ERW ลุ้นไตรมาส 2 สดใส! รายได้ต่อห้อง เม.ย.-พ.ค. พุ่ง โบรกแนะ “ซื้อ” เป้า 6 บาท

โบรกแนะ “ซื้อ” ERW เป้า 6 บาท คาดผลการดำเนินงานไตรมาส 2/66 ยังคงมีกำไรได้ หลังบริษัทฯยันรายได้ต่อห้อง เดือนเม.ย.-พ.ค. เพิ่มขึ้น พร้อมมั่นใจครึ่งปีหลังนักท่องเที่ยวจีนกลับมาไทยคึก ลุ้นดันกำไรทั้งปี 66 แตะ 464 ล้านบาท


บริษัท หลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์เมื่อวันที่ (9 มิ.ย.66) ว่าจากการเข้าไปรับฟังข้อมูลอัพเดทจาก บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ERW ทำให้มีมุมมองเป็นบวกมากขึ้นต่อเอราวัณในเรื่อง RevPAR หรือ (รายได้ต่อห้อง) ในช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค. 66 ที่ยังคงเพิ่มขึ้นได้ดีเมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน แต่ลดลงจากไตรมาสก่อนน้อยว่าฝ่ายวิจัยคาดแม้ว่าจะเป็นช่วงโลซีซั่นเพราะยังมี pent-updemand อยู่

ทั้งนี้ ภาพรวม RevPAR (ไม่รวม Hop Inn) อยู่ที่ระดับ 2,400 บาท เพิ่มขึ้น 106% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน แต่ลดลงเพียง 7% จากไตรมาสก่อนหน้า โดยการลดลงจากไตรมาสก่อนหน้ามาจากต่างจังหวัดมากกว่าใน กทม. โดยมีอัตราการเข้าพัก อยู่ที่ 80% เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2/65 ที่ 55% เนื่องจากการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยว แต่ลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 1/66 ที่ 84% จากช่วงโลซีซั่น

ขณะที่รายได้เฉลี่ยต่อห้อง (ADR) อยู่ที่ 3,000 บาท เพิ่มขึ้น 43% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน แต่ลดลงเพียง 3% จากไตรมาสก่อนหน้า โดยโรงแรมระดับ Economy เริ่มมีการปรับลดราคาลงเพราะเป็นช่วงหน้าฝน ขณะที่ HopInn ในไทย RevPAR ยังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่องเพิ่มขึ้นที่ 17% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน แต่ลดลงเล็กน้อย 1% จากไตรมาสก่อนหน้า ส่วน Hop Inn ที่ฟิลิปปินส์มี RevPAR เพิ่มขึ้น 34% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน แต่ลดลง 7% จากไตรมาสก่อน จากนักท่องเที่ยว Localเป็นหลัก

นอกจากนี้ทางฝ่ายวิจัยคาดว่า ภาพรวม RevPAR ในเดือน มิ.ย. 66 จะเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน แต่มีจะลดลงจากไตรมาสก่อน จากนักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามาช้ากว่าคาด เพราะมีความล่าช้าในการขออนุญาตเดินทางเข้าไทย ซึ่งทางการไทยอยู่ระหว่างการแก้ไข

ขณะเดียวกันยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 66 อยู่ที่ 464 ล้านบาท ซึ่งเป็นระดับเดียวกันกับปี 62 แล้ว โดยมีการฟื้นตัวได้ดีจากปี 65 ที่ขาดทุนสุทธิ 224 พันล้านบาท ขณะที่คาดว่าผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/66 จะยังคงเห็นเป็นกำไรได้ โดยจะฟื้นตัวได้ดีเมื่อเทียนกับงวดเดียวของปีก่อน จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น แต่จะลดลงจากไตรมาสก่อน เพราะช่วงโลซีซั่นของไทย แต่ยังมีโครงการเราเที่ยวด้วยกันช่วยหนุนได้บ้างในเดือน มี.ค.-เม.ย.66

โดยประมาณการกำไรทั้งปีมี upside เพราะ RevPAR ในเดือน เม.ย.-พ.ค. 66 แต่อย่างไรทางฝ่ายวิจัยต้องขอรอดูตัวเลขเดือน มิ.ย. 66 อีกทีก่อน เบื้องต้นให้ราคาเป้าหมายปี 66 ที่ 6.00 บาท  แนะนำ “ซื้อ”

ส่วนผลการดำเนินงานไตรมาส 1 สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค. 66 บริษัทมีรายได้รวมขยับขึ้นมาอยู่ที่ 1,789 ล้านบาท จากงวดเดียวของปีก่อน 648 ล้านบาท ส่งผลให้พลิกมีกำไรสุทธิ 238.56 ล้านบาท หรือ 0.0526 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อนขาดทุนสุทธิ 313.10 ล้านบาท หรือ 0.0691 บาทต่อหุ้น

สำหรับผลการดำเนินงานเติบโตแกร่ง โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักจากการเติบโตอย่างเด่นชัดของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทยซึ่งในไตรมาส 1/66 มีนักท่องเที่ยว ต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยจำนวน 6.5 ล้านคน เติบโต 1,202% จากไตรมาส 1/65 ส่งผลให้ภาพรวมผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/66 ของทั้งกลุ่มโรงแรมในประเทศไทยและฟิลิปปินส์ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง

Back to top button