“สุเชษฐ์” แนะเก็บ 8 ตัวจี๊ดพื้นฐานแกร่ง ติดกลุ่มหุ้นยั่งยืน
“สุเชษฐ์” แนะนำเก็งกำไร 8 หุ้น KBANK- BANPU- BTS- SCGP- OR- PR9- BH- BDMS ติดอยู่ในกลุ่มหุ้นยั่งยืนที่เป็นทิศทางดี
นายสุเชษฐ์ สุขแท้ รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายมีเดียมาร์เก็ตติ้ง บริษัทหลักทรัพย์ เอเอสแอล จำกัด เปิดเผยผ่านรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด” วันนี้ (13 มิ.ย. 66) ว่า ภาพรวมของ SET นั้นอยู่ในทิศทางที่ไม่ค่อยดีนัก เนื่องจากตลาดหุ้นต่างประเทศอยู่ในลักษณะที่อ่อนตัว อาทิ ตลาดฮ่องกง ตลาดญี่ปุ่น หรือตลาดจีน สาเหตุมาจากฝั่งทางตลาดสหรัฐอเมริกา แนะว่าให้ใช้กลยุทธ์ถอยรับอย่างเดียว ส่วนในแง่ปัจจัยบวก คือ การประกาศรายชื่อส.ส. คิดว่าปัจจัยนี้จะสามารถทำให้ภาพรวมของตลาดกลับมาดีได้
ทั้งนี้ จุดที่สามารถบ่งบอกได้ว่าตลาดหุ้นยังคงอยู่ในทิศทางที่ดีนั้น คืออยู่ที่ระดับ 1,550-1,540 และ 1,520 จุด ถ้าหากตลาดหลุดจากระดับ 1,550 และ 1,540 จุด จะสะท้อนถึงว่าสถานการณ์ของตลาดจะเพี้ยนลงไปข้างล่าง และหากหลุดจากระดับ 1,520 จุดไปอีกก็จะเริ่มเป็นที่น่ากังวลแล้ว
ด้านหุ้นยั่งยืนในตลาดหลักทรัพย์ไทยทั้งหมดจำนวน 150 หุ้น อยู่ในทิศทางที่ดี อาทิ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK แนวรับอยู่ที่ระดับ 125 บาท แนวต้านมีอยู่ที่ระดับ 135-140 บาท หากผ่านได้ลุ้นไปทดสอบระดับ 140 บาท โดยหากผ่านได้มองว่าสามารถเป็นขาขึ้น, บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU แนวรับที่สำคัญอยู่ที่ระดับ 8.15 บาท แนวต้านอยู่ที่ 10-11 บาท
บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS แนวรับสำคัญอยู่ที่ระดับ 7.50 บาท มองว่าไม่น่าต่ำกว่าระดับ 7 บาท หากต่ำกว่านี้มองว่ามีความผิดพลาดในการลงทุนเกิดขึ้น ต้องตัดขาดทุนเท่านั้น ส่วนแนวต้านอยู่ที่ระดับ 8 บาท, บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP แนวรับที่สำคัญคือ 37 บาท แนวต้านอยู่ที่ระดับ 42-45 บาท และบริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR จุดอันตรายของหุ้นนี้อยู่ที่ระดับ 23-22.50 บาท
อีกทั้งด้านหุ้นอุตสาหกรรม ในแง่ของหมวดหมู่อาหารนั้นมองว่ายังอยู่ในทิศทางที่ดี หมวดหมู่โรงพยาบาลนั้นเริ่มมีการขยับขึ้นในหลาย ๆ ตัว อาทิ บริษัท โรงพยาบาลพระรามเก้า จำกัด (มหาชน) หรือ PR9 , บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BH และมองว่า บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด(มหาชน) หรือ BDMS ยังเป็นตัวเด่นของหุ้นโรงพยาบาล
นายสุเชษฐ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า นโยบายของพรรคที่อาจได้รับการจัดตั้งรัฐบาลนั้นมีข้อเสีย คือ นโยบายการขึ้นค่าแรงงาน เพราะส่งผลกระทบต่อนายจ้าง เมื่อเกิดการขึ้นค่าแรง นายจ้างอาจจะต้องนำเอาเครื่องจักรมาแทนแรงงานคน และเกรงว่าหากเกิดสถานการณ์เช่นนี้ คนงานจะลาออก มองว่าเป็นประเด็นสำคัญที่น่ากังวลใจ กลุ่มหุ้นที่โดนผลกระทบในเรื่องนี้ เช่น กลุ่มหุ้นอุตสาหกรรมอาหารทะเล กลุ่มหุ้นรับเหมาก่อสร้าง กลุ่มหุ้นบ้านพร้อมที่ดิน เนื่องจากต้องใช้แรงงานคนค่อนข้างมาก