DTC ลุยขยายแบรนด์ “อาศัย” มั่นใจตอบโจทย์ธุรกิจโรงแรมยุค “นิวนอร์มอล”

DTC ลุยขยายแบรนด์ “อาศัย” มั่นใจตอบโจทย์ธุรกิจโรงแรมยุค “นิวนอร์มอล”


นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัทดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) หรือ DTC เปิดเผยว่า โรงแรมอาศัย กรุงเทพฯ ไชน่าทาวน์ ซึ่งเป็นโรงแรมแบรนด์ใหม่ในเครือ “ดุสิตธานี” พร้อมเปิดให้บริการแล้วในช่วงกลางเดือนกันยายนนี้ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่แบรนด์ “ดุสิตธานี” ได้ขยายฐานลูกค้าไปในกลุ่มที่มีสไตล์แตกต่างจากฐานลูกค้าเดิมของดุสิตธานี ทำให้สามารถครอบคลุมลูกค้าที่หลากหลายมากขึ้น และยังเป็นกระจายเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่เป็นคนรุ่นใหม่อย่างแท้จริง เพราะรูปแบบของโรงแรมอาศัย กรุงเทพฯ ไชน่าทาวน์ นั้น ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับกับนักเดินทางกลุ่มมิลเลนเนียม ที่มีไลฟ์สไตล์รักความเป็นส่วนตัว ชื่นชอบการใช้ชีวิตในท้องถิ่นหรือในชุมชน เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับการเดินทาง

หลังจากโรงแรมอาศัยแห่งแรกเปิดให้บริการแล้ว ในอีก 12 เดือนข้างหน้า เราน่าจะได้เห็นแบรนด์ “อาศัย” ในตลาดมากขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นโอกาสดีที่เราได้เปิดตัวแบรนด์อาศัยครั้งแรกในเมืองไทย โดยเริ่มจากเยาวราชในปีนี้ และต่อด้วยโรงแรมอาศัย ในเขตสาธร ในปีหน้า ซึ่งที่สาธรจะมีคาแรคเตอร์ที่สะท้อนสีสัน ความทันสมัย และไลฟ์สไตล์ของคนเมืองอย่างเต็มที่ แตกต่างจาก อาศัย กรุงเทพฯ ไชน่าทาวน์ ที่สะท้อนวิถีชีวิตของคนจีนในย่านเยาวราช  ซึ่งรูปแบบของการบริหารแบรนด์ “อาศัย” จะมีทั้งที่เราลงทุนเองและรับจ้างบริหาร ด้วยรูปแบบของโรงแรมที่เน้นความกระชับ การจัดการองค์กรมีความคล่องตัวสูง ใช้คนน้อย ก็น่าจะตอบโจทย์และเป็นทางออกสำหรับธุรกิจโรงแรมในยุคนิว นอร์มอล และน่าจะเป็นโอกาสที่ดีของดุสิตธานีในการทำตลาดแบรนด์ “อาศัย” อย่างจริงจังโดยเฉพาะในกลุ่มของนักลงทุนหรือเจ้าของที่สนใจและมองเห็นศักยภาพในการเติบโตของแบรนด์ “อาศัย” ในอนาคต” นางศุภจี กล่าว

ทั้งนี้ นอกเหนือจากโรงแรมอาศัย ไชน่าทาวน์ กรุงเทพฯ ซึ่งจะเป็นแห่งแรกที่จะเปิดแล้ว แบรนด์ “อาศัย” ยังมีโรงแรมอีก 6 แห่งที่อยู่ในแผนดำเนินงานในระยะต่อไป ได้แก่ โรงแรมอาศัย แห่งที่สองในกรุงเทพฯ ซึ่งอยู่ในเขตสาทร โรงแรมอาศัย จำนวน 3 แห่งในเซบู ฟิลิปปินส์ โรงแรมอาศัย 1 แห่งในย่างกุ้ง เมียนมา ซึ่งอยู่ในเขตเมืองยานคินอันเก่าแก่  และอีก 1 แห่งในเมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น โดยคาดว่า จะทยอยเปิดให้บริการได้ตั้งแต่ต้นปี 2564 เป็นต้นไป

ด้านนายศิรเดช โทณวณิก กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาศัย โฮลดิ้งส์ จำกัด ผู้บริหารโรงแรมแบรนด์ “อาศัย” กล่าวว่า โรงแรมอาศัยเป็นโรงแรมไลฟ์สไตล์ที่จะเชื่อมโยงนักเดินทางกลุ่มหัวใจมิลเลนเนียลที่อยากลองสิ่งใหม่ ชอบความแตกต่าง มีความสนใจวิถีความเป็นอยู่ของชุมชนในแต่ละท้องถิ่นนั้นๆ ในขณะเดียวกัน ก็ต้องการความเป็นอยู่ที่สะดวกสบายในสไตล์มินิมอล และสนใจเทคโนโลยีใหม่ๆ ซึ่งนักเดินทางกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว

