ตลท.เปิดตัวเลข SET พ.ค.65 เพิ่มขึ้น 0.3% จากปีก่อน รับแรงหนุนหุ้นเปิดเมือง

“ตลาดหลักทรัพย์ฯ” สรุปภาพรวม 5 เดือนแรกปีนี้ ผู้ลงทุนต่างชาติย้ายเงินทุนกลับเข้าสู่ตลาดหุ้นไทยค่อนข้างมาก ทำให้ภาคส่งออกฟื้นตัวและค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มอ่อนตัว อีกทั้งนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้น หลังภาครัฐเปิดประเทศ


นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ใน 5 เดือนแรกปี 2565 ผู้ลงทุนต่างชาติย้ายเงินทุนกลับเข้าสู่ตลาดหุ้นไทยค่อนข้างมากเนื่องจากการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของภาคการส่งออกตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มอ่อนตัว อีกทั้งจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญหลังภาครัฐดำเนินนโยบายเปิดประเทศ

อย่างไรก็ดี ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2565 SET Index ปิดที่ 1,663.41 จุด ปรับลดลง 0.2% จากเดือนก่อนหน้า เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2564 SET Index ยังปรับเพิ่มขึ้น 0.3% ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของภูมิภาค

ทั้งนี้ SET Index ใน 5 เดือนแรกปี 2565 ได้แรงหนุนจากอุตสาหกรรมที่ได้รับอานิสงส์จากการกลับมาเปิดเมือง โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่ปรับตัวดีกว่า SET Index เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2564 ได้แก่ กลุ่มบริการ กลุ่มทรัพยากร และกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร

ขณะที่ในเดือนพฤษภาคม 2565 มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันใน SET และ mai อยู่ที่ 80,095 ล้านบาท ลดลง 26.8% จากเดือนเดียวกันของปีก่อน ใน 5 เดือนแรกปี 2565 มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 90,695 ล้านบาท โดยผู้ลงทุนต่างชาติกลับมามีสัดส่วนมูลค่าการซื้อขายสูงสุดที่ระดับ 47.49% ของมูลค่าการซื้อขายรวม

ทั้งนี้ผู้ลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 โดยในเดือนพฤษภาคม 2565 ผู้ลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 20,937 ล้านบาท ทำให้ใน 5 เดือนแรกปี 2565 ผู้ลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิรวม 139,058 ล้านบาท

ส่วนในเดือนพฤษภาคม 2565 มีบริษัทเข้าจดทะเบียนซื้อขายใหม่ใน SET 2 บริษัท ได้แก่ บริษัท โรแยล พลัส จำกัด (มหาชน) หรือ PLUS, บริษัท ฟังก์ชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ FTI และใน mai 2 บริษัท ได้แก่ บมจ. บริหารสินทรัพย์ ไนท คลับ แคปปิตอล (KCC) บมจ. ไบโอซายน์ แอนิมัล เฮลธ์ (BIS)

โดย Forward P/E ของตลาดหลักทรัพย์ไทย ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2565 อยู่ที่ระดับ 17.3 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ระดับ 13.1 เท่า และ Historical P/E อยู่ที่ระดับ 18.5 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ระดับ 13.9 เท่า ส่วนอัตราเงินปันผลตอบแทน ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2565 อยู่ที่ระดับ 2.69% สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ 2.64%

สำหรับภาวะตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในเดือนพฤษภาคม 2565 ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (TFEX) มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 472,021 สัญญา เพิ่มขึ้น 24.3% จากเดือนเดียวกันของปีก่อน ที่สำคัญจากการเพิ่มขึ้นของ SET50 Index Futures และ Single Stock Futures อย่างไรก็ตาม ในช่วง 5 ปีเดือนแรกของปี 2565 TFEX ปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 556,830 สัญญา เพิ่มขึ้น 2.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

Back to top button