หุ้นพลังงานมีโอกาสกลับทิศ

อาจถึงช่วงเวลาเลิกงามยามดีของหุ้นกลุ่มพลังงานบางตัวเข้ามาทันทีทันใดเป็นอย่างแน่ เมื่อมีข่าวดีว่ารัสซียและซาอุดิอาระเบีย ซึ่งเป็น 2 ผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ของโลก จัดการประชุมเป็นการภายใน ณ กรุงโดฮา ในวันที่ 16 ก.พ.59 ที่ผ่ามาร่วมกันโดยจะมีประเทศคู่ค้าอย่างเวเนซูเอล่า และกาตาร์ เข้าร่วมการประชุมด้วย เพื่อร่วมเจรจาหารือแนวทางที่จะช่วยทำให้ตลาดน้ำมันกลับสู่สภาวะสมดุล


–เส้นทางนักลงทุน–

 

อาจถึงช่วงเวลาเลิกงามยามดีของหุ้นกลุ่มพลังงานบางตัวเข้ามาทันทีทันใดเป็นอย่างแน่ เมื่อมีข่าวดีว่ารัสซียและซาอุดิอาระเบีย ซึ่งเป็น 2 ผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ของโลก จัดการประชุมเป็นการภายใน ณ กรุงโดฮา ในวันที่ 16 ก.พ.59 ที่ผ่ามาร่วมกันโดยจะมีประเทศคู่ค้าอย่างเวเนซูเอล่า และกาตาร์ เข้าร่วมการประชุมด้วย เพื่อร่วมเจรจาหารือแนวทางที่จะช่วยทำให้ตลาดน้ำมันกลับสู่สภาวะสมดุล

การประชุมครั้งนี้เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า ประเทศผู้ส่งออกน้ำมันในกลุ่มโอเปกและนอกกลุ่มโอเปกต่างเริ่มมีความพยายามที่หาแนวทางเพื่อแก้ไขสถานการณ์ราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับตกต่ำมาอย่างยาวนาน

ถือเป็นปัจจัยหลักๆ ที่กระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมทั่วโลก ซึ่งส่งผลกดดันต่อภาวะตลาดหุ้นทั้งภูมิภาคเอเชีย และยุโรปมาเป็นช่วงระยะเวลายาวนานพอสมควร

หากการเจรจาไปทิศทางบาก ปัญหาที่ยาวนานนี้ก็จะขี้คายลงเสียที

อย่างไรก็ดี สัญญาณตอบรับที่ดีหลังมีข่าวออกมาว่าทั้ง 2 ผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่มีการเจรจากัน ราคาน้ำมันดิบก็ปรับอานิสงส์อย่างรวดเร็วมีการปรับตัวขึ้น โดยราคาน้ำมัน NYMEX ปรับตัวขึ้น 30.83 ดอลลาร์/บาเรล และราคาน้ำมัน BRENT ปรับตัวขึ้น 35.26 ดอลลาร์/บาเรล

ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตเคมีในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยบางตัวมีสิทธิจะขานรับผลบวกดังกล่าวไปด้วยเช่นกัน และมีโอกาสกลับทิศพุ่งขึ้นแรงได้อีกไม่ช้า แม้ว่าผลประกอบการอาจออกมาไม่ค่อยดีจากช่วงก่อนหน้าที่มีการบันทึกขาดทุนสต๊อคน้ำมันที่ลดลงก็ตาม

สำหรับหุ้นน่าจับตา คาดรับอานิสงส์ ไม่ว่าจะเป็นทางตรง และทางอ้อม จากการเจรจาของประเทศยักษ์ใหญ่ด้านผู้ค้าน้ำมันดิบทั่วโลก ส่วนหุ้นได้อานิสงส์คงหนีไม่พ้น PTT ส่งผลให้ราคาหุ้นถีบตัวขึ้นมาปิดที่ 238 บาท บวกไป 3 บาท หรือขึ้นไป 1.28% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3,291.86 ล้านบาท ต่อมา PTTEP ราคาหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 61 บาท บวกไป 3 บาท หรือขึ้นไป 5.17% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2,139.83 ล้านบาท

ส่วนหุ้นอีกตัว PTTGC ราคาหุ้นก็สามารถปรับตัวขึ้นกับเค้าด้วยซึ่งขึ้นมาปิดที่ 53.25 บาท บวกไป 0.25 บาท หรือขึ้นไป 0.47% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1,724.73 ล้านบาท สำหรับหุ้น TOP ราคาหุ้นถีบตัวขึ้นมาปิดที่ 60.75 บาท บวกไป 1.75 บาท หรือขึ้นไป 2.97% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 899.76 ล้านบาท และหุ้น ESSO ราคาหุ้นปรับตัวขึ้น 4.68 บาท บวกไป 0.08 บาท หรือขึ้นไป 1.74% อีกทั้งหุ้น RPC ราคาหุ้นวิ่งไปปิดที่ 0.73 บาท บวกไป 0.01 บาท หรือขึ้นไป 1.39%

ขณะที่ด้านหุ้น BCP ราคาหุ้นไม่มีการเปลี่ยนแปลงปิดที่ 28.75 บาท และหุ้น SUSCO ราคาหุ้นไม่มีการเปลี่ยนแปลงปิดที่ 2.66 บาท ส่วนทางด้าน IRPC ราคาลงมานอนนิ่งปิดที่ 4.34 บาท ลบไป 0.02 บาท หรือลงไป 0.46% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 566.50 ล้านบาท รวมถึงหุ้น PTG ราคาหุ้นลงมาปิดที่ 13.50 บาท ลบไป 0.10 บาท หรือลงไป 0.74%

หากมาดูค่า P/E และค่า P/BV บางตัวยังคงต่ำ ซึ่งถือว่าราคาดังกล่าวยังไม่แพงเกินไป สำหรับที่จะเข้าไปลงทุน อีกทั้งหุ้นบางตัวยังมีอัตราส่วนเงินปันผลตอบแทนที่น่าพอใจ

อีกทั้ง ยังคงเป็นหุ้นที่นักลงทุนให้ความสนใจอยู่ตลอดเวลา เพราะหุ้นกลุ่มนี้ถือว่าเป็นหุ้นที่พื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว เมื่อยามที่ตัวลงปรับตัวลงมา

งานนี้ หากการเจรจาของทางรัสเชียกับซาอุดิอาระเบียไปในทิศทางเป็นบวก นักลงทุนคงได้เห็นหุ้นกลุ่มพลังงานกลับทิศอย่างรวดเร็วแน่ๆ!

 

หลักทรัพย์ PE
เท่า
PBV
เท่า
DIVYLD
%
Free floa
%
PTT 0.96 4.68 48.86
PTTEP 0.57 5.17 34.68
PTTGC 21.73 1.03 51.07
BCP 22.32 1.11 3.48 62.74
ESSO 1.21 34.01
IRPC 9.48 1.17 5.05 46.91
PTG 42.25 6.05 1.10 32.44
RPC 17.30 0.65 69.42
SUSCO 8.07 0.96 3.01 64.50
TOP 9.88 1.36 1.97 50.04

หมายเหตุ: ข่าวหุ้นรวมรวบ ณ วันที่ 16 ก.พ. 59

Back to top button