โดยโรงแรมอาศัย กรุงเทพฯ ไชน่าทาวน์ ตั้งอยู่ในทำเลที่ดีที่สุดใจกลางเยาวราช ซึ่งนอกจากจะทำให้ผู้เข้าพักได้สัมผัสกับบรรยากาศที่คึกคักตามวิถีชีวิตที่แท้จริงของชุมชน ตั้งแต่ร้านอาหารแนวสตรีทฟู้ดส์ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ศาลเจ้า วัดไทย วัดจีน วัดญวณ หอศิลป์และพิพิธภัณฑ์

รวมถึงคาเฟ่ร่วมสมัยที่แทรกตัวอยู่ในตึกเก่าของเยาวราชแล้ว ลูกค้าของโรงแรมยังสามารถเดินทางได้อย่างสะดวกสบายไปยังสถานที่ท่องเที่ยวใกล้ๆ ไม่ว่าจะเป็นย่านเมืองเก่า รวมถึงชุมชนรอบเกาะรัตนโกสินทร์ หรือจะเดินทางเข้าสู่ย่านธุรกิจสำคัญของกรุงเทพฯ อย่างง่ายดาย ด้วยระบบขนส่งสาธารณะรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีวัดมังกร ซึ่งห่างจากที่ตั้งโรงแรมเพียง 100 เมตรเท่านั้น

ทั้งนี้ โรงแรมอาศัย กรุงเทพฯ ไชน่าทาวน์ มีจำนวนทั้งหมด 224 ห้อง ได้รับการตกแต่งในรูปแบบร่วมสมัยผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมไทย-จีน เพื่อสะท้อนคาแรคเตอร์ของย่านที่โรงแรมตั้งอยู่ โดยห้องพักจะมีขนาดกะทัดรัดระหว่าง 17 – 26 ตารางเมตร เน้นองค์ประกอบที่จำเป็นสำหรับนักเดินทาง เช่น พื้นที่วางกระเป๋า เตียงคุณภาพดีเยี่ยม ฝักบัวอาบน้ำแรงดันสูง และมุมทำงาน

ขณะเดียวกัน พื้นที่ส่วนกลางจะมีความกว้างขวางตามคอนเซปต์ Eat, Work, Play  ที่สามารถปรับเปลี่ยนเพื่อตอบสนองการใช้งานรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น กิน ดื่ม ทำงาน หรือ พักผ่อนร่วมกันอย่างสะดวกสบาย ดังนั้น ลูกค้าจะได้รับประสบการณ์การเข้าพักแบบลักซูรี่ ในราคาที่สัมผัสได้ เพื่อตอบโจทย์ Affordable Lifestyle ของลูกค้าอย่างแท้จริง

อาศัย นับเป็นโรงแรมในเชนระดับสากลแห่งเดียวในย่าน “เมืองเก่า” ดังนั้น เราจึงตั้งใจให้โรงแรมอาศัย กรุงเทพฯ ไชน่าทาวน์ เป็นศูนย์กลางของที่พักในย่าน “เมืองเก่า” ที่สามารถรองรับได้นักเดินทางได้ทุกกลุ่ม ทุกวัย ทั้งที่เป็นนักท่องเที่ยวที่ชอบเดินทางคนเดียว หรือเดินทางเป็นกลุ่ม หรือแม้กระทั่งการเดินทางเป็นครอบครัว เพื่อการพักผ่อน รวมถึงนักธุรกิจที่ต้องการที่พักที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน สามารถเดินทางเข้าเมืองได้อย่างสะดวก พร้อมกับสัมผัสกับบรรยากาศของเมืองเก่า และ Night Life ในย่านเยาวราชได้อย่างใกล้ชิด

โดยในช่วงแรกเรายังคงเน้นให้บริการนักท่องเที่ยวคนไทยก่อน จนกว่าสถานการณ์ของโควิด-19 จะคลี่คลาย และประเทศไทยสามารถเปิดรับนักท่องเที่ยวได้อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม เรามั่นใจว่า ยังมีคนไทยจำนวนไม่น้อยจากหลายภูมิภาคทั่วประเทศที่อยากลองใช้ชีวิตในย่านเยาวราช ซึ่งนี่คือโอกาสที่ดีของนักท่องเที่ยวคนไทยที่จะได้สัมผัสกับประสบการณ์ที่แปลกใหม่และน่าประทับใจในบ้านของเราเอง” นายศิรเดชกล่าว

Back to top button