โบรกฯเชียร์ “ซื้อ” COM7 ลุ้นไตรมาส 4/62 โตนิวไฮ-รับผลดี 5G ดันยอดขายเพิ่ม

โบรกฯเชียร์ “ซื้อ” COM7 ลุ้นไตรมาส 4/62 โตนิวไฮ-รับผลดี 5G ดันยอดขายเพิ่ม


“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ทำการสำรวจข้อมูลและบทวิเคราะห์หุ้น บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COM7 หลังนักวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” โดยคาดว่า COM7 จะได้รับอานิสงส์จากเทคโนโลยี 5G ซึ่งคาดการณ์ว่าจะช่วยสนับสนุนยอดขายอุปกรณ์ที่รองรับ 5G เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งแนวโน้มผลการดำเนินงานยังเติบโตสดใส โดยคาดกำไรไตรมาส 4/62 จะเติบโตทำจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากยอดขาย iPhone 11 ที่เปิดตัวเมื่อช่วงเดือน ต.ค.2562 ได้รับกระแสตอบรับอย่างล้นหลาม

โดย นักวิเคราะห์ บล.บัวหลวง ระบุในบทวิเคราะห์ว่า สรุปผลกระทบผลการประมูล 5G คลื่น 700MHz: กสท.ชนะ 2 ใบอนุญาตและ AWN (บ.ย่อยของ ADVANC) ชนะ 1 ใบอนุญาต ที่ราคา 17,153 ล้านบาทต่อใบ (ใบละ 5 MHz 2), คลื่น 2600MHz: AWN ชนะ 10 ใบอนุญาตและ TUC (บ.ย่อยของ TRUE) ชนะ 9 ใบอนุญาตที่ราคา 1,956 ล้านบาทต่อใบ (ใบละ 10MHz), คลื่น 26GHz: AWN ชนะ 12 ใบอนุญาต TUC ชนะ 8 ใบอนุญาต ทีโอทีชนะ 4 ใบอนุญาต และ DTN (บ.ย่อยของ DTAC) ชนะ 2 ใบอนุญาต สรุป ADVANC จ่าย 42,053 ล้านบาท TRUE จ่าย 21,164 ล้านบาท DTAC จ่าย 890 ล้านบาท กสท.จ่าย 34,306 ล้านบาท และทีโอทีจ่าย 1,780 ล้านบาท

ทั้งนี้ในมุมมองกลยุทธ์ Action (ระยะสั้น 5-10 วันทำการ) คงคำแนะนำเลี่ยงกลุ่มผู้ให้บริการมือถือ คาดจะเห็นการ Sell-on-fact หลังการประมูลจบ เพราะไม่ว่าราคาประมูลที่ออกมาจะคำนวณ NPV ได้เป็นบวกหรือลบ แต่ก็เป็นเพียงการคาดการณ์บนสมมุติฐานเท่านั้น ยังคงมีความไม่แน่นอนในด้านการทำตลาดเพื่อขยายฐานลูกค้า

ดังนั้นมองว่าหันมาเล่นผู้ขาย Device ที่จะมีส่วนช่วยผู้ให้บริการในการขายซิม ซึ่งโปรโมชั่นจากผู้ให้บริการมือถือ จะช่วยหนุนทั้งการขายเครื่องค่าคอมมิชชั่นในการเปิดซิม แนะนำ ซื้อ COM7 (พันธมิตร true) JMART (พันธมิตร ais)

ส่วน นักวิเคราะห์ บล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ฝ่ายวิจัยมีมุมมองเป็นกลางต่อผลประมูล 5G วานนี้ ทั้งสิ้น 4 คลื่นความถี่ (700 MHz, 2600 MHz และ 26 GHz) รวมมูลค่า 1 แสนล้านบาท โดยภาพรวมต่ออุตสาหกรรมยังดูสมดุล กล่าวคือ CAT และ TOT  ได้คลื่นช่วงกลาง (700 MHz) และสูง (26 GHz) ในส่วนที่เหมาะกับให้บริการสาธารณะประโยชน์ตามวัตถุประสงค์ของรัฐฯ จึงไม่น่ามาประกอบธุรกิจแข่งขันกับเอกชน

ส่วนศักยภาพคลื่นหลังประมูลของเอกชนไล่เรียงตามฐานธุรกิจและลูกค้าที่มี โดยเฉพาะ ADVANC กับ TRUE แต่มีจุดน่าสนใจที่ DTAC น่าจะต้องเหนื่อยกับการประกอบธุรกิจมากขึ้น เนื่องจากช่วงห่างศักยภาพคลื่นที่ ADVANC และ TRUE ทิ้งออกไปค่อนข้างเยอะทั้งในเรื่องปริมาณคลื่นในมือจากเดิมแต่ละรายมีคลื่นใกล้เคียงกันที่ 130-140 MHz แต่หลังประมูลล่าสุด ADVANC TRUE ได้คลื่นมาเพิ่ม 1310 MHz และ 890 MHz ส่วน DTAC ได้เพียง 200 MHz โครงสร้างคลื่น 5G ที่ DTAC ขาดคลื่นความถี่ช่วงกลาง (2600 MHz) ที่เหมาะกับการให้บริการลูกค้าผู้บริโภคทั่วไป ขณะที่ DTAC ยังต้องรอคลื่น 3500 MHz ซึ่งยังไม่มีกำหนดการประมูลที่แน่นอน

