NV ลงเทรดวันนี้! ลุ้นวิ่งชนเป้า 8 บ. โบรกฯชูพื้นฐานแกร่ง กำไรปี 65-66 โตเฉลี่ย 50%

NV ลงสนามเทรดวันแรก ลุ้นราคาวิ่งแตะเป้า 8 บ. จากราคาไอพีโอ 6.90 บ. โบรกชูพื้นฐานเด่น คาดกำไรปี 65-66 โตเฉลี่ย 50%


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (24 ธ.ค.64) หลักทรัพย์บริษัท โนวา ออร์แกนิค จำกัด (มหาชน) หรือ NV เตรียมเข้าจดทะเบียนและทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO ที่ 4,140 ล้านบาท โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “NV”

ด้านนายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยินดีต้อนรับ NV เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในกลุ่มอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคและบริโภค หมวดของใช้ส่วนตัวและเวชภัณฑ์

โดย NV ประกอบธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพและความงาม ผลิตภัณฑ์ของบริษัทที่ได้รับความนิยมและรู้จักอย่างแพร่หลาย ได้แก่ LIVNEST DONUTT และ Q-Tin จัดจำหน่ายผ่านทุกช่องทางโดยมีการจำหน่ายผ่านทางโทรศัพท์ที่บริษัทได้ดำเนินการและพัฒนาขึ้นเองเป็นช่องทางหลัก และช่องทางอื่นๆ เช่น ร้านค้าสมัยใหม่ และโฮมช้อปปิ้ง

รวมถึงให้บริการให้คำปรึกษาและรับจ้างผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแบบครบวงจร โดยมีฝ่ายวิจัยและพัฒนาในการคิดค้นและพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพและหลากหลายอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ NV มีทุนจดทะเบียนชำระแล้วหลัง IPO 300 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิมจำนวน 450 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 150 ล้านหุ้น โดยเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรกระหว่างวันที่ 15-17 ธันวาคม 2564 ในราคาหุ้นละ 6.90 บาท มูลค่าระดมทุนรวม 1,035 ล้านบาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 4,140 ล้านบาท โดยมีบริษัท แคปปิตอล วัน พาร์ทเนอร์ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และบริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย

ด้านนายนวพล จันทร์จุฑามาศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร NV เปิดเผยว่า บริษัทมีวิสัยทัศน์ที่จะเป็นผู้นำผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพและความงามในภูมิภาคเอเชียและสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับทุกคนอย่างยั่งยืน การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ บริษัทมีแผนที่จะลงทุนเพื่อขยายโรงงานและคลังสินค้าแห่งใหม่ ปรับปรุงโรงงานเดิมพื่อการผลิตสินค้าประเภทสมุนไพรและโรงงานสกัดสารสำคัญ และลงทุนในอาคารสำนักงานใหม่เพื่อรองรับการขยายช่องทางการจำหน่ายทางโทรศัพท์ (Telesales) ที่เป็นช่องทางหลัก รวมทั้งนำเสนอและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆออกมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการเติบโตของ NV และตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคและเข้าถึงด้วยช่องทางการจัดจำหน่ายที่เข้าถึงง่าย หลากหลายและครอบคลุม

ทั้งนี้ NV มีผู้ถือหุ้นใหญ่หลัง IPO คือ ครอบครัวจันทร์จุฑามาศ ถือหุ้น 69.27% และมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้น ในอัตราไม่ต่ำกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิของงบการเงินเฉพาะบริษัทฯ ภายหลังจากหักภาษีและเงินทุนสำรองตามกฎหมายและทุนสำรองอื่น

 

พร้อมกันนี้ บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 65 จะเติบโตกลับมาใกล้เคียงกับปี 63 ที่เคยทำได้สูงถึง 2,231 ล้านบาท โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการกลับมาทำการตลาดสินค้าถั่งเช่าได้มากขึ้น โดยคาดว่าจะมีสัดส่วนรายได้ราว 50% และเน้นการทำการตลาดในสินค้ากลุ่มคอลลาเจนที่คาดว่าจะมีสัดส่วนรายได้ราว 40%

นอกจากนี้ บริษัทยังเตรียมเปิดตัวสินค้าใหม่ๆเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง 4-5 ผลิตภัณฑ์ โดยเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมจากสารสกัดงาดำ โปรตีนจากพืช และกาแฟผสมสารสกัดจากแปะก๊วย

พร้อมกันนี้บริษัทยังได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับสื่อทีวีหลายๆ ช่องเพื่อเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้า รวมไปถึงการเป็นผู้ผลิตสินค้าในรูปแบบ OEM ให้กับพันธมิตรเพิ่มเติมด้วย

