กลุ่มปตท. อุบัติเหตุกำไร (ชั่วคราว)

สถานการณ์สงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน ที่ไม่มีความชัดเจน และยืดเยื้อมาอย่างยาวนาน นับว่าเป็นเหตุลุกลามเป็นวงกว้างให้เกิดความกังวลต่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก


รายงานพิเศษ

พ่นพิษแรง ! กับสถานการณ์สงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน ที่ไม่มีความชัดเจน และยืดเยื้อมาอย่างยาวนานถึง 16 เดือน  นับว่าเป็นเหตุลุกลามเป็นวงกว้างให้เกิดความกังวลต่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ประกอบกับเหตุการณ์ไม่สงบในตะวันออกกลางช่วงไตรมาส 3/2562…

ผลดังกล่าวส่งผลกระทบไปยังน้ำมันดิบดูไบ อย่างในช่วงไตรมาส 3 ปี 2562 เกิดการผันผวน และปรับตัวลดลงจากไตรมาส 2 ปี 2562 ร้อยละ 9 และปรับตัวลดลงจากไตรมาส 3 ปี 2561 ร้อยละ 18

ประกอบกับราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสและเบรนต์ปรับตัวลดลง

กระทั่งตีวงกว้างมายัง บริษัทในเครือ ปตท. ต้องเจอพิษแรงเช่นกัน เพราะทางผลประกอบการช่วงไตรมาส 3/2562 เกิดอุบัติเหตุกำไรชั่วคราว !!!

ขณะที่ทั้งกลุ่มในเครือปตท. จำนวน 6 บริษัท รายงานผลดำเนินงานงวดไตรมาส 3 ปี 2562 มีกำไรสุทธิรวม 32,826.35 ล้านบาท ลดลง 46.66% เมื่อเทียบกับช่วงไตรมาส 3 ปี 2561 มีกำไรสุทธิ 61,540.64 ล้านบาท   ส่งผลให้ยอดรวมงวด 9 เดือนแรกมีกำไรสุทธิรวม 130,543.09 ล้านบาท ลดลง 31.55% เมื่อเทียบกับช่วง 9 เดือนแรกของปี 2561 มีกำไรสุทธิ 190,721.79 ล้านบาท

เมื่อแยกดูผลประกอบการเป็นรายตัวดังต่อไปนี้

นำโดยแม่ ! บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2562  มีกำไรสุทธิ 20,254.48 ล้านบาท ลดลง 33.22% จากงวดเดียวกันของปีก่อน 30,328.91 ล้านบาท ขณะที่ในงวด 9 เดือนแรกมีกำไรสุทธิ 75,504.70 ล้านบาท ลดลง 24.61% จากงวดเดียวกันของปีก่อน 100,145.70 ล้านบาท สาเหตุจากผลประกอบการบริษัทลูก (IRPC, PTTEP, PTTGC, TOP) ที่อ่อนแอลง, ธุรกิจก๊าซทำกำไรได้น้อยเพราะเป็น Low season ของธุรกิจโรงไฟฟ้า, ปริมาณขายและมาร์จิ้นธุรกิจน้ำมันค้าปลีกลดลง รวมถึงมีตั้งสำรอง Employee benefit 1,069 ล้านบาท และมีขาดทุนสต๊อก 917 ล้านบาทด้วย

ขณะที่ลูกคนโต บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2562 มีกำไรสุทธิขยับขึ้น 11,018.96 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.94% จากงวดเดียวกันของปีก่อน 37,182.18 ล้านบาท ขณะที่ในงวด 9 เดือนแรกมีกำไรสุทธิขยับขึ้น 27,372.17 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35.84% จากงวดเดียวกันของปีก่อน 27,372.17 ล้านบาท

