PJW กำไร Q3 โตแรง 92% ยอดขายบรรจุภัณฑ์หนุน! ลุ้น Q4 นิวไฮ-โบรกฯเชียร์ซื้อเป้า 6.20 บ.

PJW กำไร Q3 โตแรง 92% ยอดขายบรรจุภัณฑ์พุ่ง! ลุ้น Q4 นิวไฮ-ทั้งปีกำไรทะลุ 209.8 ลบ. โบรกเชียร์ซื้อเป้า  6.20 บาท


บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้(16 พ.ย.64) ว่า บริษัท ปัญจวัฒนาพลาสติก จำกัด (มหาชน)  หรือ PJW รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 3/2564 ที่ 30.9 ล้านบาท ต่ำกว่าคาดเล็กน้อย 6% กำไรชะลอ จากไตรมาสก่อนชั่วคราวลดลง 32.7% เทียบไตรมาสก่อนหน้า จากการขาดแคลนชิพส่งผลกระทบให้ลูกค้า ค่ายรถยนต์หลายค่ายต้องหยุดสายการผลิตเป็นระยะเวลาสั้นๆ กระทบต่อความ ต้องการบรรจุภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่น ทำให้รายได้เพิ่มขึ้นเพียง 1.3% เทียบไตรมาสก่อนหน้าแต่ต้นทุน เพิ่มขึ้นเร็วจากต้นทุนเม็ดพลาสติกที่เพิ่มขึ้น ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นลดลงเป็น 17.7% จากไตรมาส 2/2564 ที่ 18.4% และมีค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับ COVID-19 เช่น การทำ Bubble and Seal การตั้งโรงพยาบาลสนาม ค่าชุดตรวจโควิด เป็นต้น ทำให้ EBITDA margin ลดลงเป็น 56.7% จาก 59.7% ในไตรมาส 2/2564

อย่างไรก็ตามกำไรฟื้นแรง 92.5% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากสถานการณ์ COVID-19 ดีกว่า ช่วงเดียวกันของปีก่อน ประกอบกับธุรกิจบรรจุภัณฑ์นมและนมเปรี้ยวมีผลิตภัณฑ์ ใหม่ๆ และธุรกิจในจีนมียอดขายที่ดี ทำให้รายได้ โต 14.1% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน การใช้กำลังการผลิต ที่เพิ่มขึ้นทำให้อัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้นจาก 15.9% ในไตรมาส 3/2563

อย่างไรก็ตามการเริ่มจำหน่ายสินค้า Medical plastic อาจล่าช้ากว่าแผน 1-2 เดือนจากปัญหาการ ขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ สินค้าล็อตแรกคือไซริงค์อาจนำเข้ามาจำหน่ายได้ในช่วง เดือน ธ.ค. 2564-ม.ค.2565 แต่ไม่มีผลอย่างมีนัยสำคัญต่อประมาณการกำไรในปี 2564 บริษัทตั้งเป้าส่วนแบ่งรายได้จากสินค้าเฉพาะไซริงค์ราว 300 ล้านบาท หรือ 10% ของมูลค่าตลาด 3 พันล้านบาท ยังไม่รวมสินค้า Medical plastic product อื่นๆ โดยคาดหวังให้ Medical plastic products เป็น New S-curve ชดเชยบรรจุภัณฑ์ พลาสติกน้ำมันหล่อลื่นที่ปัจจุบันมียอดขาย 1.4-1.5 พันล้านบาทต่อปี ที่อาจถูก กระทบจากการมาของ EV ในอีก 5 ปีข้างหน้าขึ้นไป แต่ในช่วง 5 ปีนี้เชื่อว่าตลาด น้ำมันเครื่องยังสามารถเติบโตได้เฉลี่ยปีละ 4-5%

โดยปรับประมาณการกำไรปี  2564 ลง 10% เพราะกำไรไตรมาส 4/2564 น่าจะถูกกระทบจาก ต้นทุนเม็ดพลาสติกที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็วในเดือน ต.ค.แต่กำไรไตรมาส 4/2564 ยังเป็น จุดสูงสุดของปี และคาดกำไรทั้งปี 2564 ที่ 209.8 ล้านบาท ขยายตัวสูง 44.8% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และปรับกำไรปี 2565-2567 ลงเล็กน้อยเฉลี่ย 4% โดยคาดกำไรปี  2565 โต 25.9% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ก่อนจะชะลอในปี 2566 เพราะฐานสูง คิดเป็นการเติบโตเฉลี่ย 15% CAGR ในช่วงปี 2565-25674 ปรับไปใช้ราคาเป้าหมายปี 2565 ที่ 6.20 บาท ถึง PE 17 เท่า, PEG 1.1 (PE ลดลงจากปี 2021 เพราะการเติบโตแบบก้าวกระโดดกำลังผ่านไป) หาก PJW-W1 ใช้สิทธิครบจำนวน ราคาเป้าหมายจะ dilute เป็น 4.70 บาท ราคาหุ้น ปัจจุบันที่ 3.92 บาทสะท้อนการใช้สิทธิของวอร์แรนท์แล้ว ยังคงแนะนำซื้อ

Back to top button