IRCP เล็งปรับเป้าผลประกอบการปีนี้เป็นโตกว่า 50% ดัน บ.สิงห์คอมฯ เข้าตลาดหุ้น

IRCP เล็งปรับเป้าการเติบโตปีนี้โตทะยานกว่า 50% หลังกำไรไตรมาสแรกพุ่งกระฉูด 67% ระบุเตรียมประมูลงานอีกเพียบกว่า 5 พันลบ. พร้อมเปิดตัวบริษัทร่วมทุน "สิงห์คอม อินเตอร์กรุ๊ป" ผู้ติดตั้งอุปกรณ์ส่งสัญญาณอันดับ 1 ของไทย รับรู้รายได้-กำไรเพิ่มเติมทันทีปีนี้


นายกังวาล กุศลธรรมรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล รีเสริช คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ IRCP เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมปรับเป้าหมายเติบโตของผลประกอบการในปี 2559 เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ตั้งเป้าโต 50% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีรายได้1,229 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 54 ล้านบาท

โดยการปรับเป้าหมายการเติบโตดังกล่าว เนื่องจากปัจจุบันบริษัทมีมูลค่างานในมือมากถึง 1,000 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้รายได้ในปีนี้ถึง 85% ประกอบกับบริษัทเตรียมที่จะเข้าประมูลงานเพิ่ม มูลค่ารวมประมาณ 5,000-6,000ล้านบาท ซึ่งเป็นงานที่มีโอกาสชนะสูง

นอกจากนี้บริษัทยังได้เข้าร่วมลงทุนใน บริษัท สิงห์คอม อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด ผู้ดำเนินการติดตั้งอุปกรณ์สัญญาณโทรคมนาคม เบอร์ 1 ของไทย ในสัดส่วนการถือหุ้น 51% ร่วมกับ กลุ่มบริษัท สิงห์คอม เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด ที่ถือหุ้นสัดส่วน 49% เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งจะทำให้บริษัทรับรู้รายได้และกำไรเข้ามาค่อนข้างมากในปีนี้

ด้านนายสิงหา เขียวดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สิงห์คอม อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจติดตั้งอุปกรณ์สัญญาณโทรคมนาคมนับว่ามีการเติบโตอย่างมาก โดยเฉพาะหลังการประมูล 4G ซึ่งผู้ชนะจะต้องมีการวางระบบโครงข่าย 4G

ดังนั้นบริษัทจึงต้องเร่งขยายงาน ซึ่งการเข้าร่วมทุนกับ IRCP ได้ส่งผลดีทำให้บริษัทมีความแข็งแกร่งด้านการเงิน สามารถขยายงานได้อย่างก้าวกระโดด รวมไปถึงสามารถเข้าถึงทรัพยากรเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากขึ้น ทำให้บริษัทมีประสิทธิภาพในการดำเนินงานเพิ่มขึ้น

สำหรับจุดเด่นของบริษัทคือความเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการติดตั้งอุปกรณ์ส่งสัญญาณโทรคมนาคมซึ่งดำเนินการมามากกว่า 10 ปี ทำให้การติดตั้งมีความรวดเร็วโดยสามารถติดตั้งได้เสร็จสิ้นภายใน 1 วันเท่านั้น นอกจากนี้ด้วยความที่เข้าใจระบบจึงทำให้การติดตั้งมีความแม่นยำ ประกอบกับสามารถแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้อย่างตรงจุด

ล่าสุดบริษัทได้ปรับเป้าการเติบโตในปี 2559 นี้เพิ่มขึ้น เป็น 200 ล้านบาท เติบโต 100% จากปี 2558 ที่บริษัทมีรายได้ 100 ล้านบาท พร้อมกับวางแผนที่จะเข้าจดทะเบียนและซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยต่อไป

Back to top button