DOD ปิดดีลลูกค้าใหม่-ขยายตลาดตปท. ดันออเดอร์พุ่ง

DOD ประกาศปิดดีลลูกค้าใหม่รายใหม่ พร้อมเดินหน้าลุยขยายตลาดไปยังต่างประเทศ จ่อรอรับข่าวดี ลูกค้า “จีน” ไตรมาส 3นี้ ส่วนผลประกอบการไตรมาส 2/65 ขาดทุนลดลง อยู่ที่ 25.72 ลบ.


นายธนิน ศรีเศรษฐี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดีโอดี ไบโอเทค จำกัด (มหาชน) หรือ DOD ในฐานะเป็นผู้นำด้านความเชี่ยวชาญในการพัฒนาวิจัยคิดค้นสูตรนวัตกรรมและการผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ซึ่งมีจุดแข็งและความพร้อมด้านโรงสกัดวัตถุดิบ ทีมวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ (R&D) ที่ค้นคว้าวิจัยนวัตกรรมและพัฒนาสารสกัดพืชสมุนไพร สู่การต่อยอดไปยังการผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้รับคำสั่งซื้อ (ออเดอร์) ผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ประเภทความสวยงาม(ผิวพรรณ)จากลูกค้ารายใหม่ ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยบริษัทฯ ได้มีการทยอยส่งมอบให้ลูกค้ารายดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้วในช่วงกลางไตรมาส 2/2565 ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ล่าสุดบริษัทฯ อยู่ระหว่างการผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารดังกล่าวเพื่อทยอยส่งมอบในช่วงครึ่งปีหลังอย่างต่อเนื่อง หลังจากออเดอร์แรกหลังจากที่วางจำหน่ายได้รับการตอบรับจากกลุ่มผู้บริโภคเป็นอย่างมาก จนสามารถสร้างมูลค่าการเติบโตของยอดขายได้อย่างรวดเร็วให้กับลูกค้ารายดังกล่าว ดังนั้นจากออเดอร์ที่ทยอยเพิ่มเข้ามาในช่วงครึ่งปีหลัง ทำให้บริษัทฯมองว่า ลูกค้ารายดังกล่าว จะเข้ามาเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพของ DOD ซึ่งคาดว่าติดอันดับ 5 (Top 5) ของบริษัทฯ ที่มียอดคำสั่งซื้อสูงสุด ภายในช่วงครึ่งปีหลังนี้ด้วย

นอกจากแผนขยายฐานกลุ่มลูกค้าในประเทศแล้ว บริษัทฯ ได้เล็งขยายเพื่อเจาะตลาดในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด ได้มีการเจรจาเพื่อพัฒนาสูตรผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารร่วมกัน กับบริษัทผู้ประกอบการจากประเทศจีน ซึ่งเป็นบริษัทมหาชนที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง โดยบริษัทฯ คาดว่าดีลดังกล่าวจะมีความชัดเจนภายในไตรมาส 3/2565 นี้ ซึ่งในเบื้องต้นหากการเจรจาดีลดังกล่าวสำเร็จ จะสามารถจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดังกล่าว ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ

สำหรับความคืบหน้าของบริษัท สยาม เฮอเบิล เทค จำกัด (SHT) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ DOD ที่ดำเนินธุรกิจโรงสกัดสารสกัดจากกัญชงนั้น บริษัทฯ เชื่อว่าในช่วงครึ่งปีหลังจะมีทิศทางการดำเนินงานที่ดีขึ้น จากการมีปริมาณการใช้ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อยอดขายที่จะเพิ่มขึ้น ในขณะที่ต้นทุนจากวัตถุดิบจะถูกลง จากจำนวนผู้ปลูกที่มีมากขึ้น ทั้งนี้ ในช่วงเดือนกันยายนนี้ ทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) จะมีประกาศการเพิ่มปริมาณของสาร CDB ในผลิตภัณฑ์กลุ่มอาหารเสริม ซึ่งจะทำให้มีปริมาณความต้องการใช้มากขึ้น ดังนั้น บริษัทฯ จึงเชื่อว่าภายในปี 2565 จะเริ่มเห็นยอดขายของสาร CBD เข้ามา หลังจากที่ อย. ประกาศเพิ่มปริมาณของสาร CDB ออกมาอย่างเป็นทางการ

ทั้งนี้ปัจจุบัน SHT ได้เริ่มดำเนินการสกัดสาร CBD ภายในโรงสกัดที่ได้มาตรฐานสากลเชิงพาณิชย์อย่างถูกกฎหมายเป็นรายแรกของภูมิภาคเอเชียอาคเนย์ รวมถึงเป็นผู้จัดหาวัตถุดิบ ด้วยการรับซื้อช่อดอกกัญชงเข้ามาสกัดอย่างต่อเนื่องจากทั้งเกษตรกรพันธมิตรและเกษตรกรรายใหม่ๆ หลังจากที่ SHT เปิดรับซื้อ ส่งผลให้ปัจจุบันบริษัทฯ มีวัตถุดิบช่อดอกมากกว่า 1,000 กิโลกรัม รองรับความต้องการที่จะมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้ง SHT จะเริ่มจำหน่ายสารสกัด CBD ที่เป็นวัตถุดิบในการผสมในผลิตภัณฑ์ให้กับ DOD และกลุ่มลูกค้าทั่วไป เพื่อนำไปผลิตผลิตภัณฑ์ต่างๆ โดยวัตถุดิบดังกล่าวเริ่มมีการทยอยส่งมอบตั้งแต่ช่วงไตรมาส2/2565 ที่ผ่านมา

“เรามีเป้าหมายให้บริการวิจัยคิดค้นสูตรและการผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีส่วนผสมของกัญชง-กัญชา อย่างครบวงจรแบบ One Stop Service Solution ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงผลิตภัณฑ์ปลายน้ำ โดยล่าสุดเราได้เซ็นสัญญากับพันธมิตรด้านเทคโนโลยีในประเทศอเมริกา เพื่อนำเทคโนโลยีมาใช้ในไลน์ผลิตเพื่อต่อยอดผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกัญชง โดยจะนำทั้งเครื่องผลิต สูตร และองค์ความรู้ (Know-how) ของพันธมิตรมาประยุกต์ใช้กับริษัทฯ” นายธนิน กล่าว

อย่างไรก็ดีผลประกอบการไตรมาส 2/65 บริษัทฯ ขาดทุนลดลง อยู่ที่ 25.72 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน ที่ขาดทุน 57.83 ล้านบาท

Back to top button