RS วางเป้าปั๊มรายได้ “ยูไลฟ์” โตเกิน 20% ชูกลยุทธ์ Popcoin ดันยอดขาย ขึ้นท็อป 5 ปี 67

RS วางเป้าปั๊มรายได้ “ยูไลฟ์” โตเกิน 20% ชูกลยุทธ์ Popcoin ดันยอดขาย ขึ้นท็อป 5 ปี 67 พร้อมต่อยอดโมเดล Entertainmerce และขยาย Ecosystem ของบริษัทได้อย่างแข็งแกร่ง


นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) หรือ RS เปิดเผยกับ ข่าวหุ้นธุรกิจ” ผ่านรายการ ข่าวหุ้น” ออกอากาศทางช่อง MCOT HD30 ในวันที่ 10 ก.พ.2565 มีประเด็นสำคัญดังนี้

ซื้อกิจการ “ยูไลฟ์” เป็นดีลที่อยากได้-คุ้มค่ามากที่สุด

ภายหลังบริษัทประกาศเข้าซื้อกิจการทั้งหมดของยูนิลีเวอร์ ไลฟ์ หรือ ยูไลฟ์ (ULife) ซึ่งเป็นหน่วยธุรกิจขายตรงของยูนิลีเวอร์ ด้วยมูลค่า 880 ล้านบาท ซึ่งทาง “เฮียฮ้อ” เปิดใจว่าดีลนี้ถือเป็นดีลผมอยากได้มากที่สุดด้วยหลายเหตุผล ในมุมเรื่องของรายได้ปีละ 1,200 ล้านบาท กำไรโตประมาณ 10% และสิ่งที่ไม่สามารถประเมินราคาได้คือการซื้อกิจการครั้งนี้เราได้ผู้บริหารทั้งทีมที่มีมาตรฐานที่ทำงานมากกว่า 10-20 ปี

นอกจากนี้ยังได้ตัวแทนที่อยู่ในระบบประมาณ 150,000 คน และได้แบรนด์สินค้า 3 แบรนด์ระดับพรีเมียม ได้แก่ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและสุขภาพ Beyonde, ผลิตภัณฑ์สุขภาพความงาม Aviance และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพภายในช่องปาก I-Fresh และการได้แบรนด์ครั้งนี้มันประเมินมูลค่าค่าไม่ได้คือการเติบโตทางลัด เพราะกว่าจะทำธุรกิจได้ขนาดนี้ใช้เวลาหลายสิบปี

การปิดดีลครั้งนี้ทำให้บริษัทโตทางลัดเข้าไปเป็นเจ้าของธุรกิจขายตรงที่แข็งแรงและสามารถนำมาต่อยอดทางธุรกิจใน เพื่อต่อยอดโมเดล Entertainmerce และขยาย Ecosystem ของ RS ได้ทันที เพื่อมาช่วยเสริมความแข็งแกร่งทั้งในเรื่องของโปรดักส์ ช่องทางการจัดจำหน่าย การสร้างโมเดลธุรกิจใหม่ๆ ให้แก่ธุรกิจคอมเมิร์ซ และสร้างการทำงานร่วมกัน (Synergy) ภายในกลุ่มธุรกิจ

ประเมินรายได้ ULife เมื่อมาอยู่ภายใต้ RS จะปั๊มรายได้-กำไรเติบในอนาคตเท่าไร

สำหรับ “ยูไลฟ์” คาดจะเข้าทำรายการแล้วเสร็จในเดือน พ.ค. 2565 โดยรายได้คาดจะเข้ามาตั้งแต่เดือนพ.ค.-ธ.ค.2565 ประมาณ 900-1000 ล้านบาท ผลประกอบการกำไรโตประมาณ 10% ส่วนการวางเป้าหมาย “ยูไลฟ์” คาดว่าจะเปิดตัวแผนธุรกิจและวางเป้าหมายใหม่ในช่วงต้นเดือนพ.ค.โดยเบื้องต้นมีเป้าหมายจะผลักดันและสร้างการเติบโตของ ยูไลฟ์ ก้าวขึ้นเป็นบริษัทขายตรงอันดับ 1 ใน 5 ของประเทศภายในปี 2567

มีโอกาสไหมกำไร “ยูไลฟ์” โตมากกว่า 10% เมื่อมาอยู่ภายใต้ RS

โดยปกติธุรกิจ “ยูไลฟ์” จะมีกำไรเติบโตปีละ 20% ถ้าไม่นับข่วงที่รับผลกระทบโควิด-19 และเมื่อมาอยู่ภายใต้การดำเนินงานของ RS จากนี้ไปจะวางกลยุทธ์การเติบโตบนเป้าหมายที่ท้าทายไว้มากกว่า 20% เพราะฉะนั้นการเติบโตของ“ยูไลฟ์” จะเป็นการเติบโตแบบก้าวกระโดดในปี 2565 พร้อมก้าวขึ้นเป็นบริษัทขายตรงอันดับ 1 ใน 5 ของประเทศภายใน 3 ปี  ซึ่งประเมินไว้รายได้ปี 2565 ประมาณ 1,300 ล้านบาท โดย RS คาดจะบันทึกรายได้ประมาณ 900-1000 ล้านบาท ตั้งแต่เดือนพ.ค.-ธ.ค.2565

