LTS แต่งตั้ง “บล.ซีจีเอสฯ” อันเดอร์ไรท์เตอร์ พร้อมโรดโชว์! จ่อเทรด mai 17 พ.ค.นี้

LTS แต่งตั้ง "บล.ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล" เป็นอันเดอร์ไรท์เตอร์ ส่วน "บล.หยวนต้า" เป็นผู้ร่วมจัดจำหน่าย ราคา IPO 3 บาท เปิดจองซื้อรายย่อย 9-10-13 พ.ค. 67 พร้อมจัดโรดโชว์นำเสนอข้อมูลนักลงทุน ก่อนเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ mai 17 พ.ค.นี้


นายภัฏ ตรัส โฆษิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไลท์อัพ โทเทิล โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ LTS เปิดเผยว่าบริษัทฯ มีวัตถุประสงค์การเข้ามาระดมทุนในครั้งนี้ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการบริหารงาน โดยต้องการระดมทุนเพื่อใช้เป็นทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ และขยายโชว์รูม รวมทั้งโกดังสินค้า และขยายกิจการให้มีความแข็งแกร่งขึ้น รองรับการขายสินค้าแก่โครงการขนาดใหญ่ของบริษัทฯในอนาคต

โดยปัจจุบันบริษัทฯ มีรายได้จากการการขายอุปกรณ์ส่องสว่างและอุปกรณ์เสริมสำหรับการติดตั้งอุปกรณ์ส่องสว่าง เช่น โคมไฟฟ้า, ไฟสปอตไลท์ และไฟเพื่อการตกแต่ง แก่ลูกค้า 3 กลุ่มหลักคือ 1) ลูกค้าสถาปนิกหรือผู้รับเหมา 2) ลูกค้าโครงการรัฐบาล รัฐวิสาหกิจและเอกชนขนาดใหญ่ และ 3) ลูกค้าค้าส่งและค้าปลีก ผ่านช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านทางพนักงานขายและช่องทางออนไลน์

ทั้งนี้ ได้แต่งตั้งให้ บริษัท ออพท์เอเซีย แคปิตอล จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงินของบริษัท (FA) และ บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ และบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ พร้อมกับดำเนินการนำเสนอข้อมูลต่อนักลงทุน (Roadshow) ในวันที่ 8 พ.ค. 67 เพื่อแสดงให้เห็นศักยภาพการเติบโตของธุรกิจ ตอกย้ำการเป็นผู้ประกอบการที่มีความเชี่ยวชาญด้านการออกแบบ ติดตั้งและจัดจำหน่ายอุปกรณ์ไฟฟ้าส่องสว่าง รวมถึงงานออกแบบระบบเทคโนโลยีควบคุมอุปกรณ์ Internet of Things (IOT) ชั้นนำของประเทศไทย

นายภัฏ กล่าวว่า ในอนาคตยังสามารถขยายธุรกิจเพื่อรองรับโครงการขนาดใหญ่ของบริษัทฯ อาทิ สวนสาธารณะอัจฉริยะ โครงการ smart pole, โครงการ smart city, โครงการ smart street light และ โครงการในอนาคตสำหรับ IT Solution โดยบริษัทฯ จะเข้าไปมีส่วนร่วมในการพัฒนาและจำหน่ายชุดคำสั่งต่างๆ ให้แก่องค์กรต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น อุตสาหกรรม, มหาวิทยาลัย, ภาครัฐ และภาคเอกชน

โดยมีการบริการแบบครบวงจร ซึ่งมีผลิตภัณฑ์หลัก 3 กลุ่ม ได้แก่ 1) ด้าน Subscription เป็นการซื้อลิขสิทธิ์โปรแกรมมาเพื่อจัดจำหน่ายต่อเพื่อให้ลูกค้าสมัครใช้บริการในรูปแบบรายเดือนหรือรายปี 2) Software Development เป็นการพัฒนาโปรแกรมขึ้นมาจากทีมงานของบริษัท ซึ่งจะมีทั้งการขายสิทธิ์โปรแกรมให้แก่ลูกค้าหรือการให้เช่าใช้โปรแกรม และ 3) General Service เป็นบริการให้คำแนะนำในการใช้โปรแกรมที่บริษัทให้บริการ รวมถึงการบริการอบรมพนักงานทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศรวมอยู่ด้วย

“การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในหมวดสินค้าอุปโภคบริโภคภายในไตรมาส 2/67 นี้ นับเป็นก้าวสำคัญในการต่อยอดธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน อีกทั้งยังเป็นการขยายธุรกิจใหม่ ๆ ทางด้าน IOT เพื่อเพิ่มมูลค่าให้แก่ผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัทให้เป็น One Stop Service  รวมถึงยังเสริมความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้าและพันธมิตร ที่จะทำให้เห็นว่า LTS ได้รับความสนใจจากนักลงทุนอีกด้วย” นายภัฏ กล่าว

นางดาริน กาญจนะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออพท์เอเชีย แคปิตอล จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน เปิดเผยว่า บริษัทได้กำหนดจัดกิจกรรมเดินสายนำเสนอข้อมูล (โรดโชว์) ในวันที่ 8 พ.ค. 67 เพื่อนำเสนอข้อมูลให้นักลงทุนที่สนใจ หลังสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) อนุญาตให้บริษัทเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) เรียบร้อยแล้ว อาทิ การถ่ายทอดสดผ่าน Live Streaming เพื่อนำข้อมูลธุรกิจและศักยภาพการเติบโตของ LTS ในทุกมิติ

นอกจากนี้ยังรวมถึงการตอกย้ำจุดเด่นเพื่อให้นักลงทุนรู้จักและเข้าใจลักษณะการดำเนินธุรกิจของบริษัท ซึ่งเป็นการเพิ่มความเชื่อมั่นให้นักลงทุนก่อนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) โดยคาดว่าจะอยู่ในช่วงไตรมาส 2/67

สำหรับโครงสร้างรายได้และกำไรของ LTS ในปี 64 มีรายได้รวมประมาณ 163 ล้านบาท และมีกำไร 0.72 ล้านบาท ในปี 65 มีรายได้รวมประมาณ 232 ล้านบาทและกำไร 15.01 ล้านบาท ขณะที่ในปี 66 มีรายได้รวม 227 ล้านบาท และกำไร 31.43 ล้านบาท โดยที่ผ่านมาส่วนใหญ่รายได้มาจากการจัดจำหน่ายให้กลุ่มลูกค้าผู้รับเหมาหรือสถาปนิกการ และจำหน่ายลูกค้าโครงการขนาดใหญ่เป็นหลัก แต่ในปี 66 เป็นปีแรกที่มีรายได้จากธุรกิจ IT Solutions เข้ามาเสริมด้วย ซึ่งมีแนวโน้มที่จะเติบโตต่อไป

ด้านนางสาววีรยา ศรีวัฒนะ หัวหน้าฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญของ LTS เปิดเผยว่า ปัจจุบัน LTS มีทุนจดทะเบียนจำนวน 103,300,000 บาท เป็นทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 75,800,000  บาท (ก่อนเสนอขายหุ้น IPO) โดยบริษัทจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 55,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท คิดเป็น 26.62% ของจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดของบริษัทภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้

โดยกำหนดการเปิดจองซื้อสำหรับนักลงทุน ระหว่างวันที่ 9, 10, 13 พ.ค. 67 โดยมีแผนจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) หมวดสินค้าอุปโภคบริโภค ในวันที่ 17 พ.ค. 67 และใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “LTS”

ทั้งนี้ ได้กำหนดสัดส่วนการเสนอขายหุ้น ดังนี้ 1.เสนอขายต่อบุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ ประมาณ ไม่น้อยกว่า 46,200,000 หุ้น 2.เสนอขายต่อผู้มีอุปการคุณของบริษัทและบริษัทย่อย ประมาณไม่เกิน 4,400,000 หุ้น และ 3.เสนอขายต่อกรรมการ ผู้บริหาร พนักงานและ/หรือบุคคลที่มีความสัมพันธ์ของบริษัทและบริษัทย่อย ประมาณไม่เกิน 4,400,000 หุ้น

โดยมีราคาเสนอขายต่อประชาชนทั่วไปที่ราคา 3 บาท/หุ้น มูลค่าการเสนอขาย 165,000,000 บาท ทั้งนี้ ราคาเสนอขายดังกล่าว คิดเป็นอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (Price to Earnings ratio : P/E) ประมาณ 19.72 เท่า จากจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วหลังการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้เท่ากับ 206,600,000 หุ้น และกำไรสุทธิของบริษัทฯ ในช่วง 4 ไตรมาสล่าสุด (ตั้งแต่ไตรมาส 1 ปี 2566 ถึง ไตรมาส 4 ปี 2566) ซึ่งเท่ากับ 31.43 ล้านบาท

Back to top button