ก.ล.ต. กล่าวโทษอดีตผู้บริหาร RAM กรณีทุจริตขายหุ้น KKP ราคาต่ำกว่าตลาด

ก.ล.ต. กล่าวโทษ “นายแพทย์เอื้อชาติ กาญจนพิทักษ์” อดีตผู้บริหาร RAM กรณีทุจริตแสวงหาประโยชน์โดยไม่ชอบด้วยกฎหมายเพื่อตนเองหรือบุคคลอื่นทำให้บริษัทเสียหาย และกระทำหรือยินยอมให้มีการทำผิดเกี่ยวกับเอกสารของบริษัท โดยจัดการขายหุ้น KKP ปลายปี 55 ในราคาต่ำกว่าตลาดอย่างมีนัยสำคัญส่งผลให้บริษัทเสียหายกว่า 300 ลบ.


สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต.ระบุว่า ก.ล.ต.กล่าวโทษนายแพทย์เอื้อชาติ กาญจนพิทักษ์ อดีตกรรมการผู้จัดการบริษัทโรงพยาบาลรามคำแหง จำกัด (มหาชน) หรือ RAM ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ กรณีไม่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบ ระมัดระวัง และซื่อสัตย์สุจริต ทำการทุจริตแสวงหาประโยชน์โดยไม่ชอบด้วยกฎหมายเพื่อตนเองหรือบุคคลอื่นทำให้บริษัทเสียหาย และกระทำหรือยินยอมให้มีการทำผิดเกี่ยวกับเอกสารของบริษัท

โดยก.ล.ต. ตรวจสอบพบว่า นายแพทย์เอื้อชาติในฐานะกรรมการผู้จัดการ RAM ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบการดำเนินงานและจัดการทรัพย์สินของ RAM ได้จัดการให้บริษัทขายหุ้นธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) หรือ KKP ที่บริษัทลงทุนไว้ออกไปเมื่อปลายปี 2555 ในราคาต่ำกว่าราคาตลาดอย่างมีนัยสำคัญให้แก่บุคคลอื่นที่ตนมีส่วนเกี่ยวข้องและมีผลประโยชน์ร่วม ทำให้บริษัทได้รับความเสียหายเบื้องต้นคิดเป็นมูลค่ากว่า 300 ล้านบาท และนายแพทย์เอื้อชาติยังได้รับประโยชน์จากการกระทำอื่นที่เกี่ยวข้องด้วย

การกระทำข้างต้นเข้าข่ายเป็นการไม่ปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 89/7 ซึ่งมีระวางโทษตามมาตรา 281/2 วรรคสอง  มาตรา 307  มาตรา 311 และมาตรา 313 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535

แม้ว่าต่อมาเมื่อเดือนธันวาคม 2557 นายแพทย์เอื้อชาติได้ชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้นกับ RAM แล้ว  แต่เป็นการชดเชยความเสียหายหลังจากที่ ก.ล.ต. ตรวจพบความผิด

นอกจากนี้ นายแพทย์เอื้อชาติได้กระทำหรือยินยอมให้มีการไม่ลงข้อความสำคัญในเอกสารของ RAM เพื่อหลีกเลี่ยงไม่แสดงข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับบุคคลที่ตนมีส่วนเกี่ยวข้องที่ทำธุรกรรมซื้อขายหุ้นกับ RAM ไว้ในหมายเหตุประกอบงบการเงินของบริษัทจำนวน 4 งวด ได้แก่ งวดปี 2555 งวดไตรมาส 1/2556  งวดไตรมาส 3/2556 และงวดปี 2556  ซึ่งเข้าข่ายมีความผิดตามมาตรา 312 แห่ง พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ

ดังนั้น ก.ล.ต. จึงกล่าวโทษนายแพทย์เอื้อชาติต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษเพื่อพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ซึ่งตลอดระยะเวลาการกล่าวโทษดำเนินคดี ทำให้นายแพทย์เอื้อชาติเข้าข่ายมีลักษณะขาดความน่าไว้วางใจในการเป็นกรรมการและผู้บริหารของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียน จึงไม่สามารถเป็นกรรมการและผู้บริหารของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียนได้ตาม พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ

ทั้งนี้  การกล่าวโทษของ ก.ล.ต. เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของกระบวนการบังคับใช้กฎหมายทางอาญาเท่านั้น ภายใต้กระบวนการนี้ การพิจารณาวินิจฉัยว่าบุคคลใดเป็นผู้กระทำผิดกฎหมายเป็นขั้นตอนในอำนาจการสอบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ การสั่งฟ้องคดีของพนักงานอัยการ ตลอดจนดุลพินิจของศาลยุติธรรมตามลำดับ

Back to top button