WICE เปิดกลยุทธ์ปี 64 เน้นรับงานมาร์จิ้นสูง ปั้นรายได้ 3.8 พันล.

WICE เปิดกลยุทธ์ปี 64 เน้นรับงานมาร์จิ้นสูง ปั้นรายได้ 3.8 พันล.


นายชูเดช คงสุนทร กรรมการผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท ไวส์ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ WICE ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ระหว่างประเทศแบบครบวงจร เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 64 ตั้งเป้ารายได้เติบโต 3,800 ล้านบาท และรักษาอัตรากำไรสุทธิประมาณ 6% ถือเป็นปีแห่งการเติบโตทำนิวไฮต่อเนื่อง

เนื่องจากลงทุนขยายการให้บริการและบริหารจัดการที่ดีของ WICE และเครือข่ายโลจิสติกส์ก่อนหน้านี้ ทั้ง WICE Logistics (Singapore) Pte.Ltd. , WICE Logistics (Hong Kong) Ltd., Euroasia Total Logistics Co., Ltd., WICE Logistics (Shenzhen) Co.,Ltd. และ WICE Supply Chain Solutions Co.,Ltd มีรายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้การดำเนินงานของบริษัทเติบโตอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

สำหรับกลยุทธ์การดำเนินงานในปีนี้ ประกอบด้วย 1. มุ่งเน้นเพิ่มความสามารถการทำกำไรให้สูงขึ้นจากธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ขนส่งข้ามชายแดน (Cross Border Services) ภายใต้การบริหารงานของบริษัทร่วมทุน ETL โดยเตรียมปรับแนวทางการบริหารจัดการวางแผนลดต้นทุนให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น พร้อมทั้งขยายการให้บริการขนส่งสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูง และเพิ่มปริมาณสินค้าเที่ยวขากลับให้สูงขึ้น

โดยการเพิ่มปริมาณงานขนส่งสินค้าระหว่างประเทศแบบ Door-to-Door งานบริการขนส่งสินค้าในประเทศ-ระหว่างประเทศ งานบริหารจัดการคลังสินค้า งาน Cross Border และขยายการให้บริการขนส่งสินค้าแบบไม่เต็มตู้ (LTL) เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ลูกค้าที่มีปริมาณของไม่มาก เพิ่มช่องทางสร้างรายได้และอัตรากำไรสุทธิอีกหนึ่งช่องทาง สำหรับรองรับงานขนส่งข้ามชายแดนที่มีดีมานด์เพิ่มสูงขึ้น

บริษัทมีการทยอยลงทุนสั่งซื้อตู้คอนเทนเนอร์เพิ่มประมาณ 200 ตู้ คาดว่าจะสามารถรับตู้ได้ครบจำนวนภายในไตรมาส 2/64 หลังจากที่ผ่านมาภาวะตู้คอนเทนเนอร์ขาดตลาด ทำให้ลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศหันมาใช้บริการ Cross Border เพิ่มขึ้น

2.วางแผนขยายฐานลูกค้าไปยังอุตสาหกรรมที่หลากหลาย และอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มเติบโตได้ดีของประเทศ อาทิ กลุ่มอุตสาหกรรมสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และกลุ่มยานยนต์ เนื่องจากบริษัทเห็นความต้องการใช้บริการโลจิสติกส์ของอุตสาหกรรมดังกล่าวมีปริมาณสูง จากการรองรับ 5G ที่ขยายตัวมากในเอเชีย และอุตสาหกรรมยานยนต์มีแนวโน้มฟื้นตัวจากความต้องการที่เพิ่มขึ้น และค่ายรถยนต์ปรับโมเดลใหม่ รองรับระบบไฟฟ้า จึงวางแนวทางเพิ่มการรับงานขนส่ง เพื่อสร้างโอกาสใหม่และรายได้ให้กับธุรกิจ

3.ขยายฐานลูกค้าที่ต้องการย้ายฐานการผลิตจากจีนมาสู่แถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะประเทศไทย เวียดนาม และกัมพูชา โดยการนำเสนอโซลูชั่นแพ็คเกจการให้บริการขนส่งวัตถุดิบและอุปกรณ์เครื่องจักรให้กับโรงงานตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง

4.เน้นกลยุทธ์ให้คำแนะนำลูกค้า ผ่าน WICE Supply Chain Solutions Co.,Ltd. (บริษัทย่อย) ให้บริการด้าน Supply Chain ครบวงจร ทั้งงานคลังสินค้า การกระจายสินค้า การขนส่งสินค้า (Equipment) ขนาดใหญ่ ซึ่งมีแนวโน้มที่ดี จากการขยายตัวของปริมาณงานบริหารจัดการคลังสินค้า และการขนส่งสินค้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้บริษัทวางแผนเชื่อมโยงเส้นทางการขนส่งระหว่างประเทศจีนและประเทศไทยเข้าด้วยกัน โดยการวางแผนบริหารจัดการขนส่งเพื่อช่วยลดต้นทุนให้กับลูกค้า

“ภาพรวมธุรกิจโลจิสติกส์ในปีนี้ มองว่ามีแนวโน้มดีขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป แม้สถานการณ์เศรษฐกิจโลกยังคงมีความไม่ชัดเจน แต่ก็เริ่มเห็นความคลี่คลายในบางเรื่องบ้างแล้ว เห็นจากสัญญาณตัวเลขการส่งออกเดือน ธ.ค. 63 พลิกกลับมาเป็นบวกครั้งแรกในรอบ 8 เดือน โดยขยายตัวอยู่ที่ 4.71% ขณะที่ภาวะการแข่งขันของธุรกิจโลจิสติกส์ที่สูงในปัจจุบัน

ทำให้ WICE มีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การให้บริการอยู่ตลอดเวลา และสิ่งสำคัญที่ทำให้เกิดความได้เปรียบทางการแข่งขัน คือ WICE มีความหลากหลายของการให้บริการที่ครบวงจร เข้าใจความต้องการของลูกค้าเสมอ และยังมีข้อได้เปรียบจากการมีเครือข่ายโลจิสติกส์ที่ครอบคลุมเชื่อมโยงสู่ประเทศต่าง ๆ  เพื่อการกระจายความเสี่ยง ถือเป็นการยกระดับสู่เป้าหมายการเป็นผู้นำโลจิสติกส์ในภูมิภาคเอเชีย” นายชูเดช กล่าว

ขณะที่ปัจจุบันสัดส่วนรายได้แบ่งตามประเทศ ได้แก่  WICE HK-CN 35%, WICE TH 25%, WICE SG 16%, ETL 24% ซึ่งประกอบด้วยสัดส่วนรายได้จากงานบริการทางอากาศ (Air Freight) 45%, การขนส่งทางทะเล (Sea Freight) 20%, ขนส่งสินค้าข้ามพรมแดน (Cross Border Service ) 25%, และงาน Logistics 10%

อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงเดินหน้าสร้างโครงข่ายพันธมิตรโลจิสติกส์ทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ครอบคลุมการบริการขนส่งทุกรูปแบบ ทั้งการขนส่งทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ ตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้า ผ่านการทำงานร่วมกันกับเครือข่ายสาขาของ WICE ทั้งหมด โดยมุ่งเน้นตลาดจีนเป็นหลัก ทั้งในฮ่องกง เซียงไฮ้ กวางโจว เซินเจิ้น เพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางธุรกิจ ขยายฐานลูกค้าขนาดกลาง-เล็กเพิ่มขึ้น และสร้างการเติบโตร่วมกันในอนาคต

Back to top button