“เอเซีย พลัส” ชูผลงาน JMART – JMT โตเด่น ลุยอัพประมาณกำไร – ราคาเป้าใหม่

“เอเซีย พลัส” ชูผลงาน JMART – JMT โตเด่น ลุยอัพประมาณกำไร - ราคาเป้าใหม่


บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์เกี่ยวกับบริษัท บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ JMART และ บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT

โดยประเมิน JMART ว่าแนวโน้มกำไรไตรมาส 2/64 จะอ่อนตัวเล็กน้อยจากไตรมาสก่อน เนื่องจากผลกระทบโควิดรอบใหม่ แต่คาดกำไรไตรมาส 1/64 คิดเป็น 29.7% ของกำไรทั้งปี บวกกับงวดครึ่งปีหลังที่คาดกำไรจะเพิ่มเป็นขั้นบันไดตาม JMT ที่รับรู้กำไรจากการตามหนี้สูง SINGER หนุนจากธุรกิจจำนำทะเบียนรถ และ J Mobile ที่ปลายปีเป็นฤดูกาล คงคาดกำไรทั้งปีที่ 1.27 พันล้านบาท เติบโต 60.2% และคาดขยายตัวต่อเนื่องจากกลุ่มธุรกิจการเงิน

ส่วนค้าปลีกจะต่อยอดพื้นที่เช่ากลุ่มให้มากขึ้นผ่านธุรกิจใหม่ เช่น โลจิสติกส์ และนายหน้าประกัน ซึ่งยังไม่รวมในคาดการณ์

พร้อมกันนี้ ได้ปรับมูลค่าพื้นฐานใหม่ อิง SOTP เพิ่มมาอยู่ที่ 42 บาท โดยอิงมูลค่า SINGER ตามคอนเซ็นซัสที่เพิ่มเป็น 48.7 บาท แม้มีอัพไซด์ 7% แต่ไม่รวมถึงมูลค่าธุรกิจใหม่ และมูลค่าเพิ่มการนำธุรกิจ non-listed เข้าตลาด เช่น KBJ, J Venture, SG Capital

ขณะที่ JMT เอเซีย พลัส มองว่า กำไรงวดไตรมาส 1/64 อยู่ที่ระดับ 290 บาท เพิ่มขึ้น 40% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็น 20% ของประมาณกำไรสุทธิปี 2564 ที่ประเมินไว้

พร้อมกันนี้ คงประมาณการกำไรสุทธิปี 2564 จะเพิ่มขึ้น 35.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากรายได้ธุรกิจบริหารหนี้ที่เติบโตสอดคล้องกับพอร์ตลูกหนี้ และการตัดมูลค่าเงินลงทุนในลูกหนี้ด้อยคุณภาพจากที่หมดลงต่อเนื่อง

โดยคาดแนวโน้มกำไรสุทธิงวดไตรมาส 2/64 ฟื้นจากงวดไตรมาส 1 จากแนวโน้มการจัดเก็บหนี้ได้เพิ่มขึ้นตามฤดูกาล และคาดทิศทางกำไรสุทธิงวดครึ่งปีหลังจะเติบโตชัดเจน จากแนวโน้มการตัดมูลค่าเงินลงทุนในลูกหนี้ด้อยคุณภาพที่หมดลงเพิ่มขึ้นในไตรมาส 2/64 หนุนแนวโน้มประสิทธิภาพการทำกำไรดีขึ้น

ทั้งนี้ กำหนด Fair Value ปี 2564 เท่ากับ 53 บาท อิง Adj. PBV 6.3 เท่า ตามวิธี GGM ภายใต้คาดการณ์ ROE เฉลี่ยระยะยาว 22% และยังแนะนำเป็น “ซื้อ” โดยให้น้ำหนักการเติบโตของธุรกิจในงวดครึ่งหลังของปีนี้

Back to top button