เนื่องจากในไตรมาส 3 มีกำไรพิเศษจากอัตราแลกเปลี่ยนและอนุพันธ์ทางการเงินรวมประมาณ 1,270 ล้านบาท ถ้าไม่นับรายดังกล่าวกำไรปกติอยู่ที่ 9,805 ล้านบาท ซึ่งลดลง 18% จากงวดเดียวกันของปีก่อน, และลดลง 25% จากไตรมาสก่อน จาก 1) ปริมาณขายเพิ่มขึ้นจากการรับรู้ปริมาณขายจาก Murphy เป็นไตรมาสแรกตั้งแต่ 10 ก.ค. ที่ผ่านมา 2) ราคาขายเฉลี่ยปรับลดลงเหลือ 46 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลตามราคาน้ำมันที่ลดลง และ3) ต้นทุนขายต่อหน่วยเพิ่มขึ้นมาเป็น 32 $/USD จากค่าใช้จ่ายสำรวจและตัดจำหน่ายหลุมที่เพิ่มขึ้น

ตามมาด้วยลูกคนรอง บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2562  ขาดทุนสุทธิ 682.61 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 4,558.35 ล้านบาท ขณะที่ในงวด 9 เดือนแรกกำไรสุทธิ 4,292.61  ล้านบาท ลดลง 71.31% จากงวดเดียวกันของปีก่อน 14,960.99 ล้านบาท เหตุจากขาดทุนสต๊อก 1.73 พันล้านบาท, ค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุง 444 ล้านบาท, ค่าพรีเมียมน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น และมาร์จิ้นอะโรเมติกส์ลดลง

ตามมาด้วยลูกคนกลาง บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2562  มีกำไรสุทธิ 2,663.34 ล้านบาท ลดลง 79.18% จากงวดเดียวกันของปีก่อน 12,792.58 ล้านบาท ขณะที่ในงวด 9 เดือนแรกมีกำไรสุทธิ 11,308.26 ล้านบาท ลดลง 68.60% จากงวดเดียวกันของปีก่อน 36,008.04 ล้านบาท เนื่องจากมีผลขาดทุนจากสต๊อกน้ำมันหลังจากราคาน้ำมันดิบปรับตัวลง

ตามมาด้วยลูกก่อนคนสุดท้อง บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2562  ขาดทุนสุทธิ 1,320.73 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 2,560.21 ล้านบาท ขณะที่ในงวด 9 เดือนแรกขาดทุนสุทธิ 660.89 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 9,361.71 ล้านบาท เนื่องมาจากผลขาดทุนของสต๊อก และการดำเนินงานของโรงกลั่นที่อ่อนแอ จากราคาน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้น และการปิดปรับปรุง

ท้ายสุดลูกคนสุดท้อง บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2562  มีกำไรสุทธิ 892.91 ล้านบาท ลดลง 0.72% จากงวดเดียวกันของปีก่อน 899.41 ล้านบาท ขณะที่ในงวด 9 เดือนแรกมีกำไรสุทธิขยับขึ้น  2,916.23 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.50% จากงวดเดียวกันของปีก่อน 2,873.18 ล้านบาท

เป็นผลมาจากผลประกอบการของโรงไฟฟ้า IPP อ่อนลงโดยเฉพาะส่วนที่ขายให้ EGAT, ค่าตัดจำหน่ายตามมูลค่ายุติธรรมเพิ่มขึ้นหลังการเข้าซื้อกิจการ GLOW เป็นจำนวน 372 ล้านบาท และมีค่าใช้จ่ายในการกู้ยืมเงินระยะสั้น 240 ล้านบาท  แต่ในส่วนของโรงไฟฟ้า SPP ผลดำเนินงานดีขึ้นจากปริมาณขายไอน้ำเพิ่มขึ้น ต้นทุนก๊าซลดลง และเริ่มเปิดดำเนินงานเชิงพาณิชย์โครงการ CUP4

ด้วยภาพรวมผลการดำเนินงานของบริษัทในเครือ ปตท. ในช่วงไตรมาส 3/2562 อาจออกมาไม่สดใส ! ซึ่งเป็นไปตามนักวิเคราะห์และตลาดคาดการณ์ไว้

แต่อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าผลกระทบดังกล่าวมีการรับรู้ไปหมดแล้วก่อนหน้า !!!

หลังจากนี้มีปัจจัยบวกมากขึ้นสำหรับบริษัทในเครือ ปตท. เพราะหลายฝ่ายคาดการณ์ว่าแนวโน้มตั้งแต่ไตรมาส 4 เป็นต้นไป ทางบรรดาลูก ๆ ของปตท. จะดีขึ้น !!!

Back to top button