ทำไม “ยูนิลีเวอร์” ต้องขาย “ยูไลฟ์” ให้กับ RS

ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจธุรกิจขายตรง (Multi-Level Marketing) หรือ MLM เป็นธุรกิจที่อยู่ใน ยูนิลีเวอร์ และทำในประเทศไทยมานานกว่า 22 ปี และธุรกิจขายตรงต้องการสปีดในการทำงาน ต้องการกลยุทธ์ที่รวดเร็ว และที่สำคัญทุกๆธุรกิจจะต้องปรับตัวและทรานส์ฟอร์มในขณะนี้

ดังนั้นในส่วนของ “ยูไลฟ์” ก็ถึงเวลาที่ทรานส์ฟอร์มและได้เวลากำหนดอนาคตทิศทางธุรกิจ โดยทางผู้บริหาร บริษัทยูนิลีเวอร์ในประเทศไทย มองว่าด้วยนโยบายและขนาดองค์กรอาจจะไม่คล่องตัวเพียงพอ และเห็นว่าจะเป็นประโยชน์กว่าที่จะให้ “ยูไลฟ์” อยู่กับพาร์เนอร์ใหม่ที่มีความพร้อมส่งเสิรมและให้เติบโตไปได้ และการปิดดีลครั้งนี้ทำให้บริษัทได้มาทั้งผู้บริหาร คนทำงาน ตัวแทน ลิขสิทธ์แบรนด์ “ยูไลฟ์” ทั้งหมด

การได้แบรนด์ “ยูไลฟ์” เข้ามาจะช่วยเติมเต็มการขาย RS มากน้อยเพียงใด

ในแง่ช่องทางการจำหน่ายสินค้าแต่ละช่องทางจะมีเอกลักษณ์กับผู้ซื้อที่แตกต่างกัน การที่จะเอาสินค้าในช่องทางหนึ่งมาขายทำอีกช่องทางหนึ่งคงไม่ได้ แต่การ Synergy ในมุมหลังบ้าน เช่น การพัฒนาสินค้าใหม่ๆจะทำ “ยูไลฟ์” เมื่อมาอยู่ภายใต้ Ecosystem ของ RS จะมีความแข็งแกร่งและหลากหลายมากยิ่งขึ้น สามารถใช้เครื่องมือต่างๆของ RS ไม่ว่าจะเป็น มีเดีย เอนเตอร์เทน รวมถึง Popcoin ซึ่งจะเป็นอาวุธหนึ่งในการขับเคลื่อนการตลาด และผลักดันยอดขายของ “ยูไลฟ์” ในมุมของ RS ก็จะได้ประโยชนจากโนว์ฮาวที่แข็งแรงเข้ามาเสริมให้ธุรกิจคอมเมิร์ซ RS มีการพัฒนาดีขึ้น

ชู Popcoin กลยุทธ์สำคัญดันยอดขาย ”ยูไลฟ์”

บริษัทกำลังวางแผนนำ Popcoin มาเป็นมาร์เกตติ้งในการไดร์ยอดขายให้กับตัวแทนถือเป็นกลยุทธ์สำคัญ และเป็นกลยุทธ์หลัก เพราะ Popcoin ที่เราออกแบบจะเรียกว่าเป็นบริษัทเดียวที่มีเหรียญยูทิตี้โทเคนพร้อมใช้ และจะนำ Popcoin เป็นเต็งหนึ่งและเป็นฟันเฟืองสำคัญ เพื่อให้จำนวนสมาชิกยูไลฟ์ 150,000 คน นำไปต่อยอดและสร้างยอดขายที่สำคัญ

“ยูไลฟ์” อยู่ระหว่างการจดทะเบียนเป็นบริษัทย่อย RS

สำหรับ “ยูไลฟ์” จากนี้ไปจะกลายเป็นบริษัทย่อยของ RS ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการจดทะเบียนกระทรวงพาณิชย์ ภายใต้ชื่อ “อาร์เอส ยูไลฟ์” ถือหุ้นโดย RS 100% ทำธุรกิจ MLM ครบวงจรจะมีธุรกิจให้คำปรักษาด้วย

RS มีแผนตั้งโรงงานผลิตสินค้าหรือไม่

การมีโรงงานไหม RS มองดูภาพใหญ่เมื่อมีทั้ง บริษัท ไลฟ์สตาร์ จำกัด และ ยูนิลีเวอร์ ไลฟ์ หรือ ยูไลฟ์ (ULife) เข้ามาตอนนี้กำลังมองว่าพอร์ตรวมและมูลค่าเหมาะสมไหมในการลงทุน

Back to top button