สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 6 มิ.ย. 2562

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 6 มิ.ย. 2562


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (6 มิ.ย.) หลังจากสื่อต่างประเทศรายงานว่า รัฐบาลสหรัฐอาจจะเลื่อนการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากเม็กซิโก ขณะที่การเจรจาของเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่ายยังคงดำเนินอยู่ในขณะนี้ โดยข่าวดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของข้อพิพาทการค้า และยังเป็นปัจจัยหนุนดัชนีดาวโจนส์ทำสถิติปิดในแดนบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 4

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,720.66 จุด เพิ่มขึ้น 181.09 จุด หรือ +0.71% ขณะที่ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,843.49 จุด เพิ่มขึ้น 17.34 จุด หรือ +0.61% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,615.55 จุด เพิ่มขึ้น 40.08 จุด หรือ +0.53%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (6 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ไม่ได้ส่งสัญญาณถึงการผ่อนคลายนโยบายการเงินอย่างมากตามที่พวกคาดไว้ ซึ่งส่งผลให้ยูโรแข็งค่าขึ้น และส่งผลกระทบต่อหุ้นกลุ่มส่งออก

ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.02% ปิดที่ 374.01 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,278.43 จุด ลดลง 13.56 จุด หรือ -0.26% ขณะที่ ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,953.14 จุด ลดลง 27.67 จุด หรือ -0.23% และ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,259.85 จุด เพิ่มขึ้น 39.63 จุด หรือ +0.55%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (6 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนคาดว่า ธนาคารกลางของประเทศต่างๆ จะผ่อนคลายนโยบายการเงินเพื่อรับมือกับความวิตกเกี่ยวกับการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก แต่ตลาดลดช่วงบวกลง หลังธนาคารกลางยุโรป (ECB) ไม่ได้ส่งสัญญาณผ่อนคลายนโยบายการเงินตามที่นักลงทุนคาดกันไว้

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,259.85 จุด เพิ่มขึ้น 39.63 จุด หรือ +0.55%

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (6 มิ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากรายงานข่าวที่ว่า รัฐบาลสหรัฐอาจจะเลื่อนการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากเม็กซิโก ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนคลายจากความกังวลที่ว่า ข้อพิพาทการค้าอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 91 เซนต์ หรือ 1.8% ปิดที่ 52.59 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนส.ค. พุ่งขึ้น 1.04 ดอลลาร์ หรือ 1.7% ปิดที่ 61.67 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (6 มิ.ย.) ทำสถิติปิดในแดนบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 7 เนื่องจากความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างสหรัฐและบรรดาประเทศคู่ค้า ยังคงเป็นแรงผลักดันให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย นอกจากนี้ การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังเป็นปัจจัยหนุนตลาดเช่นกัน

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 9.10 ดอลลาร์ หรือ 0.68% ปิดที่ 1,342.70 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 11.4 เซนต์ หรือ 0.77% ปิดที่ 14.905 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 90 เซนต์ หรือ 0.11% ปิดที่ 803.70  ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. พุ่งขึ้น 21.80 ดอลลาร์ หรือ 1.6% ปิดที่ 1,349.10 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สกุลเงินยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (6 มิ.ย.) หลังจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมเมื่อวานนี้ พร้อมกับปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจและตัวเลขเงินเฟ้อของยูโรโซนในปีนี้

ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1273 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1227 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.2690 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2693 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 0.6976 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6965 ดอลลาร์สหรัฐ

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 108.44 เยน จากระดับ 108.41 เยน แต่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9912 ฟรังก์ จากระดับ 0.9942 ฟรังก์ และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3370 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3423 ดอลลาร์แคนาดา

 

Back to top button