สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 30 ก.ย. 2562

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 30 ก.ย. 2562


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (30 ก.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นแอปเปิล หลังจากเจพีมอร์แกนประกาศปรับเพิ่มราคาเป้าหมายของหุ้นแอปเปิล อันเนื่องมาจากยอดขาย iPhone ที่มีแนวโน้มสูงกว่าคาด นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากการที่นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาทการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวได้ออกมาปฏิเสธรายงานข่าวที่ว่าสหรัฐกำลังพิจารณาจำกัดการลงทุนในจีน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,916.83 จุด เพิ่มขึ้น 96.58 จุด หรือ +0.36% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,976.74 จุด เพิ่มขึ้น 14.95 จุด หรือ +0.50% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,999.34 จุด เพิ่มขึ้น 59.71 จุด หรือ +0.75%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (30 ก.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการที่ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้นในช่วงเปิดตลาด ขณะที่หุ้นกลุ่มส่งออกได้แรงหนุนจากการที่เงินยูโรอ่อนค่าลงจากความวิตกเกี่ยวกับการขยายตัวของเศรษฐกิจยูโรโซน นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังได้แรงหนุนจากการที่เจพีมอร์แกนเพิ่มน้ำหนักการลงทุนหุ้นยูโรโซนด้วย

ดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 0.35% ปิดที่ 393.15 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,677.79 จุด เพิ่มขึ้น 37.21 จุด หรือ +0.66% และ ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,428.08 จุด เพิ่มขึ้น 47.14 จุด หรือ +0.38% ขณะที่ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,408.21 จุด ลดลง 18.00 จุด หรือ -0.24%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (30 ก.ย.) โดยหุ้นกลุ่มน้ำมันถ่วงตลาดลงจากความวิตกเกี่ยวกับการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก ท่ามกลางแนวโน้มเศรษฐกิจที่อ่อนแอของจีนซึ่งเป็นผู้นำเข้าน้ำมันดิบรายใหญ่ที่สุดของโลก ขณะที่จีนมีความขัดแย้งทางการค้ากับสหรัฐ

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,408.21 จุด ลดลง 18.00 จุด หรือ -0.24%

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 เดือนเมื่อคืนนี้ (30 ก.ย.) หลังจากมีรายงานว่า ซาอุดี อารามโค ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันแห่งชาติของซาอุดีอาระเบีย สามารถฟื้นฟูกำลังการผลิตน้ำมันได้ถึงระดับก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์โจมตีโรงงานน้ำมันเมื่อช่วงกลางเดือนก.ย.ที่ผ่านมา นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลที่ว่า การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนและสงครามการค้าอาจจะส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมันในตลาดโลก

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. ร่วงลง 1.84 ดอลลาร์ หรือ 3.3% ปิดที่ 54.07 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 3 ก.ย.

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ย. ดิ่งลง 1.13 ดอลลาร์ หรือ 1.8% ปิดที่ 60.78 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 13 ก.ย.

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (30 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐดีดตัวขึ้น นอกจากนี้ การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังสร้างแรงกดดันต่อตลาดทองคำ

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 33.5 ดอลลาร์ หรือ 2.22% ปิดที่ 1,472.9  ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 65.4 เซนต์ หรือ 3.7% ปิดที่ 16.998 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ดิ่งลง 46.9 ดอลลาร์ หรือ 5.01% ปิดที่ 889.2 ดอลลาร์/ออนซ์

ส่วนสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 5.40 ดอลลาร์ หรือ 0.3% ปิดที่ 1,647.50 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (30 ก.ย.) หลังจากมีรายงานว่า อัตราเงินเฟ้อของเยอรมนีขยายตัวต่ำกว่าคาดในเดือนก.ย. ขณะที่นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.ย.

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0901 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0941 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.2296 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2290 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.6750 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6761 ดอลลาร์สหรัฐ

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 108.07 เยน จากระดับ 107.82 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9982 ฟรังก์ จากระดับ 0.9902 ฟรังก์ แต่ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3236 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3245 ดอลลาร์แคนาดา

Back to top button