SUPER ตั้งเป้ารายได้ปีนี้โต 35% เร่งขยายผลิตไฟฟ้าแตะ 2 พันเมกฯ-จ่อคว้าโปรเจกต์ “PPA-SPP”

SUPER ตั้งเป้ารายได้ปี 65 โต 30-35% เร่งขยายกำลังการผลิตรวมแตะ 1,900 – 2,000 MW โดยจ่อคว้าโปรเจกต์ โครงการ Private PPA -SPP Hybrid เล็งขยายลงทุนโรงไฟฟ้าในอาเซียน สร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง ช่วงปลายปี 2565 กางแผนโรงไฟฟ้าไฮบริดแห่งแรกที่ใหญ่ในประเทศไทย


นายจอมทรัพย์ โลจายะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SUPER เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในปี 2564 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2564 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 2,733 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 79% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 1,527 ล้านบาท ขณะที่รายได้รวม 8,530.10 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 30.9% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 6,514.60 ล้านบาท

ทั้งนี้ปัจจัยหลักที่ทำให้ผลประกอบการเติบโต เนื่องจากการรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าในพอร์ตทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งมีกำลังการผลิตรวมอยู่ที่ 1,586.3 เมกะวัตต์  จากโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทย รายได้จากโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศเวียดนาม ขนาดกำลังการผลิตติดตั้งรวม 550 เมกะวัตต์ ที่รับรู้เต็มปี และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมบนบก (Onshore) ที่ประเทศเวียดนาม ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 50 เมกะวัตต์ โดยได้เริ่มจำหน่ายไฟฟ้าในเชิงพาณิชย์ ในช่วงไตรมาส 4/2564 นอกจากนี้จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ ของโครงการ SEE6 ในจังหวัดพิจิตร ที่รับรู้รายได้เต็มปี จากที่เริ่มจำหน่ายไฟฟ้าในเชิงพาณิชย์ เมื่อไตรมาส 2/2563 รวมทั้งโครงการต่างๆของกลุ่มบริษัทสนับสนุน

โดยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลงวดปี 2564 ให้กับผู้ถือหุ้นเป็นเงินสด ในอัตราหุ้นละ 0.006 บาท รวมเป็นเงินปันผลทั้งสิ้น 164.09 ล้านบาท โดยกำหนดให้ผู้ถือหุ้นที่จะมีชื่อปรากฎ ณ วันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้น (Record Date) ในวันที่ 5 พฤษภาคม 2565 และกำหนดวันจ่ายเงินปันผลในวันที่ 20 พฤษภาคม 2565

“ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ เติบโตต่อเนื่องจากปีก่อนทั้งในส่วนของรายได้และกำไร เรามุ่งมั่นและแสวงหาการลงทุนในธุรกิจใหม่ ที่มีศักยภาพการเติบโตต่อยอดธุรกิจในปัจจุบัน ประกอบกับแผนกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในปีนี้ มองหาโอกาสใหม่ นอกเหนือการขยายงานโครงการโรงไฟฟ้าต่างๆ และก็จะเห็นโครงการรูปแบบใหม่ ในปีนี้ จึงมั่นใจว่าจะช่วยสนับสนุนให้บริษัทฯ มีความสามารถในการสร้างรายได้ อัตรากำไรเพิ่มขึ้นได้อย่างแข็งแกร่ง” นายจอมทรัพย์ กล่าว

สำหรับ SUPER ยังคงให้ความสำคัญในการขยายงานโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนทุกรูปแบบ และการขยายงานรูปแบบใหม่ รวมทั้งเป้าหมายการพัฒนาธุรกิจโรงไฟฟ้าในกลุ่มประเทศอาเซียนในอนาคต โดยปี 2565 ตั้งเป้าหมายรายได้ก้าวกระโดด โดยตั้งเป้าเติบโต 30 – 35 % จากปี 2564 และกำลังการผลิตรวมให้ไปแตะระดับ 1,900 – 2,000 เมกะวัตต์ ภายในปี 2565

ทั้งนี้ประกอบด้วยโครงการโรงไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม ทั้งในและต่างประเทศ โครงการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาอาคาร (โซลาร์รูฟท็อป)และโครงการการขยายงานสัญญาซื้อขายไฟฟ้าภาคเอกชน    (Private PPA )

รวมทั้งโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในแบบ SPP Hybrid ภายใต้บริษัทย่อย บริษัท ซุปเปอร์ โซล่าร์ ไฮบริด  จำกัด  ผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน โดยมีปริมาณจำหน่ายไฟฟ้าตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ขนาด 16 เมกะวัตต์ จากการผลิตไฟฟ้าผสมผสานเชื้อเพลิงระหว่างโซลาร์ฟาร์ม 49 เมกะวัตต์ ระบบกักเก็บพลังงาน (ESS) ขนาด 136 เมกะวัตต์-ชั่วโมง (MWh) กับไบโอแก๊ส อีก 1 MW คาดว่าจะเริ่มการก่อสร้าง และจะเริ่มจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ในช่วงปลายปี 2565 อีกทั้งตั้งเป้าจะเป็นโรงไฟฟ้าไฮบริดแห่งแรกที่ใหญ่ และทันสมัยที่สุดในระเทศไทย

Back to top button