ลุ้น SET รีบาวด์ หลังหุ้นเอเชียเปิดบวกยกแผง-ข่าววัคซีนโควิดคืบหน้า

ลุ้น SET รีบาวด์ หลังหุ้นเอเชียเปิดบวกยกแผง-ข่าววัคซีนโควิดคืบหน้า


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในเช้าวันนี้ ขานรับรายงานข่าวที่ระบุว่า วัคซีนที่บริษัทแอสตร้าเซนเนก้า (AstraZeneca) พัฒนาร่วมกับมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด สามารถสร้างภูมิต้านทานเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้

โดย ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 22,789.38 จุด เพิ่มขึ้น 71.90 จุด, +0.32% ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,330.55 จุด เพิ่มขึ้น 16.40 จุด, +0.49% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 25,427.06 จุด เพิ่มขึ้น 369.07 จุด, +1.47% ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 12,242.32 จุด เพิ่มขึ้น 67.78 จุด, +0.56% ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,219.19 จุด เพิ่มขึ้น 20.99 จุด, +0.95% ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,629.33 จุด เพิ่มขึ้น 13.03 จุด, +0.50% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,588.42 จุด ลดลง 1.03 จุด, -0.06%

ทั้งนี้ The Lancet ซึ่งเป็นวารสารทางการแพทย์ เปิดเผยว่า วัคซีน ChAdOx1 nCoV-19 ที่ได้รับการพัฒนาโดยแอสตร้าเซนเนก้า ซึ่งเป็นบริษัทผลิตยารายใหญ่ของอังกฤษ และมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด สามารถสร้างภูมิต้านทานเชื้อไวรัสโควิด-19 ในการทดลองเฟสแรกกับอาสาสมัครจำนวนมากกว่า 1,000 คน

โดย ผลการทดลองวัคซีนดังกล่าวพบว่า ร่างกายของอาสาสมัครเหล่านี้สามารถผลิตแอนติบอดีและเม็ดเลือดขาวในการกำจัดเชื้อไวรัสโควิด-19 นอกจากนี้ ยังมีการพบแอนติบอดีชนิดลบล้างฤทธิ์ (Neutralizing antibody) ในอาสาสมัครหลังจากได้รับวัคซีนเป็นเวลา 28 วัน โดยนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าแอนติบอดีดังกล่าวมีความสำคัญในการป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด-19

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการประชุมของผู้นำ 27 ชาติสหภาพยุโรป (EU) เกี่ยวกับจัดตั้งกองทุนฟื้นฟูเศรษฐกิจวงเงิน 7.5 แสนล้านยูโร (8.55 แสนล้านดอลลาร์) เพื่อช่วยเยียวยาเศรษฐกิจ EU จากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโควิด-19

 

ด้าน นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.กรุงไทย ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนบวก ขานรับพัฒนาการวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 และยังมีแรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ รวมถึงเชื่อว่าในที่สุดแล้วฝั่งยุโรปน่าจะตกลงกันได้ในเรื่องกองทุนฟื้นฟูเศรษฐกิจวงเงิน 7.5 แสนล้านยูโร อีกทั้งผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐฯ ส่วนใหญ่ก็ออกมาดีกว่าคาด

อย่างไรก็ตาม ตลาดบ้านเราคงจะรีบาวด์ได้ในกรอบจำกัด เนื่องจากผลประกอบการไตรมาส 2/63 ของกลุ่มแบงก์ที่ทยอยประกาศออกมานั้นมีภาพเป็นลบ และการเมืองในประเทศก็ยังมีความไม่แน่นอนในการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทำให้การรีบาวด์น่าจะทำได้น้อยกว่าตลาดอื่น

พร้อมให้แนวรับ 1,350-1,340 จุด ส่วนแนวต้าน 1,366-1,370 จุด

 

Back to top button