อย่างไรก็ตาม โครงสร้างคลื่นที่ผู้ให้บริการอันดับ 1 และ 2 ดีกว่าอันดับ 3 มาก ฝ่ายวิจัยเชื่อว่าจะช่วยมีโอกาสลดความเสี่ยงการแข่งขันภายในอุตสาหกรรม เนื่องจากผู้ประกอบการรายที่เหนือกว่าคาดว่าจะเลือกใช้จุดเด่นคุณภาพบริการดีกว่าในการแข่งขันได้ง่ายขึ้นกว่าเดิมที่มีคลื่นใกล้เคียงกัน ซึ่งน่าจะดีกับ ADVANC ที่ชนะประมูลคลื่นไปมากที่สุด

สำหรับผู้บริโภคทั่วไปต่อจากนี้ ยังต้องติดตามพัฒนาการอุตสาหกรรมในเรื่องดังกล่าว รวมถึงปริมาณธุรกิจใหม่ๆ จากการนำ 5G ไปรุกสร้างรายได้ลูกค้าองค์กรระยะกลาง-ยาว ในการปรับปรุงประมาณการ เพื่อสะท้อนข้อมูลประมูลคลื่น 5G ที่แตกต่างจากสมมติฐาน จึงยังคงรายได้ไว้ใกล้เคียงเดิม ยกเว้น DTAC ที่ฝ่ายวิจัยปรับลดลงมีนัยฯ ภายใต้สมมติฐานเสียลูกค้าชั้นดีออกไป ภายใต้สมมติฐานอนุรักษ์นิยมดังกล่าว ประเมินกำไรกลุ่มปี 2563-64 ลดลง 7% และ 12% ก่อนจะกลับมาเติบโตหลังจากนั้น แม้จะแย่กว่ากำไรตลาด แต่สะท้อนในดัชนีกลุ่ม YTD ที่ลดลง 6% แล้ว

ดังนั้นจึงยังให้ลงทุน เท่าตลาด มี ADVANCเป็น Top Pick ส่วน DTAC และ TRUE ยังให้ Switch นอกจากนี้ ยังอาจพิจารณาลงทุนหุ้นที่ได้ประโยชน์จากธุรกิจ 5G อาทิ ผู้รับเหมางานโครงข่ายโทรคมนาคมที่มีฐานลูกค้าเอกชน เช่น INSET หรือ ผู้จำหน่ายอุปกรณ์มือถือ JMARTและ COM7 ราคาเป้าหมาย 28 บาท ซึ่งน่าจะได้ประโยชน์ชัดเจน เฉพาะอย่างยิ่ง หาก Apple เปิดตัว iPhone รุ่นใหม่ที่รองรับบริการ 5G ได้ตามกระแสข่าวในช่วงปลายปีนี้ ทั้งนี้ ในส่วน COM7 ปัจจุบันฝ่ายวิจัยอยู่ระหว่างทบทวนประมาณการและคำแนะนำ

ด้าน นักวิเคราะห์ บล.คันทรี่ กรุ๊ป ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” หุ้น COM7 ประเมินราคาเป้าหมาย 27.8 บาทต่อหุ้น คาดกำไรสุทธิไตรมาส 4/62 ที่ 319 ล้านบาท เติบโต 11% เมื่อเทียบจากไตรมาส และเติบโต 20% เมื่อเทียบจากปีก่อน และเป็นจุดสูงสุดใหม่หนุนจากการเปิดตัว iPhone รุ่นใหม่ในเดือน ต.ค. ที่ผ่านมา รวมถึงยอดขาย iPad และ มือถือ Andriod  ที่ยังโตดีอยู่ (20% และ 25% ของรายได้รวม) ตามปัจจัยฤดูกาลใช้จ่ายสินค้าฟุ่มเฟือยในประเทศ ทั้งนี้ประมาณกำไรสุทธิในปี 2562 คาดว่าจะมี upside risk 9% จากเดิมที่คาดไว้ที่ 1055 ล้านบาท เติบโต 18% เมื่อเทียบจากปีก่อน

เช่นเดียวกับ นักวิเคราะห์ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” หุ้น COM7 ราคาเป้าหมาย 31.50 บาทต่อหุ้น โดยคาดว่ากำไรสุทธิของ COM7 จะทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 320 ล้านบาทในไตรมาส 4/62 เติบโต 21% เมื่อเทียบจากปีก่อน และเติบโต 11.5% เมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน จากการที่ Apple ออกสินค้าใหม่ สำหรับในปี 2563 คาดว่า COM7 จะได้อานิสงส์จากอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นของสินค้า wearable และเครื่องมือถือที่รองรับระบบ 5G

Back to top button