจัยกำหนดไว้ที่ 33 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯเล็กน้อย โดยหากกำหนดให้ค่าเงินบาทในช่วงที่เหลือของปีเฉลี่ยที่ 33 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ จะทำให้ค่าเงินบาทเฉลี่ยทั้งปี 2561 เท่ากับ 32.40 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่ากว่าที่ฝ่ายวิจัยประเมินไว้เล็กน้อย

ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยประเมินว่าแนวโน้มราคาสุกรจะทยอยปรับเพิ่มขึ้นในช่วงที่เหลือของปี 2561-62 ส่งผลบวกต่อธุรกิจสุกร จึงแนะนำซื้อ CPF (FV@B30) และ TFG (FV@B5)

 

ขณะที่ ก่อนหน้านี้ บล.เอเซียพลัส ระบุว่า ราคากากถั่วเหลืองในตลาดล่วงหน้าสหรัฐฯ ณ วันที่ 25 ต.ค. 61 เท่ากับ 303.90 เหรียญสหรัฐฯ/ตัน ปรับลดลง 3.9% จากสัปดาห์ก่อนหน้า

โดยราคากากถั่วเหลืองปรับลดลงจากสัปดาห์ก่อน เนื่องจากแนวโน้มผลผลิตถั่วเหลืองของสหรัฐฯ จะออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้นในสัปดาห์หน้า เพราะสภาพอากาศเอื้ออำนวยต่อการเก็บเกี่ยวถั่วเหลืองมากขึ้น  ถือเป็น Sentiment เชิงบวกต่อผู้ประกอบการอาหารสัตว์และฟาร์มเลี้ยงสัตว์ของไทย ซึ่งมีต้นทุนกากถั่วเหลืองคิดเป็นสัดส่วน 30% ของค่าใช้จ่ายทางด้านวัตถุดิบอาหารสัตว์ทั้งหมด

ทั้งนี้ราคากากถั่วเหลืองยังถือว่าอยู่ระดับค่อนข้างต่ำ และยังสอดคล้องกับสมมติฐานราคากากถั่วเหลืองเฉลี่ยปี 2561 ที่ฝ่ายวิจัยกำหนดไว้ จึงยังแนะนำซื้อ CPF (FV@B30) TFG (FV@B5) และ GFPT (FV’62@B16) ขณะที่ธุรกิจเป็ดของ BR (FV@B6) ยังฟื้นตัวช้าจึงแนะนำ Switch ไปลงทุน CPF แทน

 

Back to top button