GFPT ตีปีกรับ “อียู” ไฟเขียวเพิ่มโควต้านำเข้าไก่ไทย โบรกฯเชียร์ซื้อมองกำไรไตรมาส1 โตแจ่ม!

GFPT ตีปีกรับผลดี “อียู” ไฟเขียวเพิ่มโควตานำเข้าเนื้อไก่และสัตว์ปีกจากไทย หนุนราคาไก่ฟื้นตัว โบรกฯเชียร์ซื้อมองกำไรทั้งปีแจ่ม!


“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ทำการสำรวจข้อมูลและบทวิเคราะห์หุ้น บริษัท จีเอฟพีที จำกัด (มหาชน) หรือ GFPT หลัง GFPT เป็นหนึ่งในบริษัทที่ได้รับอานิสงส์จากประเด็นที่ อียู ได้เพิ่มโควตาการนำเข้าเนื้อไก่และสัตว์ปีกจากไทย 4 รายการ โดยอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า คณะกรรมาธิการยุโรปได้เพิ่มโควต้าการนำเข้าเนื้อไก่และสัตว์ปีกจากไทย 4 รายการ รวม 5.46 พันตัน/ปี คิดเป็น 2.2% ของโควตาการส่งออกไก่สู่สหภาพยุโรปเดิมที่ 2.52 แสนตัน (แบ่งเป็นไก่แปรรูปปรุงสุก 1.6 แสนตันและไก่สดแช่แข็ง 9.2 หมื่นตัน ยุโรปนำเข้าจากไทยราว 28.3% ของยอดส่งออกรวม)

โดย นักวิเคราะห์ บล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ประเด็นดังกล่าวเป็นไปตามที่ฝ่ายวิจัยคาดหมายไว้ก่อนหน้านี้ เนื่องจากสหภาพยุโรปต้องการนำเข้าไก่ไทยเพื่อทดแทนไก่จากบราซิลที่โดนสหภาพยุโรประงับการนำเข้าไก่ไป 20 โรงงาน ในช่วงปลายปี 2561 เนื่องจากสินค้าไม่ได้คุณภาพ ซึ่งการเพิ่มโควต้านำเข้าไก่ไทยจากสหภาพยุโรปจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 เม.ย. 62

ทั้งนี้จึงถือเป็นผลบวกต่อผู้ส่งออกไก่ไทยที่จะมีช่องทางระบายไก่สู่สหภาพยุโรปมากขึ้น และจะช่วยหนุนให้แนวโน้มราคาไก่เป็นในประเทศทยอยฟื้นตัวได้ในช่วงที่เหลือของปี 2562 จากปัจจุบันที่ทรงตัวต่ำที่ระดับ 34 บาท/กก. เพราะผลผลิตไก่ในประเทศยังออกสู่ตลาดมากถึง 34 ล้านตัว/สัปดาห์  จึงบวกต่อ GFPT ประเมินราคาเป้าหมายที่ 16.95 บาทต่อหุ้น เนื่องจากมีโครงสร้างรายได้จากธุรกิจไก่ในประเทศ 70%

ส่วน นักวิเคราะห์ บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า  บล.เคทีบี (ประเทศไทย) มีมุมมองเป็นบวกต่อข่าวดังกล่าว ถึงแม้ปริมาณการเพิ่มโควต้าจะยังไม่มากนัก โดยปัจจุบันไทยมีโควต้าส่งออกไก่ไปอียูประมาณ 160,000 ตันต่อปี การเพิ่มคิดเป็นประมาณ 1%

อย่างไรก็ตาม หากการส่งออกไก่ของไทยมีแนวโน้มดีขึ้นจะส่งผลดีต่อ GFPT ซึ่งเป็นผู้ส่งออกไก่รายใหญ่ จึงยังคงแนะนำ “ซื้อ” GFPT ราคาเป้าหมาย 16 บาทต่อหุ้น อิง PER 15 เท่า

ด้าน นักวิเคราะห์ บล.เคทีซีมิโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” หุ้น GFPT ประเมินราคาเป้าหมาย 16 บาทต่อหุ้น (PER 15 เท่า) โดยคาดกำไรไตรมาส 1/62 โต 77% เมื่อเมื่อเทียบจากปีก่อน  และราคาไก่ในประเทศฟื้นตัวและทรงตัวสูง รวมทั้ง โมเมนตัมกำไรจะเร่งขึ้นในไตรมาส 2 และไตรมาส 3 ตามฤดูกาลขายดีของตลาดส่งออก นอกจากนี้คาดกำไรปี 2562 เติบโต 17% จากส่งออกเพิ่มและราคาไก่ฟื้น

ขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” หุ้น GFPT ประเมินราคาพื้นฐาน 15.80 บาท (อิง P/E ปี 2562 ที่ 14.5 เท่า) คาดกำไรสุทธิไตรมาส 1/62 เติบโต 60% เมื่อเทียบจากปีก่อน เป็น 233 ล้านบาท (ดีกว่าที่คิดไว้ก่อนหน้า) ปัจจัยหนุน คือ ยอดส่งออกที่เพิ่มขึ้น, อัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้น และส่วนแบ่งผลประกอบการจากบริษัทร่วมพลิกจากขาดทุนเป็นกำไร

อีกทั้งประมาณการยอดส่งออกไตรมาส 1/62 เติบโต 10% เมื่อเทียบจากปีก่อน เป็น 7.8 พันตัน โดยมาจากการส่งออกไปจีน (ไตรมาส 1/61 ยังไม่มียอดส่งออกไปจีน เริ่มส่งออกไปจีนได้ตั้งแต่ไตรมาส 2/61) ส่วนยอดส่งออกไปตลาดอื่นทรงตัวเมื่อเทียบจากปีก่อน

ขณะที่ยอดขายในประเทศดีขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบปีก่อน มาจากราคาไก่ที่มีเสถียรภาพ และราคา By Products ที่ดีขึ้น ส่วนปริมาณขายทรงตัวเมื่อเทียบจากปีก่อน ทั้งนี้ราคาโครงไก่ในประเทศงวดไตรมาส 1/62 เพิ่มเป็น 11+/- บาท/กก. จาก 7-8 บาท/กก.ในไตรมาส 1/61 และจากเฉลี่ยของปี 61 ที่ 8+/- บาท/กก. (ต่ำสุดในปี 61 อยู่ที่ 5-6 บาท/กก.)

รวมทั้งประมาณการอัตรากำไรขั้นต้นไตรมาส 1/62 ไว้ที่ 14.5% อ่อนลงจาก 15.5% ในไตรมาส 4/61 เพราะต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ขยับขึ้น และ Economy of scale น้อยลงตามปัจจัยฤดูกาล (ไตรมาส 1-2 เป็น Low season, ไตรมาส 3 เป็น Peak และไตรมาส 4 ดีรองจากไตรมาส 3) แต่ถ้าเทียบเมื่อเทียบจากปีก่อน พบว่าดีขึ้นจากไตรมาส 1/61 ที่ 13.1%

โดยพลิกจากส่วนแบ่งผลขาดทุนเป็นส่วนแบ่งกำไร คาดการณ์ส่วนแบ่งกำไรในไตราส 1/62 ไว้ที่ 10 ล้านบาท พลิกจากส่วนแบ่งผลขาดทุนที่ 45 ล้านบาทในไตรมาส 1/61 เนื่องจากผลประกอบการของ McKey ดีขึ้นเมื่อใช้กำลังการผลิตโรงงานใหม่เพิ่มเป็น 70-80% ขณะที่ในไตรมาส 1/61 เพิ่งเปิดโรงงานแห่งที่ 2 จึงใช้กำลังการผลิตต่ำและมีผลขาดทุน

ทั้งนี้มองแนวโน้มไตรมาสที่เหลือปีนี้ไปได้ดี ทั้งในส่วนของ GFPT และบริษัทร่วม GFN & McKey (โดยคาดการณ์ว่ากำไรสุทธิไตรมาส 2/62 ยังเติบโตสูงเทียบจากปีก่อน) ส่วนทั้งปี 2562 ประมาณการ Core Profit เติบโต 19% เมื่อเทียบจากปีก่อน  มาจากยอดขายขยายตัว 5% เมื่อเทียบจากปีก่อน และส่วนแบ่งกำไรบริษัทร่วมเพิ่มขึ้น 162% เมื่อเทียบจากปีก่อน จากฐานที่ต่ำในปี 2561 ส่วนกำไรสุทธิบรรทัดสุดท้ายจะบวกถึง 31% เมื่อเทียบจากปีก่อน เป็น 1.36 พันล้านบาท เพราะในไตรมาส 4/61 มีรายการพิเศษคือ ตั้งสำรองผลตอบแทนพนักงานตามกฎหมายใหม่ 110 ล้านบาท แต่ไม่มีรายการค่าใช้จ่ายพิเศษในปีนี้

Back to top button