นายนวพล กล่าวอีกว่า การนำหุ้น NV เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) มั่นใจว่าจากปัจจัยพื้นฐานที่ดีของบริษัท ประกอบกับประสบการณ์การทำงานในธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารมากกว่า 10 ปีจะส่งผลให้หุ้น NV เป็นหุ้นที่น่าสนใจและได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน

โดยเม็ดเงินที่ได้จากการระดมทุนผ่านการเสนอขายหุ้น IPO จะนำไปใช้ลงทุนในโรงงานและคลังสินค้าแห่งใหม่เพื่อขยายและรองรับกำลังการผลิตที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต รวมทั้งการขยายช่องทางการจำหน่ายทางโทรศัพท์ที่เป็นช่องทางหลัก ปรับปรุงโรงงานเดิมเพื่อการผลิตสินค้าประเภทสมุนไพรและโรงงานสกัดสารสมุนไพร รวมทั้งใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินกิจการ ซึ่งการเข้าจดทะเบียนใน SET ถือเป็นการเพิ่มมาตรฐานในการผลิตและการจัดจำหน่าย รวมทั้งสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าของบริษัทอีกทางหนึ่งด้วย

“เรามั่นใจว่าหุ้น NV จะได้รับความสนใจและไว้วางใจจากนักลงทุน โดยคาดว่าผลการดำเนินงานในปีนี้จะสามารถรักษาระดับผลการดำเนินงานให้เป็นไปตามเป้าที่วางไว้และปีหน้าจะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุน” นายนวพล กล่าว

นายเอกจักร บัวหภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แคปปิตอล วัน พาร์ทเนอร์ ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน NV เปิดเผยว่า คาดว่าหุ้น NV จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างดี จากปัจจัยพื้นฐานและฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง รวมถึงความเชี่ยวชาญในสายงานผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารมากกว่า 10 ปี ตอกย้ำถึงประสิทธิภาพในการทำงานและความไว้วางใจจากลูกค้าที่มีต่อบริษัทฯ

“จากปัจจัยต่างๆ ส่งผลให้หุ้น NV มีความน่าเชื่อถือ สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวให้กับผู้ถือหุ้น อีกทั้งการเข้าทำการซื้อขายในช่วงก่อนวันหยุดยาวถือเป็นการเพิ่มความคึกคักให้กับตลาดหุ้นก่อนช่วงสิ้นปี และสร้างความน่าสนใจของหุ้น NV ได้ โดยเชื่อมั่นว่าราคาเปิดซื้อขายในวันแรกจะสูงกว่าราคาเปิดจองซื้อ” นายเอกจักร กล่าว

นายกิตติพันธ์ ภูษณวรรณ กรรมการผู้จัดการอาวุโส บล.โกลเบล็ก ในฐานะผู้จัดการการจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน NV เปิดเผยว่า เชื่อว่าหุ้น NV จะได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับการทยอยฟื้นตัวของตลาดและความสามารถในการเติบโตของบริษัท ที่มีช่องทางเติบโตอีกมาก รวมถึงการเติบโตของตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น จึงเป็นโอกาสที่ดีในการเข้าลงทุนของนักลงทุน ซึ่งในระยะยาว NV จะเป็นหุ้นที่มีการเติบโตที่น่าสนใจตามศักยภาพการขยายตัวของธุรกิจที่สูงขึ้นในอนาคต

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ ประเมินมูลค่าพื้นฐานของ NV ปี 2565 ที่ 8 บาท/หุ้น ด้วยวิธี PE 24.8 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ย Imply PE ปี 2565 ที่ใช้ประเมินมูลค่าพื้นฐานของ 3 บริษัท (MEGA, RS และ DOD) เนื่องจากมองว่า NV มีความน่าสนใจจาก 1) ดำเนินธุรกิจผลิตภัณฑ์เสริมอาหารครบวงจรที่มีแบรนด์ของตัวเอง มีโรงงานให้บริการรับจ้างผลิต OEM

2) มีจุดเด่นด้านผลิตภัณฑ์ครอบคลุมลูกค้าได้ทุกกลุ่มตั้งแต่ กลุ่มวัยรุ่น/ผู้สูงอายุ มีช่องทางการจำหน่ายสินค้าหลากหลายเพื่อกระจายสินค้าได้อย่างกว้างขวาง และเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย

3) คาดปี 2565-66 กำไรสุทธิเติบโตสูงต่อปีเฉลี่ย 51% หลังคาดว่าบริษัทกลับมาทำการตลาดสินค้ากลุ่มถั่งเช่า ควบคู่กับกลุ่มคอลลาเจน รวมทั้งสินค้าใหม่ๆ 4) คาดว่าบริษัทมีฐานะเป็น Net cash มีเงินสดรองรับขยายธุรกิจใหม่

Back to top button