อันตราย! ห้ามพกเข็มหรือของมีคมเข้าตลาดหุ้น

สัปดาห์ที่ผ่านมา หุ้นไทยยังคงปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถ้านับในรอบ 1 เดือน ถือว่าขึ้นมาแล้วกว่า 7%


–ตามกระแสโลก–

 

สัปดาห์ที่ผ่านมา หุ้นไทยยังคงปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถ้านับในรอบ 1 เดือน ถือว่าขึ้นมาแล้วกว่า 7%

โดยความเป็นมาและเป็นไปของดัชนีในรอบนี้ ยังอิงอยู่กับสถานการณ์ในต่างประเทศเป็นหลัก

ทั้งเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน ยุโรป ญี่ปุ่น และแนวโน้มการคงอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

ซึ่งทั้งหมดนี้ ถือเป็นประเด็นบวกต่อตลาดหุ้นบ้านเราทั้งสิ้น เพราะส่งผลให้เกิดกระแสอินโฟลว์ของทุนต่างชาติไหลเข้า

วัดได้จากตัวเลขซื้อสุทธิของนักลงทุนต่างชาติที่ซื้อไปแล้วกว่า 1.5 หมื่นล้าน ตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นมา

บวกกับการแข็งค่าขึ้นของเงินบาทในช่วงที่ผ่านมา นับเป็นตัวยืนยันถึงการไหลเข้าของเงินทุนได้เป็นอย่างดี

อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่น่าติดตามต่อจากนี้คือ หุ้นไทยจะเคลื่อนไหวในทิศทางขาขึ้นไปได้อีกนานเท่าไหร่

เพราะดูแล้ว เม็ดเงินที่ไหลเข้ามาเที่ยวนี้ เสมือนเป็นการหลบเข้ามาพักเพื่อทำกำไรในระยะสั้นๆเท่านั้น

ดังนั้น การปรับตัวขึ้นมาเที่ยวนี้จึงเปรียบได้ดั่งฟองสบู่พองตัวที่ไม่มีปัจจัยพื้นฐานใดๆเข้ามาสนับสนุนทั้งสิ้น

ภาพรวมเศรษฐกิจภายในก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แย่ยังไงก็ยังแย่เหมือนเดิม และดูเหมือนไม่น่าจะมีอะไรดีขึ้นได้ด้วย

นี่เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่เอื้อให้เม็ดเงินฝรั่งยังสามารถชี้เป็นชี้ตายตลาดหุ้นไทยได้อยู่ เนื่องจากปัจจัยภายในนั้นอ่อนแอมากเต็มที

การปรับตัวขึ้นแบบไม่มีฐานอะไรมารองรับ ถือเป็นความเสี่ยงที่ต้องคอยจับตาเฝ้าระวังเป็นอย่างยิ่ง

เพราะเมื่อใดที่ฝรั่งทำกำไรได้จนเป็นที่น่าพอใจและพร้อมจะกลับบ้านแล้ว เมื่อนั้นก็เป็นเวลาที่นักลงทุนไทยมักจะถูกลอยแพ

เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่จบสิ้นซักที และโอกาสที่หุ้นไทยจะปรับตัวลงแรงอีกครั้งก็อยู่ไม่ไกลจนเกินเอื้อม

พฤติกรรมประเภท เข้ามาซื้อตอนดัชนีต่ำแถมบาทอ่อน แล้วขายตอนดัชนีสูงแถมบาทแข็ง เกิดขึ้นให้เห็นมาโดยตลอด

หวาดเสียวฟองสบู่หุ้นไทยจะแตกในไม่ช้านี้

Back to top button