ก.ล.ต. ย้ำเปิดกองทุน “TESG” ไม่ช่วยพยุง “SET” แต่เน้นลดหย่อนภาษี “มนุษย์เงินเดือน”

ก.ล.ต. มองเปิดกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน หรือ TESG ไม่ช่วยพยุงตลาดหุ้น แต่เน้นเก็บออมและลดหย่อนภาษี "มนุษย์เงินเดือน" ด้าน “เฟทโก้” เล็งเสนอเปิดกองทุนใหม่เพื่อการศึกษา


น.ส.พรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า นับตั้งแต่วันที่ 8 ธ.ค.66 เป็นต้นไป ได้พร้อมเปิดเสนอขายกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน หรือ ทีอีเอสจี แล้วพร้อมกันทั้งหมด 22 กองทุนจาก 16 บริษัทจัดการลงทุน สำหรับผู้ที่มีเงินได้จะได้สิทธิหักลดหย่อนค่าซื้อหน่วยลงทุนดังกล่าวในอัตราไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน เฉพาะส่วนที่ไม่เกิน 100,000 บาท สำหรับปีภาษีและจะต้องถือหน่วยลงทุนไว้ไม่น้อยกว่า 8 ปีนับตั้งแต่วันที่ซื้อ ซึ่งสามารถใช้ลดหย่อนภาษีของปี 66 ได้เลยนั้น ตั้งเป้าหมายจะได้การตอบรับและสามารถระดมเงินลงทุนได้ 10,000 ล้านบาท ภายในปี 66 นี้ และคาดว่าจะมีจำนวนกองทุนเพิ่มขึ้นในปีต่อๆ ไป

อย่างไรก็ตาม มองว่ากองทุนดังกล่าวไม่ได้เข้ามาช่วยพยุงตลาดหุ้นตามที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ แต่จะช่วยส่งเสริมการทำดี เกิดคนที่ระดมทุนไปเพื่อสิ่งดีๆ อีกทั้งผู้ลงทุนยังได้รับผลตอบแทนจากกิจกรรมดีๆ ด้วย ซึ่งจากการศึกษาของ ก.ล.ต.ที่ผ่านมา เรื่องกรีนโปรดักส์ที่ผ่านมาพบว่าคนไทยรุ่นใหม่ให้ความสนใจมาก ฉะนั้นเชื่อว่ากองทุนดังกล่าวที่มีการลงทุนวงเงินไม่เกิน 100,000 บาทนั้นจะเหมาะสมกับการเก็บออมที่พอเหมาะกับตนเองโดยเฉพาะมนุษย์เงินเดือนที่ปกติเสียภาษีเต็มจำนวน

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (เฟทโก้) กล่าวว่า หลังจากเริ่มเปิดขายกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืนจะทำให้มีนักลงทุนที่ให้ความสนใจและเข้าซื้อกองทุนดังกล่าวช่วง 3 สัปดาห์ก่อนสิ้นปี 66 มากถึง 10,000 ล้านบาท จากนั้นปีถัดไปเพิ่มขึ้นเป็น 20,000-30,000 ล้านบาท และในช่วงต้นปีหน้าทางเฟทโก้ยังเตรียมจะไปหารือกับรัฐบาลเรื่องกองทุนเพื่อการศึกษา เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนทั่วไป ผู้ปกครอง พ่อแม่ที่มีบุตรหลาน เก็บออมเงินเพื่อการศึกษาให้กับลูกตั้งแต่ลูกยังเด็กจนถึงมัธยม สามารถถอนกองทุนได้แบบไม่เสียภาษี หากมีใบเสร็จค่าเทอมลูกมาแสดงก็จะไม่เสียภาษี ซึ่งเป็นแนวทางเหมือนในต่างประเทศ

ขณะเดียวกันยังมีแผนจะเข้าไปขอเงินลงทุนจากกองทุนส่งเสริมการพัฒนาตลาดทุน (ซีเอ็มดีเอฟ) 80 ล้านบาท เพื่อดำเนินโครงการใหม่ 4 โครงการ ได้แก่ โครงการอีเอสจีพอร์ทัล วงเงิน 20 ล้านบาท เพื่อรวบรวมความรู้ทุกเรื่องเกี่ยวกับอีเอสจีทั้งหมดให้ทุกคนรู้จัก คาดว่าจะเริ่มดำเนินการในช่วง 1-2 เดือนนี้, โครงการซิงเกิ้ลพอร์ทัล วงเงิน 20 ล้านบาท เพื่อเปิดเว็บไซต์เพื่อเป็นศูนย์กลางสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการติดต่อขอใบอนุญาตจากทางการโดยไม่ต้องเดินทางไปติดต่อเอง

Back to top button