2 โบรกเชียร์ “ซื้อ” GFC เคาะเป้าสูง 16 บาท ลุ้นผลงาน Q1 ออลไทม์ไฮ 

2 โบรกเชียร์ “ซื้อ” GFC เคาะราคาเป้าหมาย 12-16 บาท ลุ้นผลงานไตรมาส 1/67 ออลไทม์ไฮ รับดีมานด์ผู้มีบุตรยากเพิ่ม พร้อมจ่อเปิดสาขาใหม่ สุวรรณภูมิ-พระราม 9 และอุบลราชธานีปลายไตรมาส 2/67 นี้


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากอัตราผู้เข้ารับการรักษาภาวะผู้มีบุตรยากในประเทศไทยเพิ่มสูงขึ้นส่งผลให้บริษัท เจเนซีส เฟอร์ทิลีตี เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ GFC ผู้ให้บริการทางการแพทย์สำหรับผู้มีปัญหามีบุตรยากแบบครบวงจร ตั้งแต่การรับบริการตรวจเบื้องต้น, การรักษาด้วยวิธี IUI, การรักษาด้วยวิธี ICSI, การตรวจพันธุกรรมของตัวอ่อน NGS และการฝากไข่ รับอานิสงส์สอดรับกับดีมานด์ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

โดยสะท้อนถึงความสำเร็จ ในการเป็นผู้เชี่ยวชาญและผู้ชำนาญการด้านสูตินรีเวชและเทคโนโลยีเจริญพันธุ์ที่มีประสบการณ์ด้านการให้บริการทางการแพทย์สำหรับผู้มีปัญหามีบุตรยากของ GFC ที่สามารถตอบโจทย์อัตราความสำเร็จ (Success Rate) ในการตั้งครรภ์ที่สูงกว่าค่าเฉลี่ย

ล่าสุดบริษัทหลักทรัพย์บียอนด์ จำกัด (มหาชน) และ บริษัทหลักทรัพย์ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) แนะนำหุ้น “GFC” พร้อมประเมินอัตราการเติบโตไตรมาส 1/67 เพิ่มสูงขึ้น ตอกย้ำถึงผลประกอบการที่ก้าวสู่ระดับ All Time High ของ GFC ได้เป็นอย่างดี

โดยบริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) มีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มการเติบโตของรายได้ของ GFC ประเมินรายได้และกำไรสุทธิในไตรมาส 1/67 สูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังจากมีกำไรสุทธิที่แข็งแกร่งถึง 77 ล้านบาท ในปี 66 โดยคาดว่า GFC ทำรายได้ไตรมาส 1/67 สูงสุดถึง 115 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.8% (เทียบไตรมาสก่อนหน้า) และ 33.6% (เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน) โดยได้รับแรงหนุนจากจำนวนผู้เข้ารับการรักษาที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 26% และมีกำไรสุทธิในไตรมาส 1/67 ที่ 30 ล้านบาท

นอกจากนี้ยังได้ประเมินการเติบโตทั้งปีของ GFC โดยคาดว่ามีกำไรสุทธิที่ 112 ล้านบาท และรายได้คาดว่าแตะ 502 ล้านบาท แนะนำซื้อโดยให้ราคาเป้าหมาย 16 บาท เมื่อเทียบกับระดับ P/E ที่ 31 เท่า

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ประเมินกำไรสุทธิ ไตรมาส 1/67 อยู่ที่ 24 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% (เทียบไตรมาสก่อนหน้า) และ 29% (เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน) รับปีมังกร โดยคาดรายได้เพิ่มขึ้น 8% (เทียบไตรมาสก่อนหน้า) และ 27% (เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน) จากทั้งจำนวนผู้มีบุตรยากที่เข้ามารับบริการรักษามีจำนวนเพิ่มขึ้น ส่งผลให้กำไรสุทธิปี 67 อยู่ที่ 105 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36% (เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน) และปี 68 อยู่ที่ 130 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.5% (เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน) จากผลการเปิดสาขาใหม่ สุวรรณภูมิ-พระราม 9 และอุบลราชธานีปลายไตรมาส 2/67

อีกทั้งบริษัทได้การนำเอาเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธ์ขยายห้อง LAB ที่เป็นมาตรฐานสากลเพื่อรองรับลูกค้าต่างชาติที่จะเข้ารับบริการเป็นปีแรก และจะเริ่มเห็นลูกค้าจากประเทศจีนเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง 67 ดังนั้นแนะนำ “ซื้อ” โดยให้ราคาเป้าหมาย 12 บาท อิง P/E 25 เท่า

Back to top button