ผถห. BIZ ไฟเขียวเพิ่มทุน – แจกวอร์แรนต์ ลุ้นโค้งท้ายปีโตสนั่น ดันผลงานนิวไฮ

นายสมพงษ์ ชื่นกิติญานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิสซิเนสอะไลเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ BIZ เผยเรื่องที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2564 มีมติอนุมัติให้บริษัทฯออกและจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท บิสซิเนสอะไลเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 1 (BIZ-W1) จำนวนไม่เกิน 40,000,000 หน่วย ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทตามสัดส่วนการถือหุ้น โดยไม่คิดมูลค่า ในอัตราการจัดสรร 10 หุ้นสามัญเดิมต่อ 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ

โดยมีอายุ 1 ปี นับจากวันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ และกำหนดราคาการใช้สิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิเท่ากับ 7.00 บาทต่อหุ้น อัตราการใช้สิทธิ 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ ต่อ 1 หุ้นสามัญเพิ่มทุนรวมถึงได้อนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทจำนวน 20,000,000 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 200,000,000 บาท เป็นทุนจดทะเบียนจำนวน 220,000,000 บาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 40,000,000 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท เพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิ BIZ-W1

“การจัดสรรวอร์แรนท์ในครั้งนี้จะช่วยสร้างความแข็งแกร่งและเพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน เพื่อรองรับการลงทุนในอนาคต และสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งช่วยทำให้บริษัทฯ มีความยืดหยุ่นในการขยายธุรกิจโครงการต่าง ๆ ในระยะยาว ตลอดจนต้องขอขอบคุณผู้ถือหุ้นที่ยังให้ความไว้วางใจ และสนับสนุนบริษัทฯ มาโดยตลอด” นายสมพงษ์ กล่าว

 นอกจากนี้ การส่งมอบงานตามกำหนดการ จะส่งผลให้ภาพรวมการดำเนินธุรกิจช่วงโค้งท้ายของปี มีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างโดเด่น ในขณะที่ยังมีงานขณะที่ยังมีงานในมือรอรับรู้รายได้ (backlog) ที่ตุนไว้แล้ว ประมาณ 1,976 ล้านบาท  รวมทั้งบริษัทฯ มีแผนจะเข้าประมูลงานใหม่เพิ่มกว่า 800 ล้านบาท

โดยคาดว่าจะมีโอกาสได้งานสูง เนื่องจากบริษัทฯ มีศักยภาพ และมีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านทำให้มีคู่แข่งไม่มาก ซึ่งผลงานที่ผ่านมาก็น่าจะช่วยสนับสนุนให้บริษัทฯ มีโอกาสคว้างานมากขึ้น ทำให้บริษัทฯ มั่นใจว่า ปัจจัยดังกล่าวจะช่วยผลักดันให้ผลงานในปี 2564 สามารถทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ได้

นอกจากนี้ธุรกิจโรงพยาบาลเฉพาะทางมะเร็ง แคนเซอร์อลิอันซ์ ศรีราชา จังหวัดชลบุรี ซึ่งบริษัทฯ ถือหุ้นในสัดส่วน 65% นั้น ยังมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการเปิดแผนก “กัญชาทางการแพทย์” เพื่อต้องการจะใช้ต่อยอดรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งจากวิธีการฉายรังสี และเคมีบำบัด ควบคู่กับการรักษามาตรฐาน รวมทั้งจะเร่งผลักดันให้เป็นศูนย์กลาง เพื่อพัฒนาด้านการรักษาผู้ป่วย หวังสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต