BH ปัจจัยพื้นฐานดีแต่ราคาหุ้นไม่ถูกประเมินราคาพื้นฐานไว้ที่ 161 บาท

BH โบรกฯมองอัตราการเติบโตบริษัทอยู่ในเกณฑ์ดีคือ ปีนี้กำไรสุทธิโต 24% และปีหน้าโต 16% เทียบ เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนแต่ราคาหุ้นก็ไม่ถูก P/E ปี 58 เป็น 38.3 เท่า ซึ่งเทียบเท่าค่าเฉลี่ย P/E ในอดีต + 2SD ทีเดียว แนะนำถือราคาพื้นฐานประเมินไว้ที่ 161 บาท


บล.ดีบีเอสฯ ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (26 มิ.ย.) ว่า บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BH คาดการณ์กำไรไตรมาส 2/58 เติบโตดี 19% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนเป็น 755 ล้านบาท แรงผลักดันมาจากปริมาณคนไข้ต่างประเทศที่เพิ่มสูงขึ้น 4% สำหรับ OPD และ 5% สำหรับ IPD เช่นเดียวกับรายได้ต่อคนไข้ก็ปรับขึ้นเช่นกัน คือ 5% สำหรับ OPD และ 9% สำหรับ IPD อย่างไรก็ตามกำไรไตรมาส 2/58 คาดว่าจะหดตัวลง 23% เทียบไตรมาสก่อนหน้าเนื่องจากปัจจัยฤดูกาล

สำหรับโรคเมอร์สในประเทศไทยถูกค้นพบครั้งแรกในวันที่ 18 มิ.ย.58 ที่ผ่านมา ทำให้ BH ได้รับผลกระทบ เนื่องจากสัดส่วนรายได้ 65% มาจากคนไข้ต่างประเทศ จากคนไข้ 1 รายและคนใกล้ชิด 58 ราย ทางโรงพยาบาลได้ดูแลและควบคุมอย่างใกล้ชิด แต่ถึงปัจจุบันยังไม่พบกรณีคนติดโรคเพิ่ม ส่วนการรณรงค์ป้องกันโรคเมอร์สจะช่วยลดการแพร่กระจาย ในอดีตกรณีโรคซาร์สที่เกิดในปี 46 ทำให้ราคาหุ้น BH ซบเซาไปประมาณ 3 เดือน ก่อนที่จะรีบาวด์ได้ ส่วนการศึกษาความอ่อนไหว (sensitivity analysis) พบว่าหากคนไข้ต่างประเทศมีปริมาณที่ลดลง 10% จะทำให้กำไรปี 58 ของ BH ลดลง 4.3%

โดยประเมินราคาพื้นฐานประเมินไว้ที่ 161 บาท ด้วยวิธีส่วนคิดลดกระแสเงินสดสุทธิ (DCF) แม้คาดว่าอัตราการเติบโตบริษัทอยู่ในเกณฑ์ดีคือ ปีนี้กำไรสุทธิโต 24% และปีหน้าโต 16% เทียบ เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนแต่ราคาหุ้นก็ไม่ถูก P/E ปี 58 เป็น 38.3 เท่า ซึ่งเทียบเท่าค่าเฉลี่ย P/E ในอดีต + 2SD ทีเดียว

